"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี จัดการบอมบ์ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 5-0 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ ประจำซีซัน 2010/11 ไปเจอกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ต่อไป
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-5 สโต๊ก ซิตี
โอเวน คอยล์ จัดทัพใหญ่ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน ในเกมตัดเชือกเอฟเอ คัพ ขาดไปก็แต่เพียง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ติดคัพไท จึงส่ง อีวาน คลาสนิช ล่าตาข่ายร่วมกับ เควิน เดวีส์ ขณะที่ โยฮัน เอล มานเดอร์ โดนถอยมาเล่นแดนกลาง แนวรับมี แกรี เคฮิลล์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเนื้อหอมคอยค้ำ ด้าน โทนี พูลิส กุนซือ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ไม่มีปัญหาในการวางหมากเช่นกัน แผงมิดฟิลด์ใช้ เจอร์เมน เพนแนนท์ กับ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน ขึ้นทางกราบเพื่อเปิดบอลให้ เคนวิน โจนส์ หอกร่างใหญ่ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขัน สโต๊ก ทักทายก่อนจากลูกยิงของ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน แต่ไม่เข้าเป้า ถัดมานาทีที่ 7 โบลตัน ลุยขึ้นมาเหมือนกัน โรเบิร์ต ฮูธ สกัดบอลมาเข้าทาง แกรี เคฮิลล์ ตะบันด้วยขวาบอลเฉี่ยวคานไป แต่ถึงนาที 11 "ช่างปั้นหม้อ" ก็ออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของแผงหลัง "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ที่สกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทาง เอเธอร์ริงตัน กระหน่ำด้วยซ้ายข้างถนัดส่งลูกหนังผ่านมือ ยุสซี ยัสเคไลเนน เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
พอเสียประตูไป โบลตัน ดันเกมหวังทวงคืน แต่เกมดำเนินถึงนาที 17 สโต๊ก หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ เคฮิลล์ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทาง ฮูธ ส่องจากนอกกรอบด้วยขวา บอลพุ่งไซด์ผ่านมือ ยัสเคไลเนน เข้าไปอีกครั้ง ถึงครึ่งชั่วโมงพอดี แฟนๆ "ช่างปั้นหม้อ" เริ่มคิดถึงรอบชิงกันแล้ว เมื่อ เจอร์เมน เพนแนนท์ ฉกบอลจาก มาร์ติน เปตรอฟ บริเวณกลางสนาม ก่อนเปิดให้ เคนวิน โจนส์ หลุดเข้าไปแปบอลนิ่มๆ ไม่เหลือสกอร์เป็น 3-0 จากนั้น สโต๊ก ยังเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าจนกระทั่งจบ 45 นาทีแรก
ลุยต่อครึ่งหลัง โอเวน คอยล์ แก้เกมให้โบลตันทันทีส่ง แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ มาร์ค เดวิส ลงเล่นแทน เปตรอฟ กับ อีวาน คลาสนิช จากนั้นก็บุกใส่ทันที แต่เกือบจะโดนจังหวะสวนกลับของ สโต๊ก เล่นงานอีก โจนาธาน วอลเตอร์ส ดีดให้ โจนส์ คู่หูในแดนหน้าได้ยิง คราวนี้ ยัสเคไลเนน รับได้ติดมือ นาที 65 "ช่างปั้นหม้อ" ลุยขึ้นมาอีกครั้ง วอลเตอร์ส ยิงจังหวะแรกโดนไม่ดีมาเข้าทาง โจนส์ ซ้ำบอลติดไซด์หลุดเสาไป
และเกมก็มาจบลงอย่างไม่เป็นทางการเมื่อถึงนาทีที่ 68 เมื่อ วอลเตอร์ส ลากตะลุยจากกลางสนามเข้าไปล็อกยิงด้วยขวาจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งกระดอนพื้นผ่านมือ ยัสเคไลเนน เสียบตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 4-0 ช่วงเวลาที่เหลือนักเตะ โบลตัน ดูรับสภาพแถมต้องมาปราชัยย่อยยับ 0-5 เมื่อ วอลเตอร์ส ยิงปิดกล่องให้ "ช่างปั้นหม้อ" ก่อนหมดเวลา 9 นาที ทำให้ สโต๊ก ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2010/11 ไปพบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน , เกรตา สไตน์สสัน , แซท ไนท์ , แกรี เคฮิลล์ , พอล โรบินสัน , ลี ชุง ยอง , โยฮัน เอลมานเดอร์ , ฟาบริซ มูอัมบา , มาร์ติน เปตรอฟ , อีวาน คลาสนิช , เควิน เดวีส์
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , มาร์ค วิลสัน , เจอร์เมน เพนแนนท์ , รอรี ดีแล็ป , เกล็น วีแลน , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , เคนวิน โจนส์ , โจนาธาน วอลเตอร์ส
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-5 สโต๊ก ซิตี
โอเวน คอยล์ จัดทัพใหญ่ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน ในเกมตัดเชือกเอฟเอ คัพ ขาดไปก็แต่เพียง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ติดคัพไท จึงส่ง อีวาน คลาสนิช ล่าตาข่ายร่วมกับ เควิน เดวีส์ ขณะที่ โยฮัน เอล มานเดอร์ โดนถอยมาเล่นแดนกลาง แนวรับมี แกรี เคฮิลล์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเนื้อหอมคอยค้ำ ด้าน โทนี พูลิส กุนซือ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ไม่มีปัญหาในการวางหมากเช่นกัน แผงมิดฟิลด์ใช้ เจอร์เมน เพนแนนท์ กับ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน ขึ้นทางกราบเพื่อเปิดบอลให้ เคนวิน โจนส์ หอกร่างใหญ่ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขัน สโต๊ก ทักทายก่อนจากลูกยิงของ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน แต่ไม่เข้าเป้า ถัดมานาทีที่ 7 โบลตัน ลุยขึ้นมาเหมือนกัน โรเบิร์ต ฮูธ สกัดบอลมาเข้าทาง แกรี เคฮิลล์ ตะบันด้วยขวาบอลเฉี่ยวคานไป แต่ถึงนาที 11 "ช่างปั้นหม้อ" ก็ออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของแผงหลัง "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ที่สกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทาง เอเธอร์ริงตัน กระหน่ำด้วยซ้ายข้างถนัดส่งลูกหนังผ่านมือ ยุสซี ยัสเคไลเนน เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
พอเสียประตูไป โบลตัน ดันเกมหวังทวงคืน แต่เกมดำเนินถึงนาที 17 สโต๊ก หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ เคฮิลล์ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทาง ฮูธ ส่องจากนอกกรอบด้วยขวา บอลพุ่งไซด์ผ่านมือ ยัสเคไลเนน เข้าไปอีกครั้ง ถึงครึ่งชั่วโมงพอดี แฟนๆ "ช่างปั้นหม้อ" เริ่มคิดถึงรอบชิงกันแล้ว เมื่อ เจอร์เมน เพนแนนท์ ฉกบอลจาก มาร์ติน เปตรอฟ บริเวณกลางสนาม ก่อนเปิดให้ เคนวิน โจนส์ หลุดเข้าไปแปบอลนิ่มๆ ไม่เหลือสกอร์เป็น 3-0 จากนั้น สโต๊ก ยังเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าจนกระทั่งจบ 45 นาทีแรก
ลุยต่อครึ่งหลัง โอเวน คอยล์ แก้เกมให้โบลตันทันทีส่ง แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ มาร์ค เดวิส ลงเล่นแทน เปตรอฟ กับ อีวาน คลาสนิช จากนั้นก็บุกใส่ทันที แต่เกือบจะโดนจังหวะสวนกลับของ สโต๊ก เล่นงานอีก โจนาธาน วอลเตอร์ส ดีดให้ โจนส์ คู่หูในแดนหน้าได้ยิง คราวนี้ ยัสเคไลเนน รับได้ติดมือ นาที 65 "ช่างปั้นหม้อ" ลุยขึ้นมาอีกครั้ง วอลเตอร์ส ยิงจังหวะแรกโดนไม่ดีมาเข้าทาง โจนส์ ซ้ำบอลติดไซด์หลุดเสาไป
และเกมก็มาจบลงอย่างไม่เป็นทางการเมื่อถึงนาทีที่ 68 เมื่อ วอลเตอร์ส ลากตะลุยจากกลางสนามเข้าไปล็อกยิงด้วยขวาจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งกระดอนพื้นผ่านมือ ยัสเคไลเนน เสียบตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 4-0 ช่วงเวลาที่เหลือนักเตะ โบลตัน ดูรับสภาพแถมต้องมาปราชัยย่อยยับ 0-5 เมื่อ วอลเตอร์ส ยิงปิดกล่องให้ "ช่างปั้นหม้อ" ก่อนหมดเวลา 9 นาที ทำให้ สโต๊ก ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2010/11 ไปพบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน , เกรตา สไตน์สสัน , แซท ไนท์ , แกรี เคฮิลล์ , พอล โรบินสัน , ลี ชุง ยอง , โยฮัน เอลมานเดอร์ , ฟาบริซ มูอัมบา , มาร์ติน เปตรอฟ , อีวาน คลาสนิช , เควิน เดวีส์
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , มาร์ค วิลสัน , เจอร์เมน เพนแนนท์ , รอรี ดีแล็ป , เกล็น วีแลน , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , เคนวิน โจนส์ , โจนาธาน วอลเตอร์ส
