“แมนนิง-วิค” จอดป้าย ประเดิมศึกไวลด์การ์ด ?

ASTVผู้จัดการรายวัน - ข้ามผ่านฤดูกาลปกติของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาสู่ช่วงโพสต์ซีซันของปี 2010/11 ประเดิมสุดสัปดาห์นี้ด้วย "ไวลด์การ์ด เกม" ของทั้งฝั่งเอเอฟซี (AFC) และ เอ็นเอฟซี (NFC) ซึ่งมีโอกาสไม่น้อยที่ทีมเยือนจะบุกไปคว้าชัยในเมื่อฟอร์มการเล่นและสถิติมิได้เป็นรอง บรรทัดต่อจากนี้เป็นบทวิเคราะห์โดย "ลุงแซม" คอลัมนิสต์กีฬาประจำ ASTV ผู้จัดการรายวัน

AFC

อันดับ 5 บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (12-4) เยือน อันดับ 4 แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (10-6)
"อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เคยบุกไปเล่นงานยอดทีมอย่าง นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มาแล้วเมื่อซีซันก่อน จึงค่อนข้างน่าห่วง "หัวหน้าเผ่า" แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ที่จะลงเล่นเกมระดับเพลย์ออฟหนแรกในรอบ 5 ปีหลังสุด อันที่จริง ชีฟส์ ทำผลงานได้เกินคาด นั่นมาจากความยอดเยี่ยมของ จามาล ชาร์ลส ที่ทะลวงภาคพื้นดินได้ระยะเกิน 1 พันเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน แต่ ชาร์ลส เตรียมเจอความท้าทายเมื่อต้องชนทีมรับ เรฟเวนส์ ที่อนุญาตให้คู่แข่งวิ่งใส่เฉลี่ยแค่ 94 หลาต่อเกม ส่วน แมตต์ แคสเซล ควอเตอร์แบ็กความหวังต้องจูนกับ ดีเวย์น โบว์ ให้ติด มิฉะนั้นจะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของทีมรับสุดแกร่งของ NFL

ส่วนทีมเยือนไม่จำเป็นต้องเล่นให้หวือหวา ในเมื่อ เรฟเวนส์ มีหมัด 1-2 จากเกมวิ่งของ เรย์ ไรซ์ และ วิลลิส แม็คเกฮี หรือหากต้องเปิดเกมทางอากาศ โจ แฟล็กโก จอมทัพร่างใหญ่ซึ่งพัฒนาขึ้นมากยังสามารถมองเป้าหมายใกล้ตัวอย่าง ท็อดด์ ฮีป ปีกในคู่ใจ หรือจะบอมบ์ยาวไปที่ อันควาน โบลดิน และ ที.เจ. ฮุชมันซาเดห์ ที่ประจำการอยู่สองฟากสนาม ด้วยประสบการณ์ รวมถึงขุมกำลังที่แน่นปึ้กในทุกตำแหน่ง เรฟเวนส์ จะใช้บอลคอนโทรลดึงให้ ชีฟส์ มาเล่นในเกมของพวกเขา ก่อนบินไปจิกชัยถึงแฮร์โรด เฮด สเตเดียม ง่ายดายเกินคาด

อันดับ 6 นิวยอร์ก เจ็ตส์ (11-5) เยือน อันดับ 3 อินเดียนาโปลิส โคลต์ส (10-6)
รีแมตช์เกมชิงแชมป์สาย AFC เมื่อซีซันก่อน อาจไม่จบลงเหมือนเดิม ถึงแม้ "เกือกม้า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส จะได้ปักหลักในบ้านอีกครั้ง ทว่าการที่ เพย์ตัน แมนนิง ไม่มีบรรดาปีกฝีมือดีอย่าง ออสติน โคลลี, แอนโธนีย์ กอนซาเลซ รวมถึง ดัลลัส คลาร์ก ทำให้คู่แข่งสามารถล็อกตายใส่ เรจจี เวย์น กับ ปิแอร์ การ์ซอง เมื่อต้องเสี่ยงขว้างเจาะมากขึ้นทำให้ แมนนิง เสียไปแล้วถึง 17 อินเทอร์เซปต์ นั่นยิ่งทำให้ เร็กซ์ ไรอัน หัวหน้าโค้ชเจ็ตส์ เตรียมส่งแผนบลิทช์เป็นชุดใส่เพื่อกดดันควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะให้ไปไม่เป็น ทางรอดของเจ้าถิ่นต้องลุ้นให้ โจเซป แอดดาย กับ โดนัลด์ บราวน์ วิ่งกันให้ออกเพื่อให้เกมเกิดความสมดุล

ด้านของ เจ็ตส์ แน่นอนต้องการเห็น แมนนิง ยืนอยู่ข้างสนามให้นานที่สุด ดังนั้น ชอนน์ กรีน กับ ลาไดเนียน ทอมลินสัน จะถูกส่งลงมาสลับกันวิ่งเปลี่ยนดาวน์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการใช้บอลคอนโทรลเป็นการช่วยลดความกดดันจาก มาร์ค ซานเชซ ที่ยังถูกตั้งคำถามเรื่องความนิ่งในเกมใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควอเตอร์แบ็กคนหนุ่มกำลังฮึกเหิมเมื่อพาต้นสังกัดบุกชนะทีมเต็งอย่าง พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ถึงถิ่นมาแล้วในเกมสัปดาห์ที่ 15 ของฤดูกาลปกติ ทั้งยังอยากพิสูจน์ตัวเองในการเผชิญหน้ากับ แมนนิง อีกสักตั้ง ด้วยองค์ประกอบที่ไม่แกร่งเหมือนเดิมของ โคลต์ส ทำให้คู่นี้มีโอกาสพลิกล็อกอยู่พอสมควร

NFC

อันดับ 5 นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส (11-5) เยือน อันดับ 4 ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส (7-9)
"เหยี่ยวทะเล" ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส เป็นแชมป์กลุ่มทีมแรกในประวัติศาสตร์ NFL ที่เข้าสู่โพสต์ซีซัน ด้วยสถิติแพ้มากกว่าชนะ แม้จะได้เล่นที่บ้านในรอบแรก แต่บ่อนรับพนันถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ยกให้ "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส มาเยือนด้วยแต้มต่อสูงถึง 10.5 คะแนน นั่นแสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดีของ "แชมป์เก่า" กับการทะลุสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ อย่างไรก็ตาม ประตูสู่รอบสองหาได้ปิดเสียทีเดียวสำหรับ ซีฮอว์คส ในเมื่อพวกเขามี "ผู้เล่นคนที่ 12" หนุนหลังที่เควสต์ ฟิลด์

อีกทั้งเจ้าบ้านมีข่าวดีเมื่อ แมตต์ ฮัสเซลเบ็ค สลัดอาการบาดเจ็บสะโพกลงซ้อมได้แล้ว มีลุ้นเบียด ชาร์ลี ไวท์เฮิร์สท สู้ศึกน็อกเอาท์ ซึ่งก็น่าสนใจเพราะ 4 เกมหลังสุดในเพลย์ออฟที่บ้าน ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋านำ ซีฮอว์คส ได้เฮตลอด ตรงข้ามกับ เซ็นต์ส พ่ายทั้ง 3 เกมเมื่อต้องไปเยือนในโพสต์ซีซัน ล่าสุดทีมยังมาเสีย ปิแอร์ โธมัส ตัววิ่งคนสำคัญเจ็บข้อเท้า ตามรอย คริส ไอวอรี รันนิงแบ็กตัวเก่งเข้าสู่รายชื่อบัญชีผู้เล่นบาดเจ็บ หมดสิทธิลงเล่นตลอดเพลย์ออฟ ดังนั้น เรจจี บุช ต้องขุนฟอร์มเก่งเปิดเกมบุกภาคพื้นดินรวมถึงคอยรับบอลสั้นจาก ดรูว์ บรีส์ อย่างไรก็ดี การที่ "เหยี่ยวทะเล" มีจุดอ่อนหลังบ้านรั่วเสียเฉลี่ยเกมละ 249.6 หลา บรีส์ คงรู้มีวิธีพา "นักบุญ" ซิวชัยแม้จะหืดจับก็ตาม

อันดับ 6 กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (10-6) เยือน อันดับ 3 ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (10-6)
นี่เป็นเกมที่ ไมเคิล วิค รอคอย หลังลงมากู้สถานการณ์ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ไม่ทันนัดเปิดบ้านพ่าย กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส 20-27 ในเกมเปิดหัวซีซัน 2010/11 ซึ่งจอมทัพที่ได้ลุ้นตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ลั่นวาจาจะใส่ลงไป 120 เปอร์เซ็นต์ในการนำ "อินทรีมรกต" ถอนแค้นให้ได้ ทว่าอาการเจ็บโคนขาจะส่งผลต่อเกมของควอเตอร์แบ็กจอมวิ่งไม่น้อย ไหนจะต้องหลบหลีกการแซ็คของ เคลย์ แม็ทธิวส์ สุดยอดไลน์แบ็กเกอร์ รวมถึงอย่าให้โดน ชาร์ลส วูดสัน ตัวคุมปีกจอมเก๋าสอดช่องคอยอินเทอร์เซปต์ เพื่อความแน่นอน วิค อาจต้องยัดบอลให้ เลอชอน แม็คคอย คอยทะลวงเกมป้องกันวิ่งของ "แพ็คส์แมน" แทนที่จะเล่นอะไรเสี่ยงๆ ด้วยตนเอง

ทางฝั่งผู้มาเยือน แม้คู่แข่งรู้ทั้งรู้ว่า แพ็คเกอร์ส มีโหมดเดียวในเกมบุก นั่นก็คือเกมทางอากาศ ทว่า แอรอน ร็อดเจอร์ส ก็ยังฉายแสงว่าที่ควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ขว้างบอลใส่เกมรับคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่น เกร็ก เจนนิงส์ กับ โดนัลด์ ไดรฟ์เวอร์ เชื่อมือได้ อีกทั้งการมี แชด คลิฟตอน คอยปัดป้องบริเวณแนวทำให้ ร็อดเจอร์ส สามารถยืนปักหลักมองหาเป้าหมายได้มากขึ้น มีโอกาสโจมตีไปที่แผงหลัง อีเกิลส์ ที่ไม่แกร่งนักทั้งในตำแหน่งของตัวคุมปีกและเซฟตี กอปรกับได้รับการช่วยเหลือจากทีมรับที่จะคอยชะลอความห้าวของ วิค มีโอกาสที่ แพ็คเกอร์ส จะบุกมาเฮถึงลินคอนไฟแนนเชียล ฟิลด์ ได้เช่นกัน