เว็บไซต์อย่างเป็นทางการสโมสรเชลซี สัมภาษณ์เปิดใจ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงวัย 26 ปีชุดแชมป์โลก 2010 กับทีมชาติสเปน หลังย้ายจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติใหม่ของ อังกฤษ 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองปิดทำการเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา MGR Sport นำมาถ่ายทอดอีกต่อหนึ่ง
ทำไมต้องเป็นเชลซี และทำไมต้องเป็นตอนนี้?
“ผมรู้สึกได้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วว่าต้องการก้าวไปอีกระดับของชีวิตค้าแข้ง ผมได้ร่วมทัพเชลซี ที่มีนักเตะระดับบิ๊กเนมอย่าง จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ผมสามารถเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ยอดเยี่ยมนี้”
“ผมต้องการร่วมทัพเชลซี เพราะว่าพวกเขาแสดงถึงความศรัทธาในตัวผมเสมอ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อทีมใดต้องการได้ตัวคุณ แฟนบอลก็เช่นกัน ทุกคนเคารพผมไม่ว่าจะเจอกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ รวมถึงที่ แอนฟิลด์ ตอนนี้ผมมีความสุขในฐานะนักเตะเชลซี”
“ถือเป็นข่าวดีเมื่อคุณสามารถเล่นในถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ลีก เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่นักเตะย้ายทีมช่วงมกราคมจะทำแบบนี้ได้ นักเตะทุกคนต้องการลงเล่นรายการนี้ ถือเป็นถ้วยที่สำคัญ เชลซี มีโอกาสลุ้นแชมป์ยุโรปทุกฤดูกาลอยู่แล้ว เมื่อคุณมีโอกาสเล่นให้กับทีมแบบนี้คงยากปฏิเสธ”
รู้สึกอย่างไรกับการที่จะได้ร่วมงานกับ คาร์โล อันเชล็อตติ?
“เขาแสดงให้เห็นแล้วตลอดเส้นทางอาชีพไม่ว่าจะเป็นนักเตะหรือโค้ช เขามีหัวจิตหัวใจของผู้ชนะ คุณคงเห็นแล้วตอนเขาเป็นโค้ชให้เชลซี แน่นอนผมตื่นเต้นมากและรู้ว่าเขาคาดหวังอะไรจากผม แน่นอนว่าผมก็จะเรียนรู้จากโค้ชและเพื่อนร่วมทีมใหม่”
คุณจะได้ร่วมงานกับ ยอสซี เบนายูน อีกครั้ง รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“โชคร้ายที่เขาได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นเรื่องดี เพราะว่าที่ลิเวอร์พูลเรามีความเข้าใจเกมยามลงสนาม เขาคือเพื่อนที่ดี หวังว่าเขาจะกลับมาเล่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมตื่นเต้นที่จะได้เล่นกับเขาอีกครั้ง แต่เหนืออื่นใดผมก็มีเพื่อนร่วมทีมใหม่รายอื่นอีก”
คุณคิดว่าจะสร้างปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ได้อีกหรือไม่?
“แน่นอน ทุกคนหวังว่าจะเกิดขึ้นทุกปี เพราะมันทำให้ผมรู้สึกหนุ่มอยู่ตลอดเวลา”
ตอร์เรส ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด ร่วมถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2007 ฤดูกาลแรกระเบิดฟอร์มซัด 33 ประตู แต่ทว่าตลอด 4 ปีกับ ลิเวอร์พูล ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์แม้แต่รายการเดียว วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์นี้จะต้องนำทัพ เชลซี เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ “หงส์แดง” ในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
