xs
xsm
sm
md
lg

วัดพลัง "โคลต์ส-นักบุญ" ก่อนลุยศึกซูเปอร์โบว์ล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมนนิง ควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะ

ASTVผู้จัดการายวัน - เดินทางมาถึงเกมสุดท้ายของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2009/10 กันแล้ว โดยเช้าวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 คงได้ทราบกันว่าระหว่าง "เกือกม้า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส กับ "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทีมใดจะสมหวังในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44 ซึ่งบรรทัดต่อจากนี้ "ลุงแซม" คอลัมนิสต์แห่งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน นำเอาขุมกำลังทั้งสองทีมมาเทียบให้เห็นว่ามีจุดแข็ง-จุดอ่อนอะไรกันบ้าง

ทีมบุก

"ทีมบุก" คือ จุดขายของทั้งสองทีมจึงไม่น่าแปลกใจที่ลาสเวกัส จะออกราคาให้คะแนนรวมของคู่นี้สูงถึง 55.5 แต้ม ซึ่งหากมองกันที่ตัวเลขเรื่องสถิติ ทีมบุกเซ็นต์ส ภายใต้การนำของ ดรูว์ บรีส์ ทรงประสิทธิภาพที่สุดในลีก ระยะเฉลี่ยต่อเกม 403.8 หลา ทำคะแนนมากที่สุด 31.9 แต้ม การถล่ม อริโซนา คาร์ดินัลส์ และ มินเนโซตา ไวกิงส์ รวมกัน 76 แต้มในเพลย์ออฟ ยิ่งถือเป็นครื่องการันตี โดยการบุกของ "นักบุญ" เน้นไปที่การขว้างกระจายบอลให้ปีกฝีมือดีทั้ง มาร์คิส โคลสตัน, เดเวรี เฮนเดอร์สัน, โรเบิร์ต มีแชม หรือว่า เจเรมี ช็อคคีย์ ขณะที่รันนิงแบ็กอย่าง ปิแอร์ โธมัส ถือว่าใช้ได้ เรจจี บุช เน้นเป็นอ๊อปชันตัวรับบอลเสริมและวิ่งย้อนมากกว่า ที่พลิกโผขึ้นมาคือบรรดาแนวป้องกันที่ไม่ได้ขึ้นชื่อมากนัก กลับให้เวลา บรีส์ ได้เล็งเป้าหมายขว้างบอลได้ดี ขณะที่ โคลต์ส การวิ่งเฉลี่ยแค่ 80.9 หลาต่อเกม ทำให้ โจเซป แอดดาย แปรสภาพมารับบอลสั้นจาก เพย์ตัน แมนนิง มากกว่าที่จะวิ่งทะลวงเอง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นกลายๆ ว่าแนวของ "เกือกม้า" เปิดทางกันไม่ดีด้วย อย่างไรก็ตาม "ปีกนอก" ถือเป็นจุดแข็ง นอกจาก เรจจี เวย์น ปีกดาวรุ่งอย่าง ปิแอร์ การ์ซอง กับ ออสติน โคลลี ทำผลงานดีเกินคาด ยิ่งมี ดัลลัส คลาร์ก ปีกในตัวเก่งคอยรับบอลเปลี่ยนดาวน์ที่ 1 ด้วยแล้ว ถือว่าขุมพลังไม่แตกต่างกัน แต่ยังเชื่อในอัจฉริยภาพของ แมนนิง ที่มีเหนือ บรีส์

ทีมรับ

ตามตัวเลขสถิติถือว่า โคลต์ส มีเกมรับที่แน่นหนากว่า เสียระยะเฉลี่ย 339.2 หลาต่อเกม เสียประมาณ 19.2 แต้ม แต่ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นคือ ดไวท์ ฟรีนีย์ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ระดับออลโพร ถึงวันนี้ยังลงซ้อมไม่ได้ เนื่องจากเจ็บข้อเท้าขวาอาจถึงขั้นเอ็นฉีก นั่นทำให้การโจมตีควอเตอร์แบ็กลดประสิทธิภาพลงไปแน่ ภาระคงไปอยู่ที่ โรเบิร์ต แม็ทธิส สตาร์อีกราย ส่วนกองกลางที่นำมาโดย แกรี แบร็กเก็ตต์ และกองหลังถือว่าหยุดวิ่งหยุดขว้างอยู่ในระดับใช้ได้ ทางด้านของเซ็นต์ส เกมรับเสียระยะเฉลี่ยถึง 357.8 หลา แต่จากผลงานในการเจอกับไวกิงส์ ถือว่ากระเตื้องขึ้นมาก วิลล์ สมิธ จอมแซ็คอันดับ 2 ของฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) จะคอยไล่ล่า แมนนิง ส่วนไลน์แบ็กเกอร์อย่าง โจนาธาน วิลมา และ สกอตต์ ฟูจิตะ คอยบลิทช์จากแถวสอง ขณะที่หลังบ้าน ดาร์เรน ชาร์เปอร์ เซฟตีระดับออลโพร อินเทอร์เซปต์ไปแล้ว 9 ครั้ง มากที่สุดร่วมในลีก และทีมรับ "นักบุญ" ก็ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการทำให้คู่แข่งเสียเทิร์นโอเวอร์ไปถึง 39 ครั้ง ซึ่ง "เทิร์นโอเวอร์" สามารถเป็นจุดเปลี่ยนของเกมได้เช่นกัน

ทีมพิเศษ

ในส่วนของ "ตัวเตะ" แมตต์ สโตเวอร์ (โคลต์ส) ประสบการณ์เก๋ากว่า แกร์เรตต์ ฮาร์ทลีย์ เป็น 20 ปี เคยมีส่วนพา บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ผงาดแชมป์เมื่อปี 2001 มาแล้ว แต่ ฮาร์ทลีย์ พิสูจน์หัวจิตหัวใจให้เห็นในการเตะฟิลด์โกล 40 หลาช่วยเซ็นต์ส ต่อเวลาเบียดไวกิงส์ 31-28 ในเกมชิงแชมป์สาย NFC ด้านของ "ตัวพันท์" ทั้ง โธมัส มอร์สตีด (เซ็นต์ส) กับ แพท แม็คอาฟี พันท์ได้ระยะและลึกไม่ต่างกันมากนัก แต่ในเรื่องของ "ตัววิ่งย้อน" เรจจี บุช ถือเป็นทีเด็ดของ "นักบุญ" ได้เลย

ปัจจัยอื่น

เทียบกึ๋นของโค้ชทั้งสองฝ่าย แม้ จิม คัลด์เวลล์ มีประสบการณ์คุมโคลต์ส เป็นปีแรก แต่การอยู่กับทีมมานาน บ่มวิชามาจากสุดยอดโค้ช โทนี ดันจี ฝีมือไม่เป็นรอง ฌอน เพย์ตัน และทีมงาน ส่วนปัจจัยเรื่องประสบการณ์ เซ็นต์ส เพิ่งเข้าชิงซูเปอร์โบว์ลเป็นครั้งแรกของเฟรนไชส์ ทำให้ดูเป็นรอง "เกือกม้า" ที่เคยเป็นแชมป์มาแล้วเมื่อปี 2007 อย่างไรก็ตาม เหล่า "นักบุญ" อาจมีพลังแฝงเมื่อทีมต้องการแชมป์มามอบให้ชาวเมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนเคยประสบกับภัยพิบัติเฮอร์ริเคน "แคทรินา" ถล่ม ขณะที่สถิติการพบกัน 10 ครั้งหลังสุดชนะ-แพ้กันฝ่ายละ 5 หน แต่สองครั้งสุดท้ายเป็นโคลต์ส ที่ถล่มไปขาดลอย 55-21 และ 41-10
แอดดาย รับบอลแล้ววิ่งต่อ
คลาร์ก ปีกในสตาร์โคลต์ส
บรีส์ จอมทัพนักบุญ
บุช ทีเด็ดในการวิ่งย้อน
โคลสตัน ปีกนอกมือดี
กำลังโหลดความคิดเห็น