ปรับ-แบน "พัทยา-ท่าเรือ" เหตุแฟนบอลตีกัน

บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด สั่งลงโทษปรับเงิน พัทยา ยูไนเต็ด และ การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมละ 7 หมื่นบาทและห้ามแฟนบอลของแต่ละทีมเข้าชมเกมนัดเหย้าเป็นจำนวน 2 นัด จากความผิดที่แฟนบอลของทั้งสองทีมก่อเหตุความวุ่นวายหลังจบเกมที่เจอกันเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายบริหารของทั้งสองสโมสรไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินเตรียมยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สนามกีฬาแห่งชาติ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมด้วย นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทวินัย และ พล.ต.ต อำนวย นิ่มมะโน ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาโทษฯ ร่วมกันแถลงคำตัดสินกรณีเกิดเหตุความวุ่นวายของแฟนบอลหลังจบเกมไทยพรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ การท่าเรือไทย เอฟซี 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา เปิดเผยว่าบทลงโทษยึดตามหลักกฎหมายที่มีผลแบบปีต่อปีจึงไม่มีการสมทบจากความผิดปีที่แล้ว โดยมีคำสั่งลงโทษปรับเงินทั้งสองทีมเป็นจำนวน 5 หมื่นบาทจากความผิดที่แฟนบอลทะเลาะกันและปรับอีก 2 หมื่นบาทจากความผิดปล่อยให้แฟนบอลลงมาในสนาม รวมถึงห้ามแฟนบอลของทั้งสองทีมเข้าชมเกมนัดเหย้าเป็นจำนวน 2 นัด

นอกจากนี้ การท่าเรือไทยฯ ซึ่งแฟนบอลเป็นตัวจุดชนวนอาจถูกลงโทษเพิ่มเติม ยกเว้นแต่จับแฟนบอลตัวต้นเหตุรายหนึ่งซึ่งถูกสื่อมวลชนจับภาพได้ว่ายั่วยุฝั่งตรงข้ามมาให้ ไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อจะลงโทษห้ามแฟนบอลรายนี้เข้าชมเกมในสนามอีก

ขณะที่ นายเด่นพงศ์ ปฐพลจันทเพ็ชร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม การท่าเรือไทย เอฟซี และ นายวิวัฒน์ เอี่ยมแล้ ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันสโมสรพัทยา ยูไนเต็ด ตัวแทนของทั้งสองสโมสรแสดงความไม่เห็นด้วยหลังรับทราบบทลงโทษโดยมองว่ารุนแรงเกินไปและสมควรลงโทษตามกฎหมายบ้านเมืองต่อแฟนบอลผู้กระทำผิดมากกว่า อีกทั้งเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากจบเกมแล้ว 30 นาที อาจเป็นการปั่นกระแสของผู้ไม่หวังดีก็ได้ ซึ่งทั้งสองสโมสรจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อสมาคมฟุตบอลฯต่อไป