"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์จิกชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี 2-0 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกไปทำได้แค่เสมอ "ลูกโลก" เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-0 สโต๊ก ซิตี
เคนนี ดัลกลิช ปรับแผนการเล่นให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในระบบ 3-5-1-1 ลงชนกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก โดย มาร์ติน เคลลี กับ เกล็น จอห์นสัน เป็นวิงแบ็ก โซติริออส คีร์เกียกอส ลงมาเป็นเซ็นเตอร์อีกคน แดนกลางดัน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ไปช่วย สตีเวน เจอร์ราร์ด ยืนปั้นเกมอยู่ด้านหลัง เดิร์ก เคาท์ ที่ปักหลักยืนหน้าเป้า ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ หอกตัวใหม่รอโอกาสอยู่ข้างสนามไปก่อน ด้าน โทนี พูลิส ปรับทัพทีมเยือนพอสมควรพักตัวหลักอย่าง รอรี ดีแล็ป หรือว่า เคนวิน โจนส์ แนวรุกใช้ โจนาธาน วอลเตอร์ส ล่าตาข่ายร่วมกับ ยอห์น คาริว ที่ไปยืมมาจาก แอสตัน วิลลา ส่วน เจอร์เมน เพนแนนท์ คอยป่วนต้นสังกัดเก่าทางริมเส้น
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เดินเกมลุยใส่ทันที นาทีที่ 6 "เดอะค็อป" เกือบได้เฮเมื่อกันเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมมาเสาแรกให้ โซติริออส คีร์เกียกอส โถมเข้ามาขวิดบอลผ่านมือ อัสเมียร์ เบโกวิช แต่เป็น ซาลิฟ ดิเยา ที่ยืนประกบ เดิร์ก เคาท์ อยู่หน้าประตูเคลียร์บอลพ้นอันตรายได้หวุดหวิด ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สโต๊ก โต้ขึ้นมาบ้าง เจอร์เมน เพนแนนท์ ตั้งป้อมเปิดจากกราบขวาให้ ยอห์น คาริว อาศัยความสูงโหนโหม่งเหนือ มาร์ติน สเคอร์เทล แต่บอลยังโด่งเกินไป
ช่วงครึ่งชั่วโมงผ่านไป เกมดำเนินไปค่อนข้างเนือย จากนั้นทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้งจาก โจนาธาน วอลเตอร์ส ลากตัดเข้าในก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลติดไซด์หลุดกรอบไปไกล นาที 36 "หงส์แดง" ไม่ได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อเมื่อ มาร์ติน เคลลี หลุดไปทางขวาเปิดเข้ามาในอย่างเหมาะเหม็งให้ เกล็น จอห์นสัน โขกจ่อๆ เบโกวิช อาศัยปฏิกิริยาคว้าบอลจากเส้นประตูอย่างเหลือเชื่อ ถัดมา เคลลี ได้เปิดให้ เดิร์ก เคาท์ ขวิดอีกครั้งแต่บอลหลุดเสาไปแบบได้ลุ้น ท้ายครึ่งแรก สตีเวน เจอร์ราร์ด โขกตั้งให้ เคาท์ ยกบอลหนึ่งจังหวะก่อนเอี้ยวตัวยิงเหินข้ามคาน จบครึ่งแรกจึงยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลังได้สองนาที ลิเวอร์พูล ก็ออกนำเร็ว 1-0 เมื่อ เจอร์ราร์ด ตะบันฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาบอลแฉลบมาเข้าทาง ราอูล ไมเรเลส กระหน่ำเต็มข้อเสียบตาข่าย ผ่านหนึ่งชั่วโมง "ช่างปั้นหม้อ" ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันเมื่อ คาริว หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาผ่านมือ โฆเซ เรนา แต่ก็เฉียดเสาสองไป ถัดมา โทนี พูลิส ปรับทัพส่ง รอรี ดีแล็ป จอมทุ่มไกลลงมาแทน ดิเยา ไม่นานนัก "คิง เคนนี" ก็ส่งเอา หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย เจ้าของค่าตัว 23 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) ลงมาเปิดซิงในพรีเมียร์ลีกแทน ฟาบิโอ ออเรลิโอ พร้อมปรับหมากเป็น 3-4-1-2
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นเปลี่ยนเอา จอนโจ เชลวีย์ ลงมาปั้นเกมตรงกลางแทน ไมเรเลส และถึงนาที 79 "หงส์แดง" ก็จิกหนีเป็น 2-0 เมื่อ ซัวเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกระชากหนี เบโกวิช ก่อนแปบอลเบาเกินไปแต่ แอนดี วิลกินสัน ดันสกัดไม่พ้นอันตรายชนเสากระดอนเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทางพรีเมียร์ลีกให้สกอร์ดังกล่าวเป็นของ ซัวเรซ ถัดมา วอลเตอร์ส เกือบตีไข่แตกให้ผู้มาเยือนทันควันยังดีที่ลูกหนังพุ่งไปตรงตัว เรนา ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ประคองตัวเก็บชัย 3 นัดติดในพรีเมียร์ลีก มีเพิ่มเป็น 35 คะแนนจาก 25 นัด รั้งที่ 7 ของตาราง ขณะที่ สโต๊ก มี 30 แต้มเท่าเดิม อยู่ในอันดับ 11
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , มาร์ติน สเคอร์เทล , โซติริออส คีร์เกียกอส , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน เคลลี , ลูคัส เลวา , ราอูล ไมเรเลส , ฟาบิโอ ออเลริโอ , เกล็น จอห์นสัน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เดิร์ก เคาท์
สโต๊ก : อัสเมียร์ เบโกวิช , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , เจอร์เมน เพนแนนท์ , มาร์ค วิลสัน , ซาลิฟ ดิเยา , ดีน ไวท์เฮด , โจนาธาน วอลเตอร์ส , ยอห์น คาริว
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันพุธ
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : คาร์ลอส เตเบซ (น.4) , 1-1 : นิโกลา ซิกิซ (น.23) , 1-2 : อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (น.41) , 2-2 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (จุดโทษ น.77)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
[0-1 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.3)]
แบล็คพูล 1-3 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[0-1 : วิคเตอร์ โอบินนา (น.24) , 0-2 : ร็อบบี คีน (น.37) , 1-2 : ชาร์ลี อดัม (น.42) , 1-3 : วิคเตอร์ โอบินนา (น.44)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.90)]
ฟูแลม 1-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : เดเมียน ดัฟฟ์ (น.67)]
ลิเวอร์พูล 2-0 สโต๊ก ซิตี
[1-0 : ราอูล ไมเรเลส (น.47) , 2-0 : หลุยส์ ซัวเรซ (น.79)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-0 สโต๊ก ซิตี
เคนนี ดัลกลิช ปรับแผนการเล่นให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในระบบ 3-5-1-1 ลงชนกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก โดย มาร์ติน เคลลี กับ เกล็น จอห์นสัน เป็นวิงแบ็ก โซติริออส คีร์เกียกอส ลงมาเป็นเซ็นเตอร์อีกคน แดนกลางดัน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ไปช่วย สตีเวน เจอร์ราร์ด ยืนปั้นเกมอยู่ด้านหลัง เดิร์ก เคาท์ ที่ปักหลักยืนหน้าเป้า ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ หอกตัวใหม่รอโอกาสอยู่ข้างสนามไปก่อน ด้าน โทนี พูลิส ปรับทัพทีมเยือนพอสมควรพักตัวหลักอย่าง รอรี ดีแล็ป หรือว่า เคนวิน โจนส์ แนวรุกใช้ โจนาธาน วอลเตอร์ส ล่าตาข่ายร่วมกับ ยอห์น คาริว ที่ไปยืมมาจาก แอสตัน วิลลา ส่วน เจอร์เมน เพนแนนท์ คอยป่วนต้นสังกัดเก่าทางริมเส้น
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เดินเกมลุยใส่ทันที นาทีที่ 6 "เดอะค็อป" เกือบได้เฮเมื่อกันเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมมาเสาแรกให้ โซติริออส คีร์เกียกอส โถมเข้ามาขวิดบอลผ่านมือ อัสเมียร์ เบโกวิช แต่เป็น ซาลิฟ ดิเยา ที่ยืนประกบ เดิร์ก เคาท์ อยู่หน้าประตูเคลียร์บอลพ้นอันตรายได้หวุดหวิด ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สโต๊ก โต้ขึ้นมาบ้าง เจอร์เมน เพนแนนท์ ตั้งป้อมเปิดจากกราบขวาให้ ยอห์น คาริว อาศัยความสูงโหนโหม่งเหนือ มาร์ติน สเคอร์เทล แต่บอลยังโด่งเกินไป
ช่วงครึ่งชั่วโมงผ่านไป เกมดำเนินไปค่อนข้างเนือย จากนั้นทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้งจาก โจนาธาน วอลเตอร์ส ลากตัดเข้าในก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลติดไซด์หลุดกรอบไปไกล นาที 36 "หงส์แดง" ไม่ได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อเมื่อ มาร์ติน เคลลี หลุดไปทางขวาเปิดเข้ามาในอย่างเหมาะเหม็งให้ เกล็น จอห์นสัน โขกจ่อๆ เบโกวิช อาศัยปฏิกิริยาคว้าบอลจากเส้นประตูอย่างเหลือเชื่อ ถัดมา เคลลี ได้เปิดให้ เดิร์ก เคาท์ ขวิดอีกครั้งแต่บอลหลุดเสาไปแบบได้ลุ้น ท้ายครึ่งแรก สตีเวน เจอร์ราร์ด โขกตั้งให้ เคาท์ ยกบอลหนึ่งจังหวะก่อนเอี้ยวตัวยิงเหินข้ามคาน จบครึ่งแรกจึงยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลังได้สองนาที ลิเวอร์พูล ก็ออกนำเร็ว 1-0 เมื่อ เจอร์ราร์ด ตะบันฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาบอลแฉลบมาเข้าทาง ราอูล ไมเรเลส กระหน่ำเต็มข้อเสียบตาข่าย ผ่านหนึ่งชั่วโมง "ช่างปั้นหม้อ" ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันเมื่อ คาริว หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาผ่านมือ โฆเซ เรนา แต่ก็เฉียดเสาสองไป ถัดมา โทนี พูลิส ปรับทัพส่ง รอรี ดีแล็ป จอมทุ่มไกลลงมาแทน ดิเยา ไม่นานนัก "คิง เคนนี" ก็ส่งเอา หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย เจ้าของค่าตัว 23 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) ลงมาเปิดซิงในพรีเมียร์ลีกแทน ฟาบิโอ ออเรลิโอ พร้อมปรับหมากเป็น 3-4-1-2
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นเปลี่ยนเอา จอนโจ เชลวีย์ ลงมาปั้นเกมตรงกลางแทน ไมเรเลส และถึงนาที 79 "หงส์แดง" ก็จิกหนีเป็น 2-0 เมื่อ ซัวเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกระชากหนี เบโกวิช ก่อนแปบอลเบาเกินไปแต่ แอนดี วิลกินสัน ดันสกัดไม่พ้นอันตรายชนเสากระดอนเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทางพรีเมียร์ลีกให้สกอร์ดังกล่าวเป็นของ ซัวเรซ ถัดมา วอลเตอร์ส เกือบตีไข่แตกให้ผู้มาเยือนทันควันยังดีที่ลูกหนังพุ่งไปตรงตัว เรนา ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ประคองตัวเก็บชัย 3 นัดติดในพรีเมียร์ลีก มีเพิ่มเป็น 35 คะแนนจาก 25 นัด รั้งที่ 7 ของตาราง ขณะที่ สโต๊ก มี 30 แต้มเท่าเดิม อยู่ในอันดับ 11
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , มาร์ติน สเคอร์เทล , โซติริออส คีร์เกียกอส , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน เคลลี , ลูคัส เลวา , ราอูล ไมเรเลส , ฟาบิโอ ออเลริโอ , เกล็น จอห์นสัน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เดิร์ก เคาท์
สโต๊ก : อัสเมียร์ เบโกวิช , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , เจอร์เมน เพนแนนท์ , มาร์ค วิลสัน , ซาลิฟ ดิเยา , ดีน ไวท์เฮด , โจนาธาน วอลเตอร์ส , ยอห์น คาริว
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันพุธ
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : คาร์ลอส เตเบซ (น.4) , 1-1 : นิโกลา ซิกิซ (น.23) , 1-2 : อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (น.41) , 2-2 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (จุดโทษ น.77)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
[0-1 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.3)]
แบล็คพูล 1-3 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[0-1 : วิคเตอร์ โอบินนา (น.24) , 0-2 : ร็อบบี คีน (น.37) , 1-2 : ชาร์ลี อดัม (น.42) , 1-3 : วิคเตอร์ โอบินนา (น.44)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.90)]
ฟูแลม 1-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : เดเมียน ดัฟฟ์ (น.67)]
ลิเวอร์พูล 2-0 สโต๊ก ซิตี
[1-0 : ราอูล ไมเรเลส (น.47) , 2-0 : หลุยส์ ซัวเรซ (น.79)]
