เลื่อนลงดาบแฟนพัทยา-ท่าเรือวุ่นศุกร์นี้

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เลื่อนวันตัดสินเหตุการณ์แฟนบอลก่อความวุ่นวายหลังจบเกมการแข่งขันระหว่าง "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด เปิดสนาม สพล.ชลบุรี เสมอกับ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เป็นวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2554 แทน เนื่องจากต้องเรียกทั้งสองทีมเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อพิจารณาบทลงโทษอย่างละเอียด พร้อมปรับทีมเอสซีจี สมุทรสงคราม 15,000 บาท หลังบกพร่องเรื่องไฟส่องสนามดับระหว่างการแข่งขัน และลงโทษ ปฏิภาณ เพชรพูล กัปตันทีม "ฮัลโหล" หลังเจตนาทำร้ายแข้งขอนแก่น เอฟซี โดยแบน 2 นัด ปรับ 20,000 บาท

เมื่อเวลา 13.00 น. วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการแข่งขัน พร้อมด้วยผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สนามกีฬาแห่งชาติ

โดยประเด็นสำคัญได้มีพิจารณาและประมวลเหตุการณ์หลังจบเกมการแข่งขันประมาณ 15 นาที แฟนบอลได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกายในเกมที่ พัทยา ยูไนเต็ด เสมอกับ การท่าเรือไทย เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ สนามสถาบันการพลศึกษา จังหวัดชลบุรี โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า ชนวนในการก่อเหตุทั้งหมดเริ่มต้นมาจากแฟนบอลของทีมโลมาสีฟ้าที่อยู่ในอาการเมาสุรา ได้วิ่งเข้าไปชกต่อยคนโบกธงของทีมท่าเรือฯ ทำให้แฟนบอลสิงห์เจ้าท่าไม่พอใจ และก่อเหตุรุนแรงในที่สุด

ซึ่ง บอสใหญ่ไทยลีก เผยว่า "จากการรวบรวมข้อมูลจากนาย สุวิทย์ นิ่มอ่อนน้อม ผู้ควบคุมการแข่งขันในเกมดังกล่าว ที่ได้ออกมาขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ส่งภาพถ่ายและหลักฐานต่างๆที่บันทึกไว้ทั้งหมด เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการพิจารณาปรากฏว่ายังไม่สามารถระบุว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมนี้ จะทำการเชิญผู้เกี่ยวของทั้งสองทีม คือ พัทยา ยูไนเต็ด และ การท่าเรือไทย เอฟซี มาให้ข้อมูลแก่ทางไทยพรีเมียร์ลีก ทั้งนี้หากไม่สามารถระบุความผิดแก่ใครได้จำต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้ "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานฝ่ายพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วงสมาคมฯ เป็นผู้ลงดาบแทน ขณะเดียวกันในเกมดังกล่าวได้มีโทษปรับ "โค้ชจุ่น" จตุพร ประมลบาล เฮดโค้ชพัทยา ยูไนเต็ด เป็นเงิน 4,000 บาท หลังจากที่ออกนอกเขตเทคนิคในระหว่างการแข่งขัน บ่อยครั้งหลังจากในรับการเตือนจากผู้ตัดสินที่ 4 "

นอกจากนี้ยังมีโทษปรับ "ปลาทูคะนอง" ที่เกิดความขัดข้องไฟสนามดับตั้งแต่ต้นเกมในนัดที่เอาชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนต้องหยุดการแข่งขันไปนานกว่า 15 นาที โดยทีม เอสซีจี สมุทรสงคราม เพิ่งทำทำความผิดเป็นครั้งแรกเนื่องจากเพิ่งใช้ไฟสนามใหม่และเปิดใช้งานเป็นครั้งแรกถูกปรับเงิน 15,000 บาท ขณะเดียวกันได้ตักเตือน ศรีสะเกษ เอฟซี ภายหลังจากการแข่งขันหัวผู้ฝึกสอนไม่ยอมเข้าห้องแถลงข่าว ซึ่งในครั้งต่อไปจะลงโทษปรับ

อีกทั้งยังพบความผิดในคู่ระหว่าง ทีโอที เอสซี แพ้ ขอนแก่น เอฟซี ด้วยสกอร์ 0-2 ในวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากรีเพลย์ภาพเพื่อลงโทษย้อนหลังกรณีที่ ปฏิภาณ เพชรพูล กัปตันทีม "ฮัลโหล" เจตนาย่ำผู้เล่นทีมขอนแก่น เอฟซี โดยรอดพ้นจากสายตา ประธาน นาสว่าง ผู้ตัดสินในแมตช์นั้น โดยกองหลังรายนี้ถูกลงโทษแบน 2 นัดและปรับเงินอีก 20,000 บาท

ทั้งนี้ไทยพรีเมียร์ลีกได้ออกกฏระเบียบใหม่โดยยึดตามหลักฟีฟาและเอเอฟซีคือมีผู้เล่นโดนใบเหลืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ปรับ 10,000 บาท ซึ่งมีทีมไทยพรีเมียร์ลีกที่ถูกปรับ ประกอบด้วย 3 สโมสรอย่าง บีอีซี เทโรศาสน , อินทรีเพื่อนตำรวจ และ บางกอก เอฟซี (ดิวิชั่น1) พร้อมปรับ ทีทีเอ็ม พิจิตร หลังกองเชียร์ปาขวดลงสนาม ปรับ 5,000 บาท

ด้านดิวิชั่น 1 ได้ลงโทษปรับทีม ราชประชา ไทยแลนด์ เอฟซี เป็นแพ้ และเสีย 2 ประตู หลังจากที่ส่งผู้เล่นต่างชาติลงไปทำการแข่งขันเกินจำนวน ในนัดที่เสมอ "กิเลนทะเลใต้" เอฟซี ภูเก็ต 1-1 เมื่อวันเสารที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทว่าไม่ได้มีการปรับเงินแต่อย่างใดเนื่องจากเป็นความผิดครั้งแรก