"สิงห์บลูส์" เชลซี ออกอาการปืนฝืดอีกนัดบุกเสมอ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม 0-0 ในลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ของศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งช่วงทดเจ็บเจ้าถิ่นพลาดจุดโทษ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฟูแลม 0-0 เชลซี
คาร์โล อันเชล็อตติ หวังนำพลพรรค "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกเก็บสามแต้มเพื่อแซง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลับสู่ท็อปโฟร์อีกครั้ง เกมนี้ทีมเยือนส่ง ดาวิด ลุยซ์ ลงค้ำหลังร่วมกับ จอห์น เทอร์รี แนวรุกใส่ ฟลอร็องต์ มาลูดา ปั่นเกมให้ นิโกลาส์ อเนลกา กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลุ้นสกอร์ ส่วน ดิดิเยร์ ดร็อกบา ถูกถอดมาไว้ที่ข้างสนาม ด้าน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ลุ้นฟอร์มดีต่อเนื่อง กุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส จัดทัพใหญ่รับมือคู่ปรับร่วมเมือง แผงมิดฟิลด์อาศัยการทำเกมริมเส้นจาก เดเมียน ดัฟฟ์ กับ คลินท์ เดมป์ซีย์ คอยโยนบอลให้คู่หัวหอก แอนดี จอห์นสัน และ มุสซา เดมเบเล เข้าทำ
เริ่มเกมการแข่งขัน ฟูแลม ฉวยโอกาสบุกขึ้นมาทางกราบ เดเมียน ดัฟฟ์ ตบจากริมเส้นฝั่งขวาไปเสาแรกให้ แอนดี จอห์นสัน ยิงเร็วทว่าติดบล็อก ดาวิด ลุยซ์ ออกหลังไป จากนั้น เชลซี เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้เมื่อผ่าน 15 นาทีแรก เฟร์นานโด ตอร์เรส จ่ายให้ แอชลีย์ โคล แตะคืนหลัง แฟรงค์ แลมพาร์ด ตะบันติดบล็อกมาเข้าทาง รามิเรส เข้าซ้ำบอลหลุดกรอบ นาทีที่ 23 เจ้าถิ่นเกือบมีเฮเมื่อ ดัฟฟ์ ลากเข้ามาส่องเต็มข้อร้อนถึง ปีเตอร์ เช็ก ต้องชกลูกยิงของเพื่อนเก่าออกมา
สามนาทีถัดมา "สิงห์บลูส์" ลุยขึ้นมาบ้างหลังปล่อยให้เจ้าบ้านขึงเกมอยู่พักใหญ่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลุยขึ้นมาเปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาให้ แลมพาร์ด เอี้ยวตัววอลเลย์ข้ามคาน ถัดมา ฟลอร็องต์ มาลูดา กระชากเข้าไปยิงเองด้วยซ้ายเฉียดคานไปนิดเดียว ทีมเยือนมีโอกาสถี่ขึ้น อิวาโนวิช กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลจะเสียบเสาไกลทว่า มาร์ค ชวาร์เซอร์ ถอยไปปัดบอลได้ทัน ท้ายครึ่งแรก ตอร์เรส สบโอกาสกระชากเข้ากรอบโทษ แต่จังหวะง้างเท้ายิงโดน อารอน ฮิวจ์ส ตามแหย่สกัดทำให้บอลพุ่งไม่ค่อยมีน้ำหนัก ชวาร์เซอร์ รับกินสบาย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี เปิดฉากลุยก่อน รามิเรส เล่นชิ่งกับ อิวาโนวิช ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ตอร์เรส ลอยตัวขวิดโด่งเกินไป ถัดมาเจ้าบ้านได้ลุ้นบ้างจากการเติมขึ้นมาส่องไกลของ คาร์ลอส ซัลซิโด ตรงตัว เช็ก แม้จะเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม โอกาสบุกทะลวงประตูแบบเน้นๆ ของผู้มาเยือนยังไม่มีให้เห็นมากนัก คาร์โล อันเชล็อตติ จึงตัดสินใจส่ง ซาโลมง กาลู ลงมาปั้นเกมแทน นิโกลาส์ อเนลกา เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม จากนั้นอีก 6 นาที มาลูดา ลากตัดจากซ้ายเข้ามายิงด้วยขวา บอลพุ่งผ่านมือ ชวาร์เซอร์ แต่ก็หลุดเสาไกลออกไปเช่นกัน
เมื่อขึงเกมได้แล้ว "คาร์เล็ตโต" จัดการส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงมาล่าตาข่ายแทน ตอร์เรส ที่ลงเล่นนัดที่สองให้ต้นสังกัดใหม่แต่ยังเบิกประตูไม่ได้ นาทีที่ 78 เชลซี ใกล้เคียงกับการได้ประตูที่สุดแล้วเมื่อ แลมพาร์ด เปิดไปเสาแรกให้ มิคาเอล เอสเซียง โผเข้ามาขวิดบอลบางเกินไปจึงหลุดเสาสอง ช่วงทดเจ็บ ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งเล่นดีทั้งเกมพลาดเสียบ คลินท์ เดมป์ซีย์ จนเสียจุดโทษ ทว่าดาวเตะมะกันลุกขึ้นมาสังหารพลาดติดเซฟ เช็ก ครบ 90 นาที จึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้แชมป์เก่ามีเพิ่มเป็น 45 คะแนนจาก 26 นัด ยังอยู่ที่ 5 ส่วน ฟูแลม รั้งที่ 12 มี 31 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , คริส แบร์ด , อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮันเกลันด์ , คาร์ลอส ซัลซิโด , เดเมียน ดัฟฟ์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , สตีฟ ซิดเวลล์ , คลินท์ เดมป์ซีย์ , แอนดี จอห์นสัน , มุสซา เดมเบเล
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ดาวิด ลุยซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , รามิเรส , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอร็องต์ มาลูดา , เฟร์นานโด ตอร์เรส , นิโกลาส์ อเนลกา
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฟูแลม 0-0 เชลซี
คาร์โล อันเชล็อตติ หวังนำพลพรรค "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกเก็บสามแต้มเพื่อแซง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลับสู่ท็อปโฟร์อีกครั้ง เกมนี้ทีมเยือนส่ง ดาวิด ลุยซ์ ลงค้ำหลังร่วมกับ จอห์น เทอร์รี แนวรุกใส่ ฟลอร็องต์ มาลูดา ปั่นเกมให้ นิโกลาส์ อเนลกา กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลุ้นสกอร์ ส่วน ดิดิเยร์ ดร็อกบา ถูกถอดมาไว้ที่ข้างสนาม ด้าน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ลุ้นฟอร์มดีต่อเนื่อง กุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส จัดทัพใหญ่รับมือคู่ปรับร่วมเมือง แผงมิดฟิลด์อาศัยการทำเกมริมเส้นจาก เดเมียน ดัฟฟ์ กับ คลินท์ เดมป์ซีย์ คอยโยนบอลให้คู่หัวหอก แอนดี จอห์นสัน และ มุสซา เดมเบเล เข้าทำ
เริ่มเกมการแข่งขัน ฟูแลม ฉวยโอกาสบุกขึ้นมาทางกราบ เดเมียน ดัฟฟ์ ตบจากริมเส้นฝั่งขวาไปเสาแรกให้ แอนดี จอห์นสัน ยิงเร็วทว่าติดบล็อก ดาวิด ลุยซ์ ออกหลังไป จากนั้น เชลซี เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้เมื่อผ่าน 15 นาทีแรก เฟร์นานโด ตอร์เรส จ่ายให้ แอชลีย์ โคล แตะคืนหลัง แฟรงค์ แลมพาร์ด ตะบันติดบล็อกมาเข้าทาง รามิเรส เข้าซ้ำบอลหลุดกรอบ นาทีที่ 23 เจ้าถิ่นเกือบมีเฮเมื่อ ดัฟฟ์ ลากเข้ามาส่องเต็มข้อร้อนถึง ปีเตอร์ เช็ก ต้องชกลูกยิงของเพื่อนเก่าออกมา
สามนาทีถัดมา "สิงห์บลูส์" ลุยขึ้นมาบ้างหลังปล่อยให้เจ้าบ้านขึงเกมอยู่พักใหญ่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลุยขึ้นมาเปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาให้ แลมพาร์ด เอี้ยวตัววอลเลย์ข้ามคาน ถัดมา ฟลอร็องต์ มาลูดา กระชากเข้าไปยิงเองด้วยซ้ายเฉียดคานไปนิดเดียว ทีมเยือนมีโอกาสถี่ขึ้น อิวาโนวิช กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลจะเสียบเสาไกลทว่า มาร์ค ชวาร์เซอร์ ถอยไปปัดบอลได้ทัน ท้ายครึ่งแรก ตอร์เรส สบโอกาสกระชากเข้ากรอบโทษ แต่จังหวะง้างเท้ายิงโดน อารอน ฮิวจ์ส ตามแหย่สกัดทำให้บอลพุ่งไม่ค่อยมีน้ำหนัก ชวาร์เซอร์ รับกินสบาย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี เปิดฉากลุยก่อน รามิเรส เล่นชิ่งกับ อิวาโนวิช ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ตอร์เรส ลอยตัวขวิดโด่งเกินไป ถัดมาเจ้าบ้านได้ลุ้นบ้างจากการเติมขึ้นมาส่องไกลของ คาร์ลอส ซัลซิโด ตรงตัว เช็ก แม้จะเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม โอกาสบุกทะลวงประตูแบบเน้นๆ ของผู้มาเยือนยังไม่มีให้เห็นมากนัก คาร์โล อันเชล็อตติ จึงตัดสินใจส่ง ซาโลมง กาลู ลงมาปั้นเกมแทน นิโกลาส์ อเนลกา เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม จากนั้นอีก 6 นาที มาลูดา ลากตัดจากซ้ายเข้ามายิงด้วยขวา บอลพุ่งผ่านมือ ชวาร์เซอร์ แต่ก็หลุดเสาไกลออกไปเช่นกัน
เมื่อขึงเกมได้แล้ว "คาร์เล็ตโต" จัดการส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงมาล่าตาข่ายแทน ตอร์เรส ที่ลงเล่นนัดที่สองให้ต้นสังกัดใหม่แต่ยังเบิกประตูไม่ได้ นาทีที่ 78 เชลซี ใกล้เคียงกับการได้ประตูที่สุดแล้วเมื่อ แลมพาร์ด เปิดไปเสาแรกให้ มิคาเอล เอสเซียง โผเข้ามาขวิดบอลบางเกินไปจึงหลุดเสาสอง ช่วงทดเจ็บ ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งเล่นดีทั้งเกมพลาดเสียบ คลินท์ เดมป์ซีย์ จนเสียจุดโทษ ทว่าดาวเตะมะกันลุกขึ้นมาสังหารพลาดติดเซฟ เช็ก ครบ 90 นาที จึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้แชมป์เก่ามีเพิ่มเป็น 45 คะแนนจาก 26 นัด ยังอยู่ที่ 5 ส่วน ฟูแลม รั้งที่ 12 มี 31 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , คริส แบร์ด , อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮันเกลันด์ , คาร์ลอส ซัลซิโด , เดเมียน ดัฟฟ์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , สตีฟ ซิดเวลล์ , คลินท์ เดมป์ซีย์ , แอนดี จอห์นสัน , มุสซา เดมเบเล
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ดาวิด ลุยซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , รามิเรส , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอร็องต์ มาลูดา , เฟร์นานโด ตอร์เรส , นิโกลาส์ อเนลกา