แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็กสตาร์คว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เมื่อขว้างได้ระยะ 304 หลา 3 ทัชดาวน์ นำทัพ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ผงาดคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 45 มาครอง หลังเฆี่ยนเอาชนะ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส 31-25 เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554
ที่ดัลลัส : แฟนๆ คนชนคนที่คาวบอยส์ สเตเดียม ได้เต็มอิ่มกับความมันระดับ 5 ดาวของคู่ชิงของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2010/11 และก็เป็นฟากกองเชียร์ "หัวเนยแข็ง" กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ที่ได้เฮเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ เมื่อเล่นสมศักดิ์ศรีด้วยการล้ม พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ซึ่งมีดีกรีถึงแชมป์ 6 สมัย
หลังจาก คริสตินา อกีเลรา ขับขานเพลงชาติสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้น เกมชิงแชมป์ประเทศก็เปิดฉากขึ้น โดยทั้งสองทีมใช้เกมรับยันกัน แต่เป็น แพ็คเกอร์ส เริ่มใช้เกมการขว้างเปิดเกมวิ่งได้ผล แอรอน ร็อดเจอร์ส ขว้างสกอร์แรก 29 หลาเข้ามือ จอร์ดี เนลสัน บอลมาอยู่ในมือ สตีลเลอร์ส บ้าง ทว่า เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ออกตัวเสียอินเทอร์เซปต์โดน นิค คอลลินส์ วิ่งย้อน 37 หลาเข้าเอ็นด์โซน "แพ็คส์แมน" ทิ้งห่าง 14-0
ควอเตอร์สอง "คนเหล็ก" รุกคืบเข้าไปแต่เจาะไม่เข้าต้องให้ ชอน สวิแชม เตะฟิลด์โกล 33 หลา ไล่มา 3-14 ทีมรับ "คนเหล็ก" เริ่มต้านทาน ร็อดเจอร์ส ได้บ้าง ทว่า บิ๊กเบน ดันมาขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ที่สองให้ จาร์เร็ตต์ บุช ซึ่ง ร็อดเจอร์ส ก็ตามซ้ำด้วยการขว้างให้ เกร็ก เจนนิงส์ รับอีกหนึ่งทัชดาวน์ส่งทีมหนี 21-3 แต่ช่วงท้ายครึ่งแรก โรธลิสเบอร์เกอร์ แก้ตัวขว้างสกอร์แรกของทีมให้ ไฮนส์ วอร์ด "คนเหล็ก" ไล่เหลือ 10-21 เมื่อจบครึ่งแรก
ช่วง "ฮาล์ฟ ไทมส์ โชว์" สาวเฟอร์กี นำ "แบล็ค อาย พีส์" ซึ่งยังประกอบด้วยสามหนุ่ม เอเพล ดี เอป, วิลล์ ไอ แอม และ ทาบู ออกมาสร้างความสนุกสนานให้แฟนๆ ด้วยหลายเพลงฮิต โดยมี สแลช อดีตมือกีตาร์แห่งวง "กันส์ แอนด์ โรสเซส" มาร่วมแจมเช่นเดียวกับ อัสเชอร์ แร็พเพอร์คนดัง
ลุยต่อครึ่งหลัง แพ็คเกอร์ส ไดบุกก่อน แต่เริ่มผิดพลาดเสียโทษทำให้ "คนเหล็ก" เปิดเกมของตัวเองได้บ้างแล้ว วิ่งกระทุ้งทำระยะ ก่อนที่ ราชาร์ด เมนเดนฮอลล์ ทะลวงตรงกลางให้ทีมไล่เหลือ 17-21 "แพ็คส์แมน" ชักเจอปัญหาบุกไม่ขึ้น ร็อดเจอร์ส โดน เจมส์ แฮร์ริสัน ยอดไลน์แบ็กเกอร์เข้าถึงตัวเป็นแซ็ค อย่างไรก็ตาม แพ็คส์เริ่มฮึดใช้ทีมรับยัน "บิ๊กเบน" ได้บ้าง ทำให้ สวิแชม ต้องเสี่ยงเตะ 52 หลา แต่ก็หลุดเสาไป
เข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย โมเมนตัมกำลังจะมาทาง สตีลเลอร์ส ทว่า เมนเดนฮอลล์ ดันทำฟัมเบิลโดน เคลย์ แม็ทธิวส์ ยอดไลน์แบ็กเกอร์กระแทกบอลหลุดก่อนเพื่อนเก็บได้ ถัดมา ร็อดเจอร์ส มาขว้างให้ เนลสัน รับบอลเปลี่ยนดาวน์ จากนั้นก็ขว้างทัชดาวน์เข้ามุมให้ เจนกินส์ แพ็คส์ฉีกหนี 28-17 อย่างไรก็ดี "คนเหล็ก" ไม่ยอมแพ้ โรธลิสเบอร์เกอร์ ขว้างทัชดาวน์ให้ ไมค์ วอลเลซ แถม แอนควาน แรนเดิล เอล เปลี่ยนทายได้สำเร็จทีมไล่เหลือ 25-28
ความกดดันถลาโถมใส่ "แพ็คส์แมน" และเป็นอีกครั้งที่ ร็อดเจอร์ส สร้างบิ๊กเพลย์ขว้างสอดตรงกลางให้ เจนนิงส์ เปลี่ยนดาวน์สำคัญได้อีกครั้งมาถึงบริเวณกลางสนามทว่าทีมได้เพียงฟิลด์โกลของ เมสัน ครอสบี จากระยะ 23 หลา นำ 31-25 โรธลิสเบอร์เกอร์ ได้บอลกลับมาครองช่วง 2 นาทีท้าย แต่ก็นำทีมเปลี่ยนดาวน์ที่ 4 ไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม แพ็คเกอร์ส คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ไปครอง โดยเป็นแชมป์หนแรกตั้งแต่ซีซัน 1996/97 ที่ปราบ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 35-21 และก็เป็นอันดับ 6 ทีมแรกของฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) ที่ได้เถลิง "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" (เป็นอันดับ 6 ทีมที่สองในประวัติศาสตร์ NFL ต่อจาก สตีลเลอร์ส ที่เคยเป็นแชมป์เมื่อปี 2005)
ที่ดัลลัส : แฟนๆ คนชนคนที่คาวบอยส์ สเตเดียม ได้เต็มอิ่มกับความมันระดับ 5 ดาวของคู่ชิงของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2010/11 และก็เป็นฟากกองเชียร์ "หัวเนยแข็ง" กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ที่ได้เฮเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ เมื่อเล่นสมศักดิ์ศรีด้วยการล้ม พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ซึ่งมีดีกรีถึงแชมป์ 6 สมัย
หลังจาก คริสตินา อกีเลรา ขับขานเพลงชาติสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้น เกมชิงแชมป์ประเทศก็เปิดฉากขึ้น โดยทั้งสองทีมใช้เกมรับยันกัน แต่เป็น แพ็คเกอร์ส เริ่มใช้เกมการขว้างเปิดเกมวิ่งได้ผล แอรอน ร็อดเจอร์ส ขว้างสกอร์แรก 29 หลาเข้ามือ จอร์ดี เนลสัน บอลมาอยู่ในมือ สตีลเลอร์ส บ้าง ทว่า เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ออกตัวเสียอินเทอร์เซปต์โดน นิค คอลลินส์ วิ่งย้อน 37 หลาเข้าเอ็นด์โซน "แพ็คส์แมน" ทิ้งห่าง 14-0
ควอเตอร์สอง "คนเหล็ก" รุกคืบเข้าไปแต่เจาะไม่เข้าต้องให้ ชอน สวิแชม เตะฟิลด์โกล 33 หลา ไล่มา 3-14 ทีมรับ "คนเหล็ก" เริ่มต้านทาน ร็อดเจอร์ส ได้บ้าง ทว่า บิ๊กเบน ดันมาขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ที่สองให้ จาร์เร็ตต์ บุช ซึ่ง ร็อดเจอร์ส ก็ตามซ้ำด้วยการขว้างให้ เกร็ก เจนนิงส์ รับอีกหนึ่งทัชดาวน์ส่งทีมหนี 21-3 แต่ช่วงท้ายครึ่งแรก โรธลิสเบอร์เกอร์ แก้ตัวขว้างสกอร์แรกของทีมให้ ไฮนส์ วอร์ด "คนเหล็ก" ไล่เหลือ 10-21 เมื่อจบครึ่งแรก
ช่วง "ฮาล์ฟ ไทมส์ โชว์" สาวเฟอร์กี นำ "แบล็ค อาย พีส์" ซึ่งยังประกอบด้วยสามหนุ่ม เอเพล ดี เอป, วิลล์ ไอ แอม และ ทาบู ออกมาสร้างความสนุกสนานให้แฟนๆ ด้วยหลายเพลงฮิต โดยมี สแลช อดีตมือกีตาร์แห่งวง "กันส์ แอนด์ โรสเซส" มาร่วมแจมเช่นเดียวกับ อัสเชอร์ แร็พเพอร์คนดัง
ลุยต่อครึ่งหลัง แพ็คเกอร์ส ไดบุกก่อน แต่เริ่มผิดพลาดเสียโทษทำให้ "คนเหล็ก" เปิดเกมของตัวเองได้บ้างแล้ว วิ่งกระทุ้งทำระยะ ก่อนที่ ราชาร์ด เมนเดนฮอลล์ ทะลวงตรงกลางให้ทีมไล่เหลือ 17-21 "แพ็คส์แมน" ชักเจอปัญหาบุกไม่ขึ้น ร็อดเจอร์ส โดน เจมส์ แฮร์ริสัน ยอดไลน์แบ็กเกอร์เข้าถึงตัวเป็นแซ็ค อย่างไรก็ตาม แพ็คส์เริ่มฮึดใช้ทีมรับยัน "บิ๊กเบน" ได้บ้าง ทำให้ สวิแชม ต้องเสี่ยงเตะ 52 หลา แต่ก็หลุดเสาไป
เข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย โมเมนตัมกำลังจะมาทาง สตีลเลอร์ส ทว่า เมนเดนฮอลล์ ดันทำฟัมเบิลโดน เคลย์ แม็ทธิวส์ ยอดไลน์แบ็กเกอร์กระแทกบอลหลุดก่อนเพื่อนเก็บได้ ถัดมา ร็อดเจอร์ส มาขว้างให้ เนลสัน รับบอลเปลี่ยนดาวน์ จากนั้นก็ขว้างทัชดาวน์เข้ามุมให้ เจนกินส์ แพ็คส์ฉีกหนี 28-17 อย่างไรก็ดี "คนเหล็ก" ไม่ยอมแพ้ โรธลิสเบอร์เกอร์ ขว้างทัชดาวน์ให้ ไมค์ วอลเลซ แถม แอนควาน แรนเดิล เอล เปลี่ยนทายได้สำเร็จทีมไล่เหลือ 25-28
ความกดดันถลาโถมใส่ "แพ็คส์แมน" และเป็นอีกครั้งที่ ร็อดเจอร์ส สร้างบิ๊กเพลย์ขว้างสอดตรงกลางให้ เจนนิงส์ เปลี่ยนดาวน์สำคัญได้อีกครั้งมาถึงบริเวณกลางสนามทว่าทีมได้เพียงฟิลด์โกลของ เมสัน ครอสบี จากระยะ 23 หลา นำ 31-25 โรธลิสเบอร์เกอร์ ได้บอลกลับมาครองช่วง 2 นาทีท้าย แต่ก็นำทีมเปลี่ยนดาวน์ที่ 4 ไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม แพ็คเกอร์ส คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ไปครอง โดยเป็นแชมป์หนแรกตั้งแต่ซีซัน 1996/97 ที่ปราบ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 35-21 และก็เป็นอันดับ 6 ทีมแรกของฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) ที่ได้เถลิง "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" (เป็นอันดับ 6 ทีมที่สองในประวัติศาสตร์ NFL ต่อจาก สตีลเลอร์ส ที่เคยเป็นแชมป์เมื่อปี 2005)