xs
xsm
sm
md
lg

"เลอบรอน" เฮครองหุ้นหงส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลอบรอน เจมส์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หลังจากเซ็นสัญญากับ "เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป" บริษัทที่ถือหุ้นสโมสรฟุตบอลดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งจะกลายมาเป็นตัวแทนดูแลเรื่องภาพลักษณ์ต่างๆ ให้แก่ซูเปอร์สตาร์นักยัดห่วงทีมชาติสหรัฐอเมริกา
เลอบรอน กลายเป็นผู้ถือหุ้นย่อยหงส์
"แอลอาร์เอ็มอาร์ แบรนดิง แอนด์ มาร์เก็ตติง" (LRMR Branding & Marketing) บริษัทซึ่งคอยดูแลเรื่องภาพลักษณ์ต่างๆ ของ เลอบรอน เจมส์ เล็งเห็นโอกาสและต้องการปั้นให้แม่ทัพ ไมอามี ฮีท ยอดทีมแห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก้าวไกลได้มากขึ้น จึงตกลงเซ็นสัญญากับ "เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป" (Fenway Sports Group) กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของทั้งสโมสรลิเวอร์พูล, ทีมบอสตัน เรด ซ็อกซ์ ในเมเจอร์ลีก เบสบอล, นิวอิงแลนด์ สปอร์ตส เน็ตเวิร์ก เคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ในนิวอิงแลนด์ และยังเป็นผู้ถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ของรถแข่งแนสคาร์ เฟนเวย์ เรซซิง เพื่อให้ช่วยดูแลเรื่องการตลาดและภาพลักษณ์ของฟอร์เวิร์ดวัย 26 ปี ในตลาดโลกอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว

การเซ็นสัญญากันหนนี้ "วอลล์ สตรีท เจอร์นัล" สื่อแดนมะกันรายงานว่า เลอบรอน ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นย่อยของ ลิเวอร์พูล เนื่องจาก FSG ได้แบ่งหุ้นไม่เปิดเผยจำนวนให้ส่วนหนึ่ง ซึ่งซูเปอร์สตาร์ดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัยของ NBA ปลื้มไม่น้อย "เป็นครั้งแรกที่ผมก้าวเข้ามาสังเวียน NBA และได้กลายเป็นนักธุรกิจ ถือเป็นโอกาสอันดีของผมเลยก็ว่าได้ สำหรับ ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีกสูงสุดในประเทศถึง 18 สมัย ผมอยากเห็นตัวเองพยายามทำให้ได้เหมือนพวกเขาบ้าง"

ด้าน ทอม เวอร์เนอร์ ประธาน FSG และสโมสรลิเวอร์พูล ให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ในสหรัฐฯ บ้าง "เราไม่ได้สนใจแค่พรสวรรค์หรือการเป็นนักกีฬา แต่เราคิดว่า เลอบรอน เป็นสุดยอดนักกีฬาในยุคของเขา เชื่อว่าบริษัทของเราสามารถเปิดประตูให้แก่ เลอบรอน ในการก้าวสู่ระดับโลก และ เลอบรอน ก็สามารถเปิดประตูนั้นให้แก่เราเช่นกัน ซึ่งถ้าไม่ได้ซื้อหุ้นลิเวอร์พูล เราคงไม่สามารถมานั่งพูดคุยเรื่องนี้กันได้"

ขณะที่ แซม เคนเนดี ประธาน เฟนเวย์ สปอร์ตส มาร์เก็ตติง (Fenway Sports Marketing) บริษัทลูกของ FSG กล่าวเช่นกัน "อะไรที่ FSM ได้ทำร่วมกับ FSG สโมสร ลิเวอร์พูล และทีมเรด ซ็อกซ์ ตอนนี้เราจะได้ทำมันร่วมไปกับ เลอบรอน เจมส์ โดยเราจะรุกเร้าเพื่อเปิดโอกาสทางด้านธุรกิจให้แก่ เลอบรอน ถือเป็นเรื่องโชคดีที่เรามีแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงอย่าง เรด ซ็อกซ์, ลิเวอร์พูล และ FSG นี่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้นของเรา ในการเป็นตัวแทนให้หนึ่งในนักกีฬาซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของโลก"
กำลังโหลดความคิดเห็น