เชลซี บุกไปไล่ตามเจ๊า เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดย ซาโลมง กาลู สวมบทซูเปอร์ซับลงมายิงตีเสมอในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ทำให้ทั้งคู่ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันอีกครั้ง
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2554
เอฟเวอร์ตัน 1-1 เชลซี
ที่สนามกูดิสัน พาร์ค เป็นเกมคู่เอกประจำรอบนี้โดย เอฟเวอร์ตัน เฝ้ารังต้อนรับ เชลซี ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้านเจ้าบ้านยังไม่มี ทิม เคฮิลล์ กองกลางจอมล่าสกอร์ที่ติดเล่นให้ทีมชาติออสเตรเลียในนัดชิงชนะเลิศ เอเชียน คัพ 2011 ทำให้ต้องวางมิดฟิลด์ลงไป 5 คนคอยสนับสนุน หลุยส์ ซาฮา ส่วนทีมเยือน "แขมป์เก่า" ได้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตัวขับเคลื่อนเกมคนสำคัญหายเจ็บน่องกลับมาลงสนาม ขณะที่แดนหน้ามี ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา และ ฟลอร็องต์ มาลูดา เป็น 3 ประสาน
เปิดฉากมาทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ นาทีที่ 18 “สิงโตน้ำเงินคราม” มีลุ้นเมื่อ มาลูดา เปิดลูกเตะมุมทางขวาให้ จอห์น เทอร์รี ขึ้นโขกข้ามคานออกหลัง ถัดมา 6 นาทีเป็นโอกาสของ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” บ้าง หลังจาก มารูยาน เฟลลายนี เข้าไปแย่งบอลจาก มิชาเอล เอสเซียง ก่อนที่ ซาฮา จะไหลทะลุช่องให้ แจ๊ค ร็อดเวลล์ แตะเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังออกมาย่อตัวป้องกันไว้ได้
ล่วงมาถึงครึ่งชั่วโมงแรก เชลซี น่าได้ประตูออกนำอย่างยิ่งจากการต่อบอลตรงกลางสนามแล้ว ดร็อกบา ชิ่งให้ รามิเรส แทงทะลุช่องให้ อเนลกา หลุดเข้าไปกระทุ้งด้วยซ้าย ลูกติดเซฟ ทิม ฮาวเวิร์ด แม้จะลอดตัวแต่ก็กระดอนข้ามคานออกไปอย่างน่าหวาดเสียว นาทีที่ 34 มาลูดา ลองตะบันไกลดูบ้าง ทว่า ฮาวเวิร์ด ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้ จากนั้นนาทีที่ 44 อาร์เตตา จอมทัพเอฟเวอร์ตันได้กดเรียดนอกเขตโทษเช่นกัน แต่ก็ไม่ตรงกรอบ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 52 เจ้าถิ่นเกือบพังตาข่ายได้สำเร็จจากจังหวะที่ เทอร์รี จ่ายบอลพลาดถูก ซีมัส โคลแมน ตัดได้แล้วจ่ายให้ ร็อดเวลล์ หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดไปให้ ซาฮา ลอยตัววอลเลย์จ่อๆ ที่เสาสอง แต่ รามิเรส ยังตามมาบล็อกออกหลังได้ทันเวลา 3 นาทีให้หลัง อาร์เตตา โยนฟรีคิกจากกราบขวาโค้งไปเข้าหัว เฟลลายนี ที่โขกเต็มๆ แต่ เช็ก ยังปัดข้ามคานออกไปได้อย่างเหนียวแน่น
กระทั่งนาทีที่ 62 ทอฟฟีสีน้ำเงินก็สามารถปลดล็อกได้สำเร็จ เมื่อ เลห์ตัน เบนส์ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาให้ ซาฮา ขึ้นโหม่งกลางประตูส่งลูกผ่านมือ เช็ก เข้าไปซุกก้นตาข่ายเป็นสกอร์นำ 1-0 ทำให้สิงห์บลูส์ต้องขยับแก้เกมด้วยการส่ง ซาโลมง กาลู ลงมาแทน มาลูดา ในนาทีที่ 70 ทว่า 4 นาทีต่อมา เอฟเวอร์ตัน หวิดได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ เบนส์ โยนลึกไปเสาสองให้ โคลแมน โหม่งกดลงพื้น เช็ก ล้มตัวเซฟหนแรกมาเข้าทาง โคลแมน ซ้ำดาบสอง ทว่ายังมี เอสเซียง ตามมาสไลด์ขวางไว้ได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้น เชลซี สวนกลับขึ้นมาแล้วได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 75 โดย อเนลกา จ่ายขวางสนามให้ กาลู สอดขึ้นมาเอาบอลแล้วลากเข้าไปซัดเรียดในเขตโทษส่งลูกเสียบโคนเสาสองเข้าไป ก่อนที่ แลมพาร์ด จะถูกเปลี่ยนตัวออกไปโดยมี จอห์น โอบี มิเกล ลงสนามมาแทน นาทีที่ 86 รามิเรส กระทุ้งเต็มข้อจากระยะ 25 หลา ลูกเกือบหายเข้าประตูแต่บอลชนโคนเสาออกหลังไป
ต่อมา เจ้าถิ่นส่ง เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด ลงมาเสริมเกมรุกแทน ร็อดเวลล์ ซึ่ง เบ็คฟอร์ด ก็เกือบมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดเช่นกันในนาทีที่ 87 แต่ลูกตวัดยิงถูก เช็ก เซฟออกหลังไปได้ จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันใหม่ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านของ เชลซี
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน - ทิม ฮาวเวิร์ด, ซีมัส โคลแมน, จอห์น ไฮติงกา, ซิลแวง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, มิเกล อาร์เตตา, แจ๊ค ร็อดเวลล์, มารูยาน เฟลลายนี, ดินิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ, หลุยส์ ซาฮา
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, รามิเรส, มิชาเอล เอสเซียง, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูดา
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
เอฟเวอร์ตัน เสมอ เชลซี 1-1
สวอนซี แพ้ เลย์ตัน โอเรียนท์ 1-2
แอสตัน วิลลา ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-1
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ โคเวนทรี ซิตี 3-2
โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0
เบิร์นลีย์ ชนะ เบอร์ตัน 3-1
เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ชนะ เฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด 4-1
สตีฟเนจ แพ้ เรดดิ้ง 1-2
ทอร์คีย์ แพ้ ครอว์ลี่ย์ ทาวน์ 0-1
วัตฟอร์ด แพ้ ไบรท์ตัน 0-1
เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2