"เอลส์" เตรียมป้องแชมป์คาดิลแลคฯ

เออร์นี เอลส์ อดีตแชมป์เมเจอร์ 3 รายการ รู้สึกตื่นเต้นที่จะกลับไปป้องกันแชมป์ศึกกอล์ฟรายการคาดิลแลค แชมเปียนชิป ที่สนามโดรัล "บลู มันสเตอร์" ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคมนี้

โดยโปรวัย 41 ปีชาวแอฟริกาใต้ คว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วซึ่งรายการยังใช้ชื่อว่า ซีเอ แชมเปียนชิป หลังทำสกอร์รอบสุดท้าย 66 จนเอาชนะ ชาร์ล ชวาร์ทเซล สวิงเพื่อนร่วมชาติไป 4 สโตรก ซึ่งเจ้าของฉายา "บิ๊กอีซีย์" รู้สึกประทับใจกับชัยชนะของตนเองเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว

"ผมมีความทรงจำที่ดีเยี่ยมจากชัยชนะบนสนามโดรัลเมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะการได้เล่นรอบสุดท้าย ชาร์ล ซึ่งเป็นเพื่อนรักของผม การสู้กับเขาเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่สุดยอด ดังนั้นผมจึงรู้ว่ามันเป็นงานหนัก เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย ดังนั้นผมก็รู้สึกเสียใจกับเขาเล็กน้อย ในวันนั้นหลุมสำคัญน่าจะเป็นหลุมที่ 14 และ 15 ซึ่งผมเซฟพาร์ได้ในหลุมที่14 ขณะ ชาร์ลโชคไม่ดีในหลุมที่ 15 เมื่อเขาตีลูกตกบังเกอร์จนทำได้เพียงโบกี ผมรู้ว่าผมต้องเซฟพาร์เพื่อชนะทัวร์นาเมนท์ มันกดดันมาก แต่ในที่สุดผมก็ทำได้ เกมการเล่นของผมดีตลอดทั้งสัปดาห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนกรีนและนั้นทำให้เกิดความแตกต่างในท้ายที่สุด"

การคว้าแชมป์ ซีเอ แชมเปียนชิป ยังถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 2 ปีของ เอลส์ นับแต่ชนะรายการฮอนด้า คลาสสิก เมื่อปี 2008

"มันทำให้ผมโล่งใจอย่างมากหลังจากไม่ได้คว้าแชมป์มายาวนาน ผู้คนเริ่มตั้งคำถามกับตัวคุณ แต่ผมไม่เคยสงสัยตัวเองเลย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้สัมผัสกับชัยชนะอีกครั้ง ผมตอนนั้นว่าการชนะสักรายการเป็นเรื่องยากเมื่อคุณแก่ขึ้นและปัจจุบันก็มีผู้เล่นอายุน้อยๆกำลังขึ้นมา แต่ผมเชื่อว่าผมยังมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้างและมันพิสูจน์ให้เห็นที่สนามโดรัลเมื่อปีที่แล้ว" ยอดโปรชาวแอฟริกาใต้ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ศึกกอล์ฟรายการ คาดิลแลค แชมเปียนชิป ชิงเงินรางวัลรวม 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 260 ล้านบาท) โดยมีนักกอล์ฟมือ 50 อันดับแรกของโลกเข้าร่วมการแข่งขัน รวมถึงนักกอล์ฟ 30 อันดับแรกจากตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์ คัพ เมื่อปีที่แล้ว และ 10 อันดับแรกของตารางในปัจจุบัน อีกทั้งโปร 20 อันดับแรกของตารางเรซ ทู ดูไบ เมื่อปีก่อนและ 10 อันดับแรกของตารางในปัจจับัน นอกจากนี้ ผู้เล่น 2 อันดับแรกบนตารางเงินรางวัลของ เอเชียน ทัวร์, เจแปน ทัวร์, ออสเตรเลเซียน ทัวร์ และ ซันไชน์ ทัวร์ (แอฟริกาใต้) ก็ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยเช่นกัน