ASTV ผู้จัดการรายวัน - การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมดังแห่งศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก ส่อเค้าทีมแตกในเลกสอง หลังจาก วรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซุปเปอร์ริช แบงค็อก จำกัด และรองประธานสโมสร “สิงห์เจ้าท่า” หมดความอดทนกับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่ไม่เอื้ออำนวยในการบริหารงาน โดยอาจถอนตัวไปทำทีม สมุทรปราการ ศุลกากร ในดิวิชัน 1แทนพร้อมทั้งหอบหิ้วนักเตะไปด้วย ส่วน สะสม พบประสมเสริฐ กุนซือใหญ่มีแนวโน้มถูกดึงไปร่วมงานกับ บุรีรัมย์ เอฟซี
สืบเนื่องจาก กทท. ดึงสิทธิ์การทำทีมลูกหนังชื่อดังย่านคลองเตยกลับคืนมา แต่ยังคงให้ ซุปเปอร์ริช ผู้สนับสนุนรายใหญ่เข้ามาเป็นผู้บริหารพร้อมทั้งส่งทีมเข้าแข่งในฤดูกาล 2011 ทว่ากลับไม่สามารถตกลงเรื่องการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างกันได้ โดย กทท. ตั้งเงื่อนไขหลายอย่างที่ ซุปเปอร์ริช ไม่พอใจ เช่น ให้เซ็นเอ็มโอยูเข้ามาทำทีมปีต่อปีโดยสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทีมเสียชื่อเสียง หรือจบในอันดับ 14-18 ตลอดจนไม่อนุญาตให้ติดตั้งไฟสนามเพิ่มเพื่อแข่งในเวลา 18.00 น. จนกว่าจะได้รับการอนุมัติ
ล่าสุด “เสี่ยเบน” วรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ เผยถึงทิศทางของ การท่าเรือไทย เอฟซี ในกรณีที่ไม่อาจตกลงกับ กทท. ได้ว่า “ผมไม่เข้าใจว่า กทท. ที่ดึงสิทธิ์ทำทีมกลับคืนไปต้องการอะไร พวกเขาให้ ซุปเปอร์ริช เข้ามาดูแลและส่งทีมเข้าแข่งขัน แต่กลับไม่เปิดทางให้บริหารงานเพื่อพาทีมไปสู่ความก้าวหน้าได้อย่างสะดวกตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งลงทุนไปแล้วเกือบ 15 ล้านบาท เราต้องการติดตั้งไฟสนามเพิ่มเพื่อให้แฟนบอลได้ชมเกมในช่วงเย็นก็ไม่อนุมัติ เราจะขอเช่ารถบัสก็ไม่ให้ ส่วนสนามแพท สเตเดียม เราก็ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 70,000-80,000 บาท”
รองประธานสโมสรสิงห์เจ้าท่ากล่าวต่อไปว่า “หากยังตกลงเรื่องเอ็มโอยูกันไม่ได้ ทันทีที่ไทยพรีเมียร์ลีกจบเลกแรก ซุปเปอร์ริช ก็จะถอนตัวจากการทำทีม การท่าเรือไทย ไปอยู่กับ ศุลกากร แทน หลังจากมีการคุยกันในระดับผู้บริหารแล้ว และอาจจะเอานักเตะส่วนหนึ่งไปอยู่ด้วย เช่น เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ขณะที่ดาวดังอย่าง สมปอง สอเหลบ, จิรวัฒน์ มัครมย์, อาลีฟ เปาะจิ ก็อยู่ในความสนใจของ บุรีรัมย์ เอฟซี ที่อยากได้ตัวไปช่วยทีมเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 1 ส่วนนักเตะต่างชาติหากไม่มีทีมใดซื้อตัวก็คงจะอยู่กับทีมต่อไปจนจบฤดูกาลนี้แล้วค่อยมาว่ากันอีกที โดยที่ การท่าเรือไทย เอฟซี จะต้องใช้นักเตะเยาวชนลงเล่นในช่วงที่เหลือ เพราะสัญญาของผู้เล่นชุดใหญ่อยู่ในมือของเราผู้เป็นนายจ้าง”
ส่วนอนาคตของ สะสม พบประเสริฐ กุนซือผู้พาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วย 2 ปีติดต่อกันก็มีกระแสว่า บุรีรัมย์ เอฟซี จ่าฝูงดิวิชัน 1 อยากได้ตัวไปร่วมงานกับ ชัยยง ขำเปี่ยม ซึ่ง “เสือเตี้ย” ออกมาพูดถึงอนาคตของตัวเองว่า “หากทีมแตกจริงๆ ผมก็พร้อมที่จะขึ้นบัญชีขายตัวเองเพื่อช่วยล้างหนี้ให้กับ การท่าเรือไทย เอฟซี แต่ถ้าจะต้องว่างจากงานคุมทีมไปชั่วคราวผมก็ไม่มีปัญหา เพราะผมจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น แต่ที่ผมห่วงก็คือนักเตะที่จะต้องหาทีมใหม่”