xs
xsm
sm
md
lg

"ตอร์เรส" ยังฝืดแต่เชลซีบี้เรือใบ 2-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟร์นานโด ตอร์เรส ปืนฝืดต่อไป แต่ "สิงห์บลูส์" เชลซี ยังเปิดบ้านเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
เทอร์รี บู๊กับ เซโก
คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับหมาก "สิงห์บลูส์" เชลซี ในการเปิดบ้านรับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี แดนหลังได้ ดาวิด ลุยซ์ ที่ติดคัพไทในฟุตบอลยุโรปกลับมาประจำการ แนวรุกใช้ ซาโลมอน คาลู กับ ฟลอร็องต์ มาลูดา คอยปั้นเกมให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ควานหาประตูแรกกับต้นสังกัดใหม่ให้จงได้ ด้าน โรแบร์โต มันชินี เปลี่ยนทัพทีมเยือนเช่นกัน เมื่อตัดสินใจพัก คาร์ลอส เตเบซ แล้วให้ เอดิน เซโก ยืนหอกตัวเป้า เจมส์ มิลเนอร์ ฟิตลงมาปั้นเกมริมเส้นร่วมกับ ดาบิด ซิลบา
ตอร์เรส สลัด เลสค็อตต์ ไม่หลุด
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี พยายามครองบอลบุกใส่ แต่โอกาสแรกเป็นของ แมนฯ ซิตี เมื่อ ยายา ตูเร ได้ส่องไกลแต่ ปีเตอร์ เช็ก ไม่พลาดพุ่งชกบอลออกไป นาทีที่ 12 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองในการลุ้นประตูเมื่อ รามิเรส แตะบอลเข้ากรอบโทษจะยิง แต่ดันมี ซาโลมอน คาลู ขวางทางปืนทำให้ โจ ฮาร์ท ปรี่เข้ามารับบอลไว้ได้ แปดนาทีถัดมาแฟนๆ "สิงห์บลูส์" ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ พยายามร้องเอาจุดโทษเมื่อเห็น คาลู เปิดบอลไปแฉลบแขน โจลีออน เลสค็อตต์ ทว่าผู้ตัดสิน คริส ฟอย ไม่เป่านกหวีดยาวแต่อย่างใด

ผ่านครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านได้โอกาสสองหนซ้อนๆ เริ่มจาก คาลู ปาดให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้ยิงด้วยซ้ายทว่าโดน ไนเจล เดอ ยอง ตามมาบล็อกได้ทัน จากนั้น ตอร์เรส ไขว้เปิดทะลุให้ รามิเรส หลุดไปทางขวาตบเข้าใน แฟรงค์ แลมพาร์ด แปเน้นๆ โดน แว็งซ็องต์ กอมปานี ตามมาบล็อกได้อีก ท้ายครึ่งแรก เชลซี ได้โอกาสอีกครั้ง ฟลอร็องต์ มาลูดา เปิดจากกราบซ้ายให้ รามิเรส หมุนตัวยิงในกรอบโทษไปตรงตัว ฮาร์ท ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
ลุยซ์ เด่นทั้งรุกและรับ
ลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี ลงมาบุกทันที คาลู ตบเข้ากลางให้ มาลูดา ยิงเร็วบอลพุ่งไปตรงตัว ฮาร์ท เจ้าถิ่นขึงเกมรุกอย่างต่อเนื่อง หนึ่งชั่วโมงพอดี เจ้าบ้านพลาดโอกาสได้ประตูอย่างเหลือเชื่อ แลมพ์ ตั้งป้อมเปิดให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โดดเขกบอลจ่อๆ ระยะ 5-6 หลาไปโดน กอมปานี แฉลบออกหลังไปอีก หกนาทีถัดมา แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นบ้างเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดฟรีคิกให้ เอดิน เซโก โหม่งเช็ดบอลหลุดเสาสองไป

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับหมากให้ "สิงห์บลูส์" ด้วยการส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ นิโกลาส์ อเนลกา ลงมาเล่นแทน ตอร์เรส และ มาลูดา ก่อนทิ้งไพ่ใบสุดท้ายใช้ ยูริ เชียร์คอฟ ขึ้นเกมแทน คาลู ถึงนาทีที่ 79 เจ้าถิ่นก็ได้เฮเมื่อ ดร็อกบา เปิดฟรีคิกให้ ดาวิด ลุยซ์ โขกบอลเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ท้ายเกม โรแบร์โต มันชินี ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ลงมาเสริมรุก แต่ เชลซี มาย้ำชัย 2-0 ช่วงทดเจ็บจาก รามิเรส ทำให้มีเพิ่มเป็น 54 คะแนนจาก 29 นัด แซงขึ้นมารั้งที่ 3 ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" หล่นมาอยู่ที่ 4 มี 53 คะแนนเหมือนเดิมในการเตะไป 30 นัด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , ดาวิด ลุยซ์ , จอห์น เทอร์รี , แอชลีย์ โคล , รามิเรส , มิคาเอล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ซาโลมอน คาลู , เฟร์นานโด ตอร์เรส , ฟลอร็องต์ มาลูดา

แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ไมกาห์ ริชาร์ดส , แว็งซ็องต์ กอมปานี , โจลีออน เลสค็อตต์ , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ , ไนเจล เดอ ยอง , ยายา ตูเร , แกเร็ธ แบร์รี , เจมส์ มิลเนอร์ , เอดิน เซโก , ดาบิด ซิลบา
กำลังโหลดความคิดเห็น