xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ "เจ็ตส์-อีกา-แพ็คส์" ขอลุ้นแชมป์ / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมเปิดประตูสู่เพลย์ออฟอย่าง "ไวลด์การ์ด เกม" ซึ่งถือเป็นรอบของ "บอลรอง" เมื่อ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส, นิวยอร์ก เจ็ตส์ และ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ล้วนผ่านคู่แข่งที่ถูกยกให้เป็นต่อพวกเขาไปได้ ขณะที่ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ บอลต่อหนึ่งเดียวแม้ต้องไปเยือน แต่ก็เล่นได้สมราคาทีมม้ามืดลุ้นแชมป์

จากการได้ติดตามชมการถ่ายทอดสดทั้ง 4 คู่ ผู้เขียนถือโอกาสรีวิวพร้อมแลกเปลี่ยนทรรศนะกับท่านผู้อ่านว่าเห็นตรงหรือแย้งประการใดกันบ้าง เริ่มจาก ซีฮอว์คส ซึ่งถูกปรามาสเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ NFL ที่เป็นแชมป์กลุ่มสถิติไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ (ชนะ 7 แพ้ 9) แต่การคืนสนามของ แมตต์ ฮัสเซลเบ็ค ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกเผงของ พีท แครอลล์ ประสบการณ์ควอเตอร์แบ็กวัย 35 ปี ย่อมเหนือกว่า ชาร์ลี ไวท์เฮิร์สท เกมนี้ปัจจัยที่ส่งให้ ซีฮอว์คส ได้เฮ นอกจาก "ผู้เล่นคนที่ 12" ที่เปล่งเสียงดังสมคำเล่าลือ เจ้าถิ่นถือว่าครองเกมได้สมดุลกว่า แบรนดอน สโตคลีย์ ปีกนอกตัวเก๋าม้วนตัวเป็นอ๊อปชันลงมาช่วย ฮัสเซลเบ็ค ในแผนขว้างสั้นเปลี่ยนดาวน์ได้หลายครั้ง เมื่อเกมทางอากาศไหลลื่น เกมบุกภาคพื้นดินก็เห็นผล มาร์ชอน ลินช์ มีวันที่ดีสุดกับทีม ถือบอล 19 หน ได้ระยะ 131 หลา โดยเฉพาะทัชดาวน์ 67 หลา ที่ตะลุยถึงเอ็นด์โซนหน้าตาเฉย นี่เป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากทีมเซ็นต์ส เรจจี บุช ซึ่งคาดว่าจะขึ้นมาทดแทน ปิแอร์ โธมัส และ คริส ไอวอรี สองรันนิงแบ็กจอมกระทุ้ง ไม่มีบทบาทกับเกม ดรูว์ บรีส์ รับภาระอยู่คนเดียว เมื่ออาวุธไม่ครบครัน "แชมป์เก่า" ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านแต่หัววัน

เช่นเดียวกับ "รองแชมป์เก่า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อรีแมตช์เกมชิงแชมป์สาย AFC ซีซันก่อน จบลงด้วยการถอนแค้นของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ แม้ผู้เขียนไม่พิสมัยในความปากมากของ เร็กซ์ ไรอัน หัวหน้าโค้ชพุงพลุ้ย แต่ก็ชื่นชมในความไม่ท้อของเจ็ตส์ ที่ใช้เวลา 53 วินาทีสุดท้ายคัมแบ็กสู่ชัยชนะด้วยฟิลด์โกล 32 หลาของ นิค โฟล์ค พร้อมเวลาที่หมดลง จริงๆ แล้วเกมนี้ต้องถือว่าเข้าทางทีมเยือน "บอลคอนโทรล" ของ ชอนน์ กรีน กับ ลาไดเนียน ทอมลินสัน ต่างวิ่งกันเห็นผล เพย์ตัน แมนนิง จึงถูกบีบให้อยู่ข้างสนามนาน ลงมาก็ไม่มีอ็อปชันมากนัก เรจจี เวย์น ปีกตัวโปรดโดนล็อกตายจาก ดาร์ริลล์ รีวิส แม้ ปิแอร์ การ์ซอง สามารถเผา อันโตนิโอ โครมาตี ได้หลายหน แต่บอลที่จับทางง่ายอย่าง โคลต์ส ชักดูว่าประสบความสำเร็จยากขึ้นทุกทีในยุคสมัยนี้ พูดถึง เจ็ตส์ ถ้า มาร์ค ซานเชซ ขว้างบอลได้มั่นใจและมีทีเด็ดกว่านี้ ทีมคงถึงฝั่งฝันในไม่ช้า เนื่องจากองค์ประกอบทุกอย่างดีพร้อม

ไปกันที่คู่ซึ่งขาดลอยที่สุด ไม่ผิดคาดนักที่เราได้เห็น บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ใช้เกมรับอันแข็งแกร่งไล่ขยี้ แมตต์ คาสเซล จนเสียไปถึง 3 อินเทอร์เซปต์ ขว้างได้แค่ 70 หลา จามาล ชาร์ลส ที่ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ หวังพี่งปาฏิหาริย์จากยอดรันนิงแบ็ก ก็พลาดเสียฟัมเบิลหน้าบ้าน "อีกาพญายม" จึงโบยบินเข้าสู่รอบต่อไป สำหรับ เรฟเวนส์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีขุมพลังครบครัน เกมวิ่งมี เรย์ ไรซ์ คอยกระทุ้งสลับกับ วิลลี แม็คเกฮี เกมทางอากาศ โจ แฟล็กโก นิ่งขึ้นเยอะ ยิ่งได้เป้าอย่าง อันควาน โบลดิน เข้ามาเสริม กอปรกับยังมี ท็อดด์ ฮีป ปีกในคู่ใจอยู่ทั้งคน ถ้ารอบชิงแชมป์สาย AFC ปีนี้เป็นการเจอกันระหว่าง เรฟเวนส์ กับ เจ็ตส์ คงไล่อัดกันสนุกไม่หยอก แต่ต้องไปถามทั้ง พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส และ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ดูก่อนว่าจะยอมง่ายๆ หรือไม่ในเกมดิวิชันนัล เพลย์ออฟ

สุดท้ายไปที่ ฟิลาเดลเฟีย "อินทรีมรกต" อีเกิลส์ ยังเล่นได้เยาะแหยะเหมือนช่วงปลายฤดูกาลปกติ ไมเคิล วิค ต้องสยบให้ทีมรับระดับหัวแถวของลีก ซึ่งนำมาโดย เคลย์ แม็ทธิวส์ สุดยอดไลน์แบ็กเกอร์ ที่คอยปิดช่องทางวิ่ง รวมถึงหาโอกาสเข้ารวบตัวควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์อยู่เนืองๆ จริงๆ แล้ว อีเกิลส์ มีโอกาสพลิกชนะช่วงท้ายเกม แต่ความมั่นใจในตัวเองเกินไปทำให้ วิค ขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็ส่งผลให้ทีมต้องไปนับหนึ่งกันใหม่ในฤดูกาลหน้า ส่วน กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส กลายเป็นเต็งลุ้นแชมป์เต็มตัวเมื่อได้เกมบุกภาคพื้นดินที่ขาดหายไปนานคืนมาจาก เจมส์ สตาร์คส ถ้ารุคกี้ยังวิ่งได้ระดับ 100 หลา แอตแลนตา ฟอลคอนส์ มีโอกาสศิโรราบเช่นกัน และจากการได้ทีมที่สมดุลขึ้น แอรอน ร็อดเจอร์ส จึงเปล่งประกายให้เห็นเด่นชัด ถึงวันนี้สาวก "หัวเนยแข็ง" คงพับเจอร์ซีย์หมายเลข 4 (เบร็ตต์ ฟาร์ฟ) ไว้ที่บ้าน พร้อมรวมพลังกันใส่เสื้อหมายเลข 12 มาเชียร์จอมทัพขวัญใจคนใหม่กันคราคร่ำ เพราะ ร็อดเจอร์ส กำลังสานงานลุ้นพาทีมคืนสู่บัลลังก์แชมป์ซูเปอร์โบว์ลอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น