หลังจบการแข่ง ขันแอคเซนเจอร์ แมตช์เพลย์ แชมเปียนชิป อันเป็นทัวร์นาเมนท์แรกของซีรี่ย์เงินล้าน “ดับเบิลยูจีซี” (เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิป) วงการกอล์ฟโลกก็ได้โปรหมายเลขหนึ่ง คนใหม่ที่ชื่อ มาร์ติน คายเมอร์ หลังหนุ่มเยอรมันคว้าตำแหน่งรองแชมป์รายการดังกล่าวมาครอง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งการันตีผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดสองปีของ คายเมอร์ ที่คว้าแชมป์ถึง 7 รายการ มากกว่า "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ และ ลี เวสต์วูด อดีตมือ 1 ของโลกสองคนก่อนหน้านี้ แต่ด้านชื่อเสียงดูเหมือนสวิงวัย 26 ปียังเป็นรองยอดนักกอล์ฟทั้งสองคน กระทั่งกระแสตอบรับในบ้านเกิดตัวเองกับการขึ้นแท่นราชาก้านเหล็กคนใหม่ยัง เป็นไปอย่างเงียบเหงา
"มันจำเป็นที่จะต้องผลักดันภาพลักษณ์ของมาร์ติน คายเมอร์ในประเทศเยอรมนี เพราะสื่อมวลชนไม่ได้ให้ความสำคัญในการรายงานข่าวเขามากพออย่างที่ควรจะ เป็น" ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสารมวลชนรายหนึ่งแสดงความเห็นกับสำนักข่าวรอยเตอร์
แม้ในฐานะนักกีฬาอาชีพ คายเมอร์ มีแรงขับดัน ความมุ่งมั่นและจิตใจอันแข็งแกร่งกระทั่งนำตัวเองมาสู่จุดสูงสุดของวงการ กอล์ฟเช่นเดียวกับนักกีฬาชาวเยอรมันคนอื่น อาทิ สเตฟฟี กราฟ และ บอริส เบ็กเกอร์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกหญิง-ชาย รวมถึง มิชาเอล ชูมัคเกอร์ อดีตแชมป์โลกรถสูตรหนึ่ง 7 สมัย แต่ขณะที่ชาวเมืองเบียร์กระตือรือล้นในการติดตามผลงานของทั้งสามบนคอร์ต เทนนิสหรือสนามแข่งรถ เหตุการณ์กลับผิดกันกับ คายเมอร์ ผู้ซึ่งเข้าสู่วงการกอล์ฟเมื่อปี 2005 และค่อยๆไต่อันดับโลกมาอย่างเงียบเชียบ แม้ฮือฮาบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อคว้าแชมป์ แต่การปรากฎชื่อของโปรชาวเมืองดุสเซลดอร์ฟบนหน้าปกก็ไม่ได้ทำให้ "บิลด์" หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของประเทศเพิ่มยอดพิมพ์แต่อย่างใด
ทั้งนี้คายเมอร์ ซึ่งไม่ได้เดินทางกลับบ้านเกิดนับแต่คว้าแชมป์เมเจอร์ "พีจีเอ แชมเปียนชิป" เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วกล่าวยอมรับระหว่างรายการแอคเซนเจอร์ แมตช์เพลย์ แชมเปียนชิป เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวแพ้ต่อ ลุก โดนัลด์ โปรชาวอังกฤษในรอบชิงดำจนเป็นเพียงรองแชมป์ว่า"ในประเทศเยอรมนี มันเป็นเรื่องยากมากที่จะมีแฟนๆให้ความสนใจหรือรู้จักคุณ เพราะฟุตบอลและรถแข่งเอฟวันเป็นกีฬายอดนิยมของคนประเทศนี้"
แต่โปรวัย 26 ปีหวังว่ากีฬากอล์ฟจะได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศบ้านเกิด หลังจากตนเองกลายเป็นชาวเยอรมันคนที่สองต่อนับตั้งแต่ เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ครองมือ 1 ของโลกเมื่อปี 1986 "ในฐานะนักกอล์ฟแล้ว มันยากที่จะมีใครรู้จัก แต่ผมกำลังพยายามทำในสิ่งที่ สเตฟฟี กราฟ และ บอริส เบ็กเกอร์ ทำสำเร็จในวงการเทนนิส ถ้าหากเราสามารถทำได้แบบเดียวกันกับกีฬากอล์ฟในประเทศเยอรมนี ก็จะเป็นเรื่องดีมาก"
ความหวังของ คายเมอร์ ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงมากนัก แม้แต่ ลังเกอร์ เองก็ยังเชื่อว่าการประสบความสำเร็จของโปรรุ่นน้องจะเป็นแรงผลักดันให้กับวง การกอล์ฟประเทศเยอรมนี "ผมมั่นใจว่าการเป็นมือ 1 โลกของ คายเมอร์ จะส่งเสริมวงการกอล์ฟในเยอรมนีให้ดีขึ้น อย่างแรกเลย มันจะทำให้มีการรายงานข่าวกอล์ฟทางทีวีและในสื่อต่างๆ ผู้คนหลายคนจะได้เห็นกีฬากอล์ฟมากขึ้น นักกอล์ฟสมัครเล่นก็จะมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุน้อยๆ"
นอกจากนี้ตำนานวัย 53 ปียังกล่าวสรรเสริญการก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วของ คายเมอร์ ในวงการกอล์ฟว่าเป็น "ปรากฎการณ์" ทั้งที่เพิ่งเริ่มเล่นในชาลเลนจ์ ทัวร์ ของยุโรปเมื่อปี 2006 ขณะอายุ 21 ปีแต่อีก 4 ปีถัดมากลับคว้าแชมป์เมเจอร์แรกและครองตำแหน่งผู้ทำเงินสูงสุดของยูโรเปียน ทัวร์ เมื่อปีที่แล้ว พร้อมเชื่อว่าถ้าหากสวิงพูดน้อยรักษามาตรฐานการเล่นต่อไปก็จะสามารถสร้าง ชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นระดับแถวหน้าของวงการกอล์ฟไปอีกนาน
"จากมุมมองด้านกอล์ฟแล้ว มาร์ติน สามารถทำอะไรก็ได้ เพราะเด็กหนุ่มผู้นี้ไร้ขีดจำกัด สามารถตีลูกได้ไกลและตรง ลูกสั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผมแล้ว มันไม่น่าประหลาดใจเลยที่เขาเป็นมือ 1 ของโลก และนี่เป็นเรื่องที่วิเศษ เป็นสิ่งที่วงการกอล์ฟเยอรมันต้องการ เขาเป็นแบบอย่างที่สุดยอด ผมพอใจมากและหวังว่าจะได้เห็นผลงานของคายเมอร์ในระดับสูงสุดต่อไปอีกหลายๆ ปี" ลังเกอร์ กล่าวทิ้งท้าย