กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส อาศัยการเล่นที่สมดุลบุกหักปีก "อินทรีมรกต" ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ถึงรัง 21-16 ทะลุสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) รอชน แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ต่อไป
ที่ฟิลาเดลเฟีย : "หัวเนยแข็ง" กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส กลายเป็นทีมที่พร้อมล่าแชมป์ "ซูเปอร์โบว์ล" ครั้งที่ 45 เต็มตัวแล้ว เมื่อ เจมส์ สตาร์คส รันนิงแบ็กรุคกีปล่อยทีเด็ดใส่ทีมรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ช่วยให้งานของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็กสตาร์ง่ายขึ้นเป็นกอง
ถูกดราฟท์ขึ้นมาในอันดับ 6 ของปี 2010 และประสบปัญหาบาดเจ็บตั้งแต่เทรนนิงแคมป์ แต่เมื่อได้โอกาสกลับเข้าสู่ทีม เจมส์ สตาร์คส ไม่ทำให้ ไมค์ แม็คคาร์ธีย์ หัวหน้าโค้ช "แพ็คส์แมน" ผิดหวังแม้แต่น้อย ถือบอล 23 ครั้ง วิ่งทะลวงไปถึง 123 หลา แม้ไม่มีสกอร์แต่ช่วยให้ แอรอน ร็อดเจอร์ส ไม่ต้องตะบี้ตะบันขว้าง เกมนี้จอมทัพคนเก่งขว้างเข้าเป้า 18 จาก 27 ครั้ง ได้ระยะ 180 หลา 3 ทัชดาวน์ ให้แก่ ทอม แครบทรี, เจมส์ โจนส์ และ แบรนดอน แจ็คสัน
ด้านเจ้าถิ่น ไมเคิล วิค พยายามเข็นทีมสุดฤทธิ์ขว้างเข้าเป้า 20 จาก 36 ครั้ง ได้ระยะ 292 หลา 1 ทัชดาวน์ ระยะ 24 หลาเข้ามือ เจสัน อวานท์ แต่ อีเกิลส์ เก็บประโยชน์จากเทิร์นโอเวอร์ของทีมเยือนไม่ได้ เดวิด เอเคอร์ส ซัดฟิลด์โกลระยะหวังผลพลาดถึง 2 หน แม้ทีมรับช่วยให้บอลกลับมาอยู่ในมือของ วิค อีกครั้ง ขณะที่เวลาเหลือเกือบสองนาที ทว่าสุดท้ายเมื่อข้ามมายังแดนคู่แข่ง ควอเตอร์แบ็กจอมวิ่งพลาดขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ให้ เทรมอน วิลเลียมส์ ในเอ็นด์โซน เป็นอันเกมจบ
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ แพ็คเกอร์ส ทีมอันดับ 6 ฝั่ง NFC สัปดาห์หน้าในรอบ 2 เพลย์ออฟต้องไปเยือนจอร์เจีย โดม ถิ่นของ "นกสกปรก" แอตแลนตา ฟอลคอนส์ (อันดับ 1) เท่ากับว่า "พญาหมี" ชิคาโก แบร์ส (อันดับ 2) จะได้เปิดโซลเจอร์ ฟิลด์ รออัด "เหยี่ยวทะเล" ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส (อันดับ 4)
สำหรับทางฝั่งเอเอฟซี (AFC) ถือเป็นศึกสายเลือดร่วมดิวิชัน เมื่อ "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ (อันดับ 1) มีคิวเปิดยิลเล็ตต์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ (อันดับ 6) ขณะที่ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (อันดับ 2) จะปักหลักในไฮนซ์ ฟิลด์ ดวลเดือด "อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (อันดับ 5)
ที่ฟิลาเดลเฟีย : "หัวเนยแข็ง" กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส กลายเป็นทีมที่พร้อมล่าแชมป์ "ซูเปอร์โบว์ล" ครั้งที่ 45 เต็มตัวแล้ว เมื่อ เจมส์ สตาร์คส รันนิงแบ็กรุคกีปล่อยทีเด็ดใส่ทีมรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ช่วยให้งานของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็กสตาร์ง่ายขึ้นเป็นกอง
ถูกดราฟท์ขึ้นมาในอันดับ 6 ของปี 2010 และประสบปัญหาบาดเจ็บตั้งแต่เทรนนิงแคมป์ แต่เมื่อได้โอกาสกลับเข้าสู่ทีม เจมส์ สตาร์คส ไม่ทำให้ ไมค์ แม็คคาร์ธีย์ หัวหน้าโค้ช "แพ็คส์แมน" ผิดหวังแม้แต่น้อย ถือบอล 23 ครั้ง วิ่งทะลวงไปถึง 123 หลา แม้ไม่มีสกอร์แต่ช่วยให้ แอรอน ร็อดเจอร์ส ไม่ต้องตะบี้ตะบันขว้าง เกมนี้จอมทัพคนเก่งขว้างเข้าเป้า 18 จาก 27 ครั้ง ได้ระยะ 180 หลา 3 ทัชดาวน์ ให้แก่ ทอม แครบทรี, เจมส์ โจนส์ และ แบรนดอน แจ็คสัน
ด้านเจ้าถิ่น ไมเคิล วิค พยายามเข็นทีมสุดฤทธิ์ขว้างเข้าเป้า 20 จาก 36 ครั้ง ได้ระยะ 292 หลา 1 ทัชดาวน์ ระยะ 24 หลาเข้ามือ เจสัน อวานท์ แต่ อีเกิลส์ เก็บประโยชน์จากเทิร์นโอเวอร์ของทีมเยือนไม่ได้ เดวิด เอเคอร์ส ซัดฟิลด์โกลระยะหวังผลพลาดถึง 2 หน แม้ทีมรับช่วยให้บอลกลับมาอยู่ในมือของ วิค อีกครั้ง ขณะที่เวลาเหลือเกือบสองนาที ทว่าสุดท้ายเมื่อข้ามมายังแดนคู่แข่ง ควอเตอร์แบ็กจอมวิ่งพลาดขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ให้ เทรมอน วิลเลียมส์ ในเอ็นด์โซน เป็นอันเกมจบ
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ แพ็คเกอร์ส ทีมอันดับ 6 ฝั่ง NFC สัปดาห์หน้าในรอบ 2 เพลย์ออฟต้องไปเยือนจอร์เจีย โดม ถิ่นของ "นกสกปรก" แอตแลนตา ฟอลคอนส์ (อันดับ 1) เท่ากับว่า "พญาหมี" ชิคาโก แบร์ส (อันดับ 2) จะได้เปิดโซลเจอร์ ฟิลด์ รออัด "เหยี่ยวทะเล" ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส (อันดับ 4)
สำหรับทางฝั่งเอเอฟซี (AFC) ถือเป็นศึกสายเลือดร่วมดิวิชัน เมื่อ "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ (อันดับ 1) มีคิวเปิดยิลเล็ตต์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ (อันดับ 6) ขณะที่ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (อันดับ 2) จะปักหลักในไฮนซ์ ฟิลด์ ดวลเดือด "อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (อันดับ 5)