ดรูว์ บรีส์ รับเหมือนเป็นพรหมลิขิตที่ นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ลบคราบน้ำตาชาวเมืองด้วยการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44 มาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ ขณะที่ ฌอน เพย์ตัน ยกเครดิตให้ลูกทีม "นักบุญ" ที่ทำงานของตัวเองได้ดีในเกมพลิกล็อกโค่น อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 31-17
ที่ไมอามี : นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส หักปากกาเซียนเกือบทุกสำนักได้สำเร็จ หลังปราบพยศ "เกือกม้า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 31-17 โดยเกมนี้ ดรูว์ บรีส์ ทาบสถิติ NFL ขว้างเข้าเป้าถึง 32 จากโอกาสสะบัดแขน 39 ครั้ง ได้ระยะ 288 หลา 2 ทัชดาวน์ พร้อมรับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำเกมซูเปอร์โบว์ลปี 2010 มาครอง
ภายหลัง บรีส์ ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ เซ็นต์ส ได้แชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีม 43 ปี และถือเป็นการซับน้ำตาชาวเมืองที่เมื่อปลายปี 2005 เจอภัยพิบัติเฮอร์ริเคน "แคทรินา" พัดถล่มหลุยส์เซียนา จนได้รับความเสียหายหนัก "เราแค่เชื่อในตัวเอง เรารู้ดีว่ามีชาวเมืองทั้งหมด และบางทีมอาจรวมถึงคนในประเทศสหรัฐฯ หนุนหลังเราอยู่ ทั้งหมดนี้มีความหมายยิ่ง มันเหมือนกับพรหมลิขิตก็ว่าได้"
ด้าน มาร์คิส โคลสตัน ปีกนอกตัวเก่งที่เกมนี้รับไป 83 หลา เผยบ้าง "คุณไม่สามารถพูดอะไรได้ออก เมืองแห่งนี้ผ่านอะไรมามากมาย แต่แฟนๆ ก็ยังสนับสนุนทีมตลอดเวลา เรารู้ดีว่ามันยากที่จะคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล แต่เราเชื่อในแต่ละภาคส่วนว่าทีมทำกันได้ มันเหลือเชื่อจริงๆ"
ขณะที่ ดาร์เรน ชาร์เปอร์ เซฟตีตัวเก๋ากล่าวเช่นกัน "ทุกคนต่างรู้ดีว่าเมืองแห่งนี้ผ่านอะไรมาบ้าง การได้ซูเปอร์โบว์ลจึงถือเป็นอะไรที่พิเศษยิ่ง แฟนๆ อยากได้แชมป์มานานแล้ว"
ส่วน ฌอน เพย์ตัน ให้สัมภาษณ์ด้วยถึงการเรียกแผนให้คิกออฟครึ่งหลัง ด้วยการส่ง โธมัส มอร์สเตด เตะออนไซด์คิก แฮงค์ บาสเกตต์ ปีกโคลต์ส รับพลาดและก็โดน คริส รีส ชิงบอลได้บริเวณเส้น 42 หลาในแดนตัวเอง นำมาสู่การที่ บรีส์ ขว้างสั้นให้ ปิแอร์ โธมัส รับสั้นก่อนวิ่งเข้าเอ็นด์โซน "ผมแค่บอกลูกทีมให้ลงไปทำให้ดี และมันก็กลายเป็นเทิร์นโอเวอร์จริงๆ วันนี้ต้องยกเครดิตให้ทุกคน ผู้เล่นที่อยู่ ณ ที่นี้ พวกเขาออกไปเล่นได้ตามแผน"
สุดท้าย ทอม เบนสัน เจ้าของทีม "นักบุญ" ชมเชยโค้ชที่เขาไปดึงตัวมาคุมทัพเมื่อปี 2006 "นิวออร์ลีนส์ กลับมาแล้วและก็แสดงให้ทั้งโลกได้เห็น ทุกคนสามารถกลับสู่เมืองด้วยโทรฟีใบนี้ (วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี) ผมคิดว่าตัวเองอยากจูบเขา (เพย์ตัน) สักฟอด"
ที่ไมอามี : นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส หักปากกาเซียนเกือบทุกสำนักได้สำเร็จ หลังปราบพยศ "เกือกม้า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 31-17 โดยเกมนี้ ดรูว์ บรีส์ ทาบสถิติ NFL ขว้างเข้าเป้าถึง 32 จากโอกาสสะบัดแขน 39 ครั้ง ได้ระยะ 288 หลา 2 ทัชดาวน์ พร้อมรับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำเกมซูเปอร์โบว์ลปี 2010 มาครอง
ภายหลัง บรีส์ ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ เซ็นต์ส ได้แชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีม 43 ปี และถือเป็นการซับน้ำตาชาวเมืองที่เมื่อปลายปี 2005 เจอภัยพิบัติเฮอร์ริเคน "แคทรินา" พัดถล่มหลุยส์เซียนา จนได้รับความเสียหายหนัก "เราแค่เชื่อในตัวเอง เรารู้ดีว่ามีชาวเมืองทั้งหมด และบางทีมอาจรวมถึงคนในประเทศสหรัฐฯ หนุนหลังเราอยู่ ทั้งหมดนี้มีความหมายยิ่ง มันเหมือนกับพรหมลิขิตก็ว่าได้"
ด้าน มาร์คิส โคลสตัน ปีกนอกตัวเก่งที่เกมนี้รับไป 83 หลา เผยบ้าง "คุณไม่สามารถพูดอะไรได้ออก เมืองแห่งนี้ผ่านอะไรมามากมาย แต่แฟนๆ ก็ยังสนับสนุนทีมตลอดเวลา เรารู้ดีว่ามันยากที่จะคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล แต่เราเชื่อในแต่ละภาคส่วนว่าทีมทำกันได้ มันเหลือเชื่อจริงๆ"
ขณะที่ ดาร์เรน ชาร์เปอร์ เซฟตีตัวเก๋ากล่าวเช่นกัน "ทุกคนต่างรู้ดีว่าเมืองแห่งนี้ผ่านอะไรมาบ้าง การได้ซูเปอร์โบว์ลจึงถือเป็นอะไรที่พิเศษยิ่ง แฟนๆ อยากได้แชมป์มานานแล้ว"
ส่วน ฌอน เพย์ตัน ให้สัมภาษณ์ด้วยถึงการเรียกแผนให้คิกออฟครึ่งหลัง ด้วยการส่ง โธมัส มอร์สเตด เตะออนไซด์คิก แฮงค์ บาสเกตต์ ปีกโคลต์ส รับพลาดและก็โดน คริส รีส ชิงบอลได้บริเวณเส้น 42 หลาในแดนตัวเอง นำมาสู่การที่ บรีส์ ขว้างสั้นให้ ปิแอร์ โธมัส รับสั้นก่อนวิ่งเข้าเอ็นด์โซน "ผมแค่บอกลูกทีมให้ลงไปทำให้ดี และมันก็กลายเป็นเทิร์นโอเวอร์จริงๆ วันนี้ต้องยกเครดิตให้ทุกคน ผู้เล่นที่อยู่ ณ ที่นี้ พวกเขาออกไปเล่นได้ตามแผน"
สุดท้าย ทอม เบนสัน เจ้าของทีม "นักบุญ" ชมเชยโค้ชที่เขาไปดึงตัวมาคุมทัพเมื่อปี 2006 "นิวออร์ลีนส์ กลับมาแล้วและก็แสดงให้ทั้งโลกได้เห็น ทุกคนสามารถกลับสู่เมืองด้วยโทรฟีใบนี้ (วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี) ผมคิดว่าตัวเองอยากจูบเขา (เพย์ตัน) สักฟอด"
