ASTVผู้จัดการรายวัน - ขณะที่ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2011 กำลังจะเริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันในวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 หลายสโมสรต่างพาเหรดกันเปิดตัวผู้เล่นหน้าใหม่ พร้อมเปิดเผยงบประมาณการทำทีมที่มีมากมายมหาศาล โดยรวม 18 ทีมในลีกสูงสุดอาจใช้วงเงินรวมร่วม 1,000 ล้านบาท
เริ่มต้นกันที่สโมสรในกลุ่มหัวแถว สำหรับ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดต่อกัน แม้จะแยกทางกับ เรเน เดอซาเยียร์ กุนซือชาวเบลเยียม แต่ก็คว้าตัว คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ ยอดโค้ชชาวบราซิล พร้อมกับทุ่มงบฮื้อซ่าดึงตัวนักเตะชั้นนำอย่าง คัพฟ้า บุญมาตุ่น, อานนท์ สังข์สระน้อย รวมถึงยังมี เชส เรย์มาน นักเตะกองหลังที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, มิโลสลาฟ ทอธ อดีตดาวเตะจาก ทีโอที เอฟซี เป็นต้น โดยวงในเผยงบประมาณทำทีมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ฝั่ง บุรีรัมย์ พีอีเอ รองแชมป์เก่าฤดูกาลที่แล้ว ภายใต้การนำของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ยืนยันมีงบประมาณทำทีมร่วม 100 ล้านบาท ซึ่งแม้จะยังไม่มีการเปิดตัวผู้เล่นหน้าใหม่ แต่ก็คาดว่าน่าจะมีการดึงดาวเตะจาก เลสเตอร์ ซิตี แห่งแชมเปียนชิป อังกฤษ มาร่วมทีมด้วยแน่ เนื่องจากหมายมั่นปั้นมือจะนำทีมกลับมาลุ้นแชมป์ไทยลีกให้ได้
ด้าน ชลบุรี เอฟซี แม้จะจบลีกเพียงอันดับ 3 แต่การคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ก็ช่วยกระตุ้นให้ผู้เล่นมีความมุ่งมั่น ภายใต้การนำทัพของ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมคนใหม่ แถมยังมีการทุ่มงบถึง 60 ล้านบาท เพื่อล่าแชมป์ไทยลีก, เอฟเอ คัพ รวมถึงลีก คัพ และ เอเอฟซี คัพอีกด้วย
ส่วนสโมสรยักษ์หลับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน แม้ฤดูกาล 2010 จะต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ทว่า ไบรอัน มาร์การ์ ประธานสโมสร ประกาศทุ่มเงินถึง 90 ล้านบาท เพื่อดึงทีมกลับสู่ท็อปทรีให้ได้เป็นอย่างน้อย อีกทั้งยังดึงดาวดังฝีเท้าดีอย่าง รณชัย รังสิโย อดีตดาวยิงฟอร์มร้อน และ เจษฎา จิตสวัสดิ์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋า พร้อมดาวเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมมากมาย
ขณะที่ทีมดังอย่าง "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ฤดูกาลที่แล้วผลงานน่าผิดหวังทั้งที่ลงทุนมหาศาล ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมเป็นหลัก แต่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมใหม่ด้วยการดัน "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ลงมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม พร้อมหว่านเม็ดเงินดึง "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ที่ย้ายมาจากสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย และ ซิลแว็ง อิดองกา อดีตหัวหอกจากโอลิมปิก ลียง ร่วมล่าตาข่าย พร้อมวางเป้าขยับเข้าสู่ตำแหน่งท็อปทรี โดยงบประมาณทำทีมมีให้ไม่อั้น
ท้ายสุดเป็นทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ที่หวุดหวิดจะชวดร่วมฟาดแข้งไทยลีกฤดูกาลนี้ เนื่องจากปัญหาเรื่องสิทธิ์การทำทีม ก่อนจะลงเอยด้วยดี พร้อมกับการอำลาเก้าอี้ประธานสโมสรของ พิเชฐ มั่นคง พร้อมส่งไม้ต่อให้กับ ซุปเปอร์ริช กลุ่มทุนใหม่ที่ทุ่มเงินถึง 110 ล้านบาท เพื่อบริหารทีมภายใต้การดูแลของ "เสือเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ผู้จัดการทีมมาดกวนเช่นเดิม
นอกจากนี้ยังมีหลายสโมสรที่น่าจับตาไม่ว่าจะเป็น โอสถสภา เอ็ม 150 ที่ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ ประธานสโมสรที่เทงบประมาณถึง 60 ล้านบาท ฉลองครบรอบ 120 ปีของโอสถสภา เพื่อนำทีมคว้าเกียรติยศรายการใดรายการหนึ่ง เช่นเดียวกับ ทีมทหารบก ที่ได้ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ มานั่งบริหารทีม พร้อมมีงบประมาณ 50 ล้านบาท ดึงแข้งฝีเท้าดีโดยเฉพาะนักเตะผิวสีมาร่วมทีม รวมถึง "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมเล็กแต่ใจใหญ่ แถมได้สปอนเซอร์ใหญ่อย่างค่ายปูนยักษ์ควักกระเป๋าจ่ายไม่อั้น โดยฤดูกาลนี้ยอดตัวเลขอยู่ที่ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว
