3 ปีมาแล้ว ที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของเอเชีย ไม่ปรากฎตัวบนสนามแข่งขันระดับอาชีพได้อีกหลังได้รับบาดเจ็บข้อมือขวา แม้จะเข้ารับการรักษาจนหายดีแล้วแต่ดูเหมือน "ซูเปอร์บอล" ยังไม่มีวี่แววที่จะหวนกลับมาจับแร็กเก็ต แถมยังมีข่าวคราวในระยะหลังที่อาจทำให้แฟนเทนนิสรู้สึกว่า "พี่บอล" ถอยห่างจากคอร์ตออกไปทุกที ดวยภาพลักษณ์นักธุรกิจ เจ้าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมสมรรถภาพความเป็นชาย หรือ การรับบทนายมั่น ในภาพยนตร์ "บางระจัน 2" แม้ล่าสุดจะตกปากรับคำเป็นกัปตันทีม เดวิสคัพ ไทย แต่งานแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน กลับไร้เงาของ "กัปตันบอล" และพลันให้เกิดคำถามว่า ภราดรหายไปไหน เขายังสนใจวงการลูกสักหลาดอยู่หรือไม่ รวมไปถึงวุฒิภาวะของ ภราดร ว่าพร้อมแค่ไหนในฐานะกัปตันทีม ทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบและบรรทัดต่อจากนี้คือการเปิดใจแบบเอ็กซ์คลูซีฟของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ กับทีมข่าว MGR Sport
MGR Sport - เกิดอะไรขึ้นถึงไร้เงากัปตันทีมในงานแถลงข่าว เดวิส คัพ
ภราดร - วันนั้นผมมาถึงเที่ยงเศษตามเวลานัดเดิมที่จะแถลงช่วงบ่าย ซึ่งยังประหลาดใจว่าทำไมงานแถลงจบลงไปแล้ว จึงได้รู้ว่าหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงงานแถลงข่าวเป็น 11.00 .น ไม่มีใครแจ้งมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมทำงานไม่ได้เปิดโทรศัพท์และไม่ได้อ่านข้อความที่เข้ามาจึงเกิดความผิดพลาดทางการสื่อสารขึ้น เรื่องนี้ผมได้เรียนคุณ อรรถ นานา ผู้จัดการทีมไปแล้ว และผู้ใหญ่ทุกท่านเข้าใจเป็นอย่างดี
MGR Sport - รู้สึกอย่างไรกับบทบาทกัปตัน เดวิส คัพ คนที่ 3 แห่งตระกูล ศรีชาพันธุ์
ภราดร - ตอนผมเล่นอยู่มีคุณพ่อ ชนะชัย และพี่เบิ้ม ธนากร เป็นกัปตันทีมอยู่แล้ว เราเองรู้ดีว่าวันหนึ่งคงต้องได้รับหน้าที่นี้ จึงไม่ได้ตื่นเต้น หลายคนอยากให้ผมลงสนามในแมตช์กับ แปซิฟิก โอเชียเนีย แต่ใจจริงผมอยากเปิดโอกาสให้น้องๆใน เดวิส คัพ เพื่อฝึกรับความกดดันและพัฒนาตนเองมากกว่า เพราะนี่ไม่ใช่งานยากจนเกินไป โดยผมจะคอยให้กำลังใจ และการชี้ให้เห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เพื่อนำชัยชนะมาให้ได้
MGR Sport - หลังจากการผ่าตัดที่ข้อมือผ่านไปได้ด้วยดี มีแฟนเทนนิสชาวไทยรอเห็นคุณลงสนามอีกครั้งเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ขนาดไหน
ภราดร -พูดตรงๆว่าผมมีภารกิจด้านอื่นต้องดูแลมากมายทั้งครอบครัวและธุรกิจ จึงไม่ได้จริงจังกับการคืนคอร์ตในตอนนี้ อีกทั้งร่างกายยังไม่พร้อม ความฟิตยังไม่เหมือนตอนเล่นอยู่ในทัวร์ แม้ลงซ้อมแล้วแต่ไม่ต่อเนื่อง ส่วนใจนั้นพร้อมเสมออยู่แล้ว ถ้าให้กำหนดระยะเวลาคิดว่าภายในปี 2553 น่าจะมีความเป็นไปได้สูง
MGR Sport - สำหรับ ภราดร ศรีชาพันธุ์ ในปี 2553 เทนนิสหมายถึงอะไร
ภราดร - ตอนเล่นอยู่เทนนิสสำคัญที่สุดแน่เพราะเราต้องทุ่มเทให้กับมัน แต่ผมรู้ดีว่าสักวันหนึ่งก็ต้องหยุด แม้เป็นกีฬาที่เรารักแต่คงไม่สำคัญที่สุดตลอดไป วันนี้ผมอายุ 30 ปีแล้วครอบครัวคือสิ่งสำคัญ ความสนใจครึ่งหนึ่งในเวลานี้อยุ่ที่ ธุรกิจของครอบครัวไม่ว่าจะเป็นบริษัทจำหน่ายสมุนไพรเพื่อเสริมสมรรถภาพความเป็นชาย ศูนย์เทนนิสที่สุขุมวิท และร้านอาหารอิตาเลียน ทำให้การจัดเวลาเป็นเรื่องยาก แต่ก็มีความสุขและให้ความสำคัญกับทุกสิ่งที่ทำ
MGR Sport - คุณให้ความสำคัญขนาดไหนในฐานะโค้ชโครงการ "เดอะสตาร์" ของลอนฯที่ต้องปั้นเยาวชนสู่วงการถึง 5 ราย
ภราดร - เป็นก้าวแรกในฐานะโค้ช ดีใจที่ได้เห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นของเด็ก ทำให้เรานึกถึงตนเองสมัยก่อน ที่อยากได้โค้ชดีๆ คำแนะนำดีๆ ผมคิดว่าโครงการ เดอะ สตาร์ ของลอนเทนนิสสมาคมฯ จะพาเยาวชนไทยไปสู่ระดับอาชีพได้เพราะมีการดูแลเด็กแบบครบวงจร ไม่ใช่ปล่อยให้ฝึกกันเองตัวใครตัวมัน
MGR Sport - คุณยืนยันมาตลอดว่าชีวิตคู่กับนาตาลี เกลโบวา มีความสุขดี ถึงวันนี้ยังยืนยันคำเดิมหรือไม่
ภราดร - ตั้งแต่ผมแต่งกับ นาตาลี ก็มีข่าวจะเลิกกันตามมาทันที คงมีคนนั่งคิดขึ้นมาแล้วไปเขียนข่าว ผมชินแล้ว และไม่เคยเบื่อหรือโกรธคนที่เขียนเพราะเราเป็นคนของประชาชน ถ้ามีข่าวไหนออกมาแล้วคิดว่าไม่จริงเมื่อนักข่าวถามก็แค่ชี้แจง แต่ให้ออกมาแก้ข่าวผมคงไม่ทำ และถึงวันนี้ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าเราทั้งคู่มีความสุขดีผมบอกรักภรรยาทุกวันและพร้อมที่จะมีทายาทแล้ว
MGR Sport - 5 ปีหลังจากนี้ ภราดร จะเป็นอย่างไร?
ภราดร - ถึงเวลานั้นคงตรงกับปี 2015 ผมขอประสบความสำเร็จในธุรกิจทุกๆด้าน เพราะถ้ามีวันนั้นแปลว่าครอบครัวของผมมีหลักฐานมั่นคงเท่าๆกับตอนที่เราเล่นเทนนิสอาชีพ ธุรกิจต่างๆกำลังไปได้สวย หากเทียบกับโลกเทนนิส ความเป็นนักธุรกิจของผมคงอยู่ในระดับ ชาลเลนเจอร์ (รองจาก เอทีพี) คือตีได้แน่นอนแล้ว เล่นได้ดีมีความฟิต อันดับโลกกำลังเข้าท็อป 100 คงใกล้ถึงวันที่ผมเอาชนะ อังเดร อากัสซี ใน วิมเบิลดัน ปี 2002
