xs
xsm
sm
md
lg

"พิเชฐ"จวกยับการท่าฯปล้นทีม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิเชฐ มั่นคง เปิดบ้านพบสื่อมวลชน
"บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธาน บ.การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดใจช้ำหลังมีคำตัดสินยกสิทธิ์การส่งทีมร่วมไทยพรีเมียร์ลีก 2011 คืนการท่าเรือแห่งประเทศไทย รับเหมือนโดนปล้น พร้อมขอเว้นวรรคทำทีมลูกหนัง

หลังจากที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ตัดสินกรณีแย่งสิทธิ์การส่งทีมร่วมแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ด้วยการคืนสิทธิ์ดังกล่าวให้กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ส่งผลให้ "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธาน บริษัท การท่าเรือไทย เอฟซี ที่ทำทีมมาตลอดระยะเวลา 2 ปี แสดงอาการผิดหวังอย่างมาก ล่าสุดมีการเปิดบ้านให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดย "บิ๊กเชฐ" กล่าวว่า "การตัดสินกรณีนี้ของสมาคมฟุตบอลฯ ทำให้ผมเสียหน้ามาก ที่ผ่านมาบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ผมมาดูแลทีมดังกล่าว ช่วงที่สถานการณ์คับขัน และไม่เห็นมีใครอยากทำ พอผ่านไป 2 ปี ทีมได้ 2 แชมป์ กลับอยากได้ทีมกลับคืนไป แบบนี้น่าจะเรียกว่าโดนปล้น หรือว่าชุบมือเปิป ซึ่งผมกำลังอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายความว่าจะสามารถฟ้องร้องเอาผิดกับใครได้หรือไม่ โดยที่เล็งไว้ก็จะฟ้อง สมาคมฟุตบอลฯ ต่อด้วย ไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนการท่าเรือแห่งประเทศไทยนั้น อาจจะไม่ฟ้อง เพราะหากทำเช่นนั้น ตัวผมเองซึ่งเคยเป็นหนึ่งชีวิตในองค์กรดังกล่าวก็คงรู้สึกไม่ดีไปด้วยเช่นกัน"

นอกจากนี้อดีตประธานสโมสร "สงห์เจ้าท่า" กล่าวต่อไปด้วยว่า "ทราบมาว่านายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย บอกว่าจะนำนักเตะของการท่าเรือไทย เอฟซี มาใช้ในฤดูกาลนี้ ผมก็อยากจะถามว่าตอนยื่นเรื่องทวงสิทธิ์การทำทีมนั้น ฝ่ายนั้นก็บอกว่าพร้อมจัดทีมลงแข่งขัน แต่ทำไมพอได้สิทธิ์ไปแล้วกลับมาใช้ผู้เล่นของผม ใจจริงก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะเป็นห่วงนักเตะของทีมเช่นกัน"

ขณะเดียวกัน "บิ๊กเชฐ" กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมคิดว่าทางการท่าเรือแห่งประเทศไทย คงจะไม่ชำระหนี้ที่บริษัทของผมแบกรับอยู่ 40 ล้านบาท ซึ่งมีเงินส่วนของผมอยู่ด้วย 8 ล้านบาท แต่คาดว่าบริษัทซุปเปอร์ริช แบงค็อก จำกัด ที่ผมติดต่อเจรจามาเป็นผู้ร่วมทุนจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยหากเจรจากันเรื่องชำระหนี้ได้ กรณีนี้ก็อาจจบกันแบบพอใจทุกฝ่าย หลังจากนั้นผมก็คงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลสักระยะ และคงไม่ไปตั้งทีมเอง เพราะต้องใช้งบประมาณในการทำทีมมหาศาล"
กำลังโหลดความคิดเห็น