นิวยอร์ก เจ็ตส์ ดูเหมือนจะเป็นทีมแรกที่ออกมาประกาศอาจต้องลอยแพบุคลากรในทีม หากไม่มีการแข่งขันศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2010/11 หลังจากการเจรจาระหว่างลีก, บรรดาเจ้าของทีม และสหภาพผู้เล่น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
งวดเข้ามาทุกขณะสำหรับเส้นตายข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกันที่จะหมดลงในวันที่ 3 มีนาคมนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีก NFL บรรดาเจ้าของทีมทั้ง 32 เฟรนไชส์ รวมถึงตัวแทนสหภาพผู้เล่น กำลังนั่งถกประเด็นเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ร่วมกัน เพื่อหาบทสรุปที่จะให้เกมการแข่งขันฤดูกาล 2011/12 ดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
เนื้อหาสาระหลักๆ ของการประชุมหารือกันมา 4 วันติด เห็นจะหนีไม่พ้นการแบ่งผลประโยชน์รายได้ก้อนโต 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.7 แสนบาท) นอกจากนี้เจ้าของทีมหลายคนมีความประสงค์ให้เพิ่มกมในฤดูกาลปกติจากเดิม 16 เป็น 18 เกม พร้อมกับตัดเกมพรีซีซันซึ่งปกติมี 4 เหลือแค่ 2 เกม ซึ่งประเด็นนี้กำลังงัดกับสหภาพผู้เล่น อีกทั้งยังมีเรื่องการปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยของบรรดาผู้เล่นหน้าใหม่ (รุคกี) และผลประโยชน์ที่นักกีฬาที่เลิกเล่นไปแล้วควรได้รับ
เรื่องนี้ ชาร์ลี แบทช์ ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ที่เป็นตัวแทนสหภาพผู้เล่นของทีม "คนเหล็ก" ออกมาแย้มกับสื่อแดนมะกันทำนองการเจรจากำลังไปได้สวยทีเดียว "ผมไม่ได้เสแสร้งว่ารู้อะไรมามากนักกับสิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังเจรจากันอยู่ แต่ผมอยู่ที่นี่ และทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี"
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถตกลงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันได้หลังผ่านเส้นตาย เท่ากับว่า NFL จะเกิดการล็อกเอาท์ทันที ซึ่งหลายฝ่ายไม่ต้องการให้เกิด เนื่องจากมีรายงานว่ามีหลายทีมอาจต้องลอยแพคนงาน หรือขอปรับลดค่าจ้างลงมา เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในฤดูกาล 2010/12
โดย แมตต์ ฮิกกินส์ รองประธานฝ่ายจัดการด้านธุรกิจของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ยืนยันเรื่องดังกล่าวแล้วว่า พนักงาน 158 คน มีอยู่ 96 คนที่ดูแลเรื่องธุรกิจของทีม คงไม่ได้รับค่าจ้างในแต่ละเดือนจนกว่าสัญญาข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกันของ NFL จะมีการเซ็นฉบับใหม่กัน โดยทีมอนุญาตให้พนักงานพักงานได้ แต่อีกมุมเหมือนเป็นการบีบให้ออกกลายๆ
ซึ่ง ฮิกกินส์ เผยทิ้งท้ายว่า "แผนของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานการแบ่งปันเรื่องความเสียสละซึ่งกันและกัน เราไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่นี่ แต่นี่คงเป็นแนวทางที่พอทำกันได้"
งวดเข้ามาทุกขณะสำหรับเส้นตายข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกันที่จะหมดลงในวันที่ 3 มีนาคมนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีก NFL บรรดาเจ้าของทีมทั้ง 32 เฟรนไชส์ รวมถึงตัวแทนสหภาพผู้เล่น กำลังนั่งถกประเด็นเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ร่วมกัน เพื่อหาบทสรุปที่จะให้เกมการแข่งขันฤดูกาล 2011/12 ดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
เนื้อหาสาระหลักๆ ของการประชุมหารือกันมา 4 วันติด เห็นจะหนีไม่พ้นการแบ่งผลประโยชน์รายได้ก้อนโต 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.7 แสนบาท) นอกจากนี้เจ้าของทีมหลายคนมีความประสงค์ให้เพิ่มกมในฤดูกาลปกติจากเดิม 16 เป็น 18 เกม พร้อมกับตัดเกมพรีซีซันซึ่งปกติมี 4 เหลือแค่ 2 เกม ซึ่งประเด็นนี้กำลังงัดกับสหภาพผู้เล่น อีกทั้งยังมีเรื่องการปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยของบรรดาผู้เล่นหน้าใหม่ (รุคกี) และผลประโยชน์ที่นักกีฬาที่เลิกเล่นไปแล้วควรได้รับ
เรื่องนี้ ชาร์ลี แบทช์ ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ที่เป็นตัวแทนสหภาพผู้เล่นของทีม "คนเหล็ก" ออกมาแย้มกับสื่อแดนมะกันทำนองการเจรจากำลังไปได้สวยทีเดียว "ผมไม่ได้เสแสร้งว่ารู้อะไรมามากนักกับสิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังเจรจากันอยู่ แต่ผมอยู่ที่นี่ และทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี"
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถตกลงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันได้หลังผ่านเส้นตาย เท่ากับว่า NFL จะเกิดการล็อกเอาท์ทันที ซึ่งหลายฝ่ายไม่ต้องการให้เกิด เนื่องจากมีรายงานว่ามีหลายทีมอาจต้องลอยแพคนงาน หรือขอปรับลดค่าจ้างลงมา เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในฤดูกาล 2010/12
โดย แมตต์ ฮิกกินส์ รองประธานฝ่ายจัดการด้านธุรกิจของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ยืนยันเรื่องดังกล่าวแล้วว่า พนักงาน 158 คน มีอยู่ 96 คนที่ดูแลเรื่องธุรกิจของทีม คงไม่ได้รับค่าจ้างในแต่ละเดือนจนกว่าสัญญาข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกันของ NFL จะมีการเซ็นฉบับใหม่กัน โดยทีมอนุญาตให้พนักงานพักงานได้ แต่อีกมุมเหมือนเป็นการบีบให้ออกกลายๆ
ซึ่ง ฮิกกินส์ เผยทิ้งท้ายว่า "แผนของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานการแบ่งปันเรื่องความเสียสละซึ่งกันและกัน เราไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่นี่ แต่นี่คงเป็นแนวทางที่พอทำกันได้"
