โรแบร์โต มันชินี กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ออกโรงเร่งเร้าลูกทีมให้ฮึดฝ่าแข้ง "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเข้าไปลุ้นคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ ในฤดูกาล 2010/11
แมนฯ ซิตี กำลังตามหาแชมป์แรกตั้งแต่ปี 1976 หลังเคยคว้าเกียรติยศสูงสุดในศึกลีก คัพ โดยโอกาสดังกล่าวของ "เรือใบสีฟ้า" คงเหลือแต่ในเพียงรายการเอฟเอ คัพ เมื่อเข้าถึงรอบตัดเชือกแต่ต้องเผชิญแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองในคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2554 เพื่อลุ้นเข้าไปชิงกับผู้ชนะระหว่าง โบลตัน วันเดอเรอร์ส หรือ สโต๊ก ซิตี
ล่าสุด โรแบร์โต มันชินี ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมืองผู้ดีว่า "การคว้าโทรฟีแรกมักยากเสมอ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณใช้จ่ายไป เพราะทุกๆ สโมสรล้วนควักกระเป๋าทุ่มเงิน แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่การคว้าสักแชมป์ ผมคิดว่าถ้าเราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แมนฯ ซิตี สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้"
สำหรับ มันชินี เข้ามารับงานใหญ่ในถิ่นซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อปี 2009 ซึ่งกุนซือชาวอิตาเลียน ยอมรับเขาอาจไม่โชคดีเหมือน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เจอแรงกดดันอย่างหนักจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงเริ่มต้นอาชีพ แต่หลังจากนำทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1990 โทรฟีแชมป์ก็ไหลเข้าไปยังตู้โชว์ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
"เฟอร์กูสัน ใช้เวลา 7 ปีในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุด วันนี้มันแตกต่างกันมากกับเมื่อ 25 ปีก่อน ทุกวันนี้ถ้าคุณเป็นกุนซือที่ไม่สามารถพาทีมเป็นแชมป์ได้ 6-7 ปี คงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่ง ส่วนผมหลังผ่านช่วง 15 เดือนมานี้ ผมมีความสุขกับหน้าที่การงาน เพราะผมรับรู้ได้แล้วว่ามันยากไม่น้อยที่จะสร้างทีมขึ้นไปเป็นแชมป์สักรายการหนึ่ง" มันโช กล่าวต่อ
สุดท้าย มันชินี ทิ้งท้ายก่อนนำทีมเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด "ผมเคารพในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เพราะพวกเขาคว้าแชมป์มานักต่อนักในช่วงหลายปีมานี้ มันเริ่มจากการที่พวกเขาได้โทรฟีแรก ณ วันนี้มันก็เหมือนกับ แมนฯ ซิตี โดยเราสามารถทำได้อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด พรุ่งนี้คือโอกาสของเราแล้ว"
แมนฯ ซิตี กำลังตามหาแชมป์แรกตั้งแต่ปี 1976 หลังเคยคว้าเกียรติยศสูงสุดในศึกลีก คัพ โดยโอกาสดังกล่าวของ "เรือใบสีฟ้า" คงเหลือแต่ในเพียงรายการเอฟเอ คัพ เมื่อเข้าถึงรอบตัดเชือกแต่ต้องเผชิญแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองในคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2554 เพื่อลุ้นเข้าไปชิงกับผู้ชนะระหว่าง โบลตัน วันเดอเรอร์ส หรือ สโต๊ก ซิตี
ล่าสุด โรแบร์โต มันชินี ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมืองผู้ดีว่า "การคว้าโทรฟีแรกมักยากเสมอ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณใช้จ่ายไป เพราะทุกๆ สโมสรล้วนควักกระเป๋าทุ่มเงิน แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่การคว้าสักแชมป์ ผมคิดว่าถ้าเราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แมนฯ ซิตี สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้"
สำหรับ มันชินี เข้ามารับงานใหญ่ในถิ่นซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อปี 2009 ซึ่งกุนซือชาวอิตาเลียน ยอมรับเขาอาจไม่โชคดีเหมือน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เจอแรงกดดันอย่างหนักจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงเริ่มต้นอาชีพ แต่หลังจากนำทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1990 โทรฟีแชมป์ก็ไหลเข้าไปยังตู้โชว์ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
"เฟอร์กูสัน ใช้เวลา 7 ปีในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุด วันนี้มันแตกต่างกันมากกับเมื่อ 25 ปีก่อน ทุกวันนี้ถ้าคุณเป็นกุนซือที่ไม่สามารถพาทีมเป็นแชมป์ได้ 6-7 ปี คงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่ง ส่วนผมหลังผ่านช่วง 15 เดือนมานี้ ผมมีความสุขกับหน้าที่การงาน เพราะผมรับรู้ได้แล้วว่ามันยากไม่น้อยที่จะสร้างทีมขึ้นไปเป็นแชมป์สักรายการหนึ่ง" มันโช กล่าวต่อ
สุดท้าย มันชินี ทิ้งท้ายก่อนนำทีมเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด "ผมเคารพในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เพราะพวกเขาคว้าแชมป์มานักต่อนักในช่วงหลายปีมานี้ มันเริ่มจากการที่พวกเขาได้โทรฟีแรก ณ วันนี้มันก็เหมือนกับ แมนฯ ซิตี โดยเราสามารถทำได้อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด พรุ่งนี้คือโอกาสของเราแล้ว"