สตีเวน เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันทีม "หงส์แดง" ยอมรับหัวใจสลายเมื่อรู้ว่า เฟร์นานโด ตอร์เรส ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เชลซี ยันขอแขวนสตั๊ดในถิ่นแอนฟิลด์
หลังการตัดสินใจย้ายทีมของ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกทีมชาติสเปน ไปร่วมงานกับ เชลซี ทีมร่วมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ เพื่อประสบความสำเร็จกับถ้วยรางวัลมากกว่านี้ ส่งผลให้มีคำถามจากสื่อมวลชนถึง สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันไดนาโม ที่กำลังได้รับความสนใจจาก รีล มาดริด ยอดทีมแห่งลาลีกา สเปน ว่ามีประสงค์จะย้ายไปหาความสำเร็จเช่นเดียวกับอดีตเพื่อนร่วมทีมหรือไม่
ซึ่ง "สตีวีจี" กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า "ตั้งแต่มีข่าวคราวของผมกับ เชลซี ก็มีคำถามมากมาย ผมอยากบอกว่าเคยคิดเรื่องย้ายเช่นกัน เพราะอาจเป็นโอกาสประสบความสำเร็จ ซึ่งมันก็ไม่ใช่แค่ข้อเสนอจาก เชลซี เท่านั้น แต่หลายสโมสรใหญ่ต่างก็ยื่นข้อเสนอมา แน่นอนว่าผมคิดหนัก แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ว่าจะไม่ไปที่ไหนอีกแล้ว ผมกำลังจะมีอายุ 31 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ และบอกตัวเองทุกวันว่าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ผมคงเสียใจที่ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ในวันหนึ่ง"
ส่วนกรณีการย้ายทีมของ ตอร์เรส นั้น "สตีวีจี" กล่าวว่า "ทันทีที่ทราบข่าวการย้ายทีมของ ตอร์เรส ผมหัวใจสลาย แต่ไม่ได้โกรธเคืองเขา เราเป็นเพื่อนกัน เขาทำผลงานให้กับ ลิเวอร์พูล มากมายด้วยประตูสุดมหัศจรรย์หลายครั้ง และเป็นผู้เล่นที่ฉลาดมาก การย้ายทีมของเขาทำให้แฟนบอลผิดหวัง แต่ผมก็ยังโทรศัพท์หาเขาอยู่ ความเป็นเพื่อนยังมีอยู่ และคงไม่หมดไป"
"การที่เขาย้ายทีมทำแฟนบอลผิดหวัง แต่เขาไม่เหมือนกับผม เขามาจากสเปน ความผูกพันกับสโมสร ลิเวอร์พูล มีต่างกัน แต่ทุกคนมีชีวิตของตัวเอง พวกคุณต้องเข้าใจ ตอร์เรส ให้มากว่าเขาเลือกทางเดินของตัวเอง ผมเสียใจที่เป็นแบบนั้น แต่เราต้องเดินหน้าต่อ หลังจากนั้นเราก็ได้ แอนดี คาร์โรลล์ และ หลุยส์ ซัวเรซ มาร่วมทีม ผมเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นคู่กองหน้าที่อันตรายมาก และสามารถทดแทนการจากไปของ ตอร์เรส ได้เป็นอย่างดี"
พร้อมกันนี้ เจอร์ราร์ด ยังกล่าวถึงอนาคตของ ลิเวอร์พูล ว่ามีสิ่งที่สดใสรออยู่ "ผมคิดแต่เพียงว่าต้องการเล่นให้สโมสรให้นานที่สุด ตราบที่ ลิเวอร์พูล ยังต้องการผมอยู่ อนาคตส่วนตัวนั้นผมไม่ทราบว่าจะยังคงอยู่เมืองนี้ต่อไปหลังเลิกเล่นไปแล้ว หรือว่าจะยังได้คลุกคลีกับฟุตบอลต่อไปอีกหรือไม่ ผู้คนทั่วไปบอกว่าผมจะมีเงินมากขึ้น หรือได้แชมป์เพิ่มอีก หากย้ายจากแอนฟิลด์ แต่ผมยังรู้สึกเสมอว่ายังสามารถเป็นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ได้อีก และถ้าทำได้มันจะมีความหมายมากมายเพียงใด ตอนนี้อนาคตของทีมสดใสขึ้น เมื่อได้ เคนนี ดัลกลิช มาคุมทีม เขาช่วยเหลือผมในทุกเรื่อง และยังมีโอกาสคุยกับ จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี เจ้าของทีม และ ทอม เวอร์เนอร์ พวกเขาต่างต้องการนำสโมสรนี้กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งเมื่อถึงเวลานั้น"
