ดรูว์ บรีส์ ยอดควอเตอร์แบ็กขว้าง 2 ทัชดาวน์ พาพลพรรค "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ประกาศศักดาคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44 พร้อมรับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) มาครองสำเร็จ หลังพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ "เกือกม้า" อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 31-17
ที่ไมอามี : ก่อตั้งเฟรนไชส์มานาน 43 ปี ไม่เคยได้แชมป์ แถมก่อนลงแข่งยังตกเป็นรองถึง 5 แต้ม แต่เมื่อเวลา 4 ควอเตอร์หมดลง ฌอน เพย์ตัน ยอดหัวหน้าโค้ช และ ดรูว์ บรีส์ จอมทัพสตาร์สามารถพา "นักบุญ" เซ็นต์ส พลิกล็อกอัด อินเดียนาโปลิส โคลต์ส คว้า "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" มาเป็นการซับน้ำตาชาวเมืองนิวออร์ลีนส์ ที่เมื่อห้าปีก่อนประสบภัยพิบัติเฮอร์ริเคน "แคทรินา" ถล่มจนได้รับความเสียหายหนัก
เซ็นต์ส เสี่ยงเหรียญชนะได้บุกก่อน ทว่าเป็นโคลต์ส ที่ออกตัวนำ 3-0 จากการเตะฟิลด์โกล 38 หลาของ แมตต์ สโตเวอร์ และก็ทำให้เขากลายเป็นตัวเตะอายุมากที่สุด (42 ปี) ที่เตะฟิลด์โกลเข้าไปในซูเปอร์โบว์ล จากนั้น "นักบุญ" ยังจับจังหวะบุกของตัวเองไม่ได้ บอลกลับมาอยู่ในมือของ เพย์ตัน แมนนิง อีกครั้ง ควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ขว้าง 19 หลาให้ ปิแอร์ การ์ซอง ปีกชาวเฮติรับสกอร์ให้ "เกือกม้า" โขยกนำ 10-0 โดยไดรฟ์นี้กินระยะรวมถึง 96 หลาด้วยกัน มาในควอเตอร์ที่สอง บรีส์ ยังพาทีมบุกไม่ได้น้ำได้เนื้อ แถมโดน ดไวท์ ฟรีนีย์ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตัวเก่งของโคลต์สที่สลัดอาการเจ็บข้อเท้าลงสนามได้ แซ็คจนเสียระยะ ต้องส่ง การ์เรตต์ ฮาร์ทลีย์ มาส่องฟิลด์โกล 46 หลา ไล่มา 3-10 โคลต์ส เริ่มจะบุกไม่ขึ้น "นักบุญ" ได้บอลกลับมาในมือ แต่สุดท้ายก็ต้องส่ง ฮาร์ทลีย์ มาซัดฟิลด์โกล 44 หลา ทำให้จบครึ่งแรกทีมรองบ่อนตามมาเหลือ 6-10
ในช่วง "ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์" พีท ทาวน์เชน นำวงดนตรีร็อคยุคทศวรรษที่ 60 "The Who" มาขันขานเสียงเพลงให้แฟนๆ กว่า 7 หมื่นคนในสนามซัน ไลฟ์ สเตเดียม ได้ฟังกันในเมดเลย์เพลง Pinball Wizard, Who Are You, Baba O'Riley และ Won't Get Fooled Again เมื่อการแสดงอันยอดเยี่ยมและกระชับจบลง
ลงมาลุยต่อควอเตอร์ที่สาม เซ็นต์ส ต้องคิกออฟให้โคลต์สบุก แต่ ฌอน เพย์ตัน หัวหน้าโค้ชกล้าวัดดวงพลิกโผให้ โธมัส มอร์สเตด เตะออนไซด์คิกและก็ชิงบอลมาครอง เซ็นต์ส ได้บุกระยะดีเส้น 42 หลาในแดนตัวเอง บรีส์ พาทีมบุกขึ้นมาโดยอาศัยการขว้างเป็นหลัก ก่อนขว้างสั้นให้ ปิแอร์ โธมัส ในแผนสกรีนวิ่งตะลุย 16 หลาเข้าเอ็นด์โซน "นักบุญ" กลับมานำ 13-10 แต่ "เกือกม้า" ตอบโต้กลับทันควัน แมนนิง โชว์การขว้างสวยๆ ให้ ดัลลัส คลาร์ก ก่อนยัดบอลให้ โจเซป แอดดาย วิ่งหมุนเข้าทัชดาวน์ "เกือกม้า" พลิกกลับมานำ 17-13 "นักบุญ" ได้บอลมาลุยบ้าง แต่โคลต์ส ยันได้ ทำให้เสียเพียงแค่ฟิลด์โกล ฮาร์ทลีย์ ลงมาซัดบอล 47 หลา "นักบุญ" ไล่เหลือ 16-17
เข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย โคลต์ส อยู่ในสถานการณ์ดาวน์ที่ 4 ต้องการ 2 หลา บริเวณกลางสนาม แมนนิง ขว้างสั้นให้ เรจจี เวย์น เปลี่ยนดาวน์สำเร็จ อย่างไรก็ตาม บุกต่อไม่ขึ้น สโตเวอร์ ลงมาเตะฟิลด์โกล 51 หลาพลาด เซ็นต์ส ได้ตำแหน่งบุกที่ดี บรีส์ นำทีมขึ้นมาก่อนขว้างสั้น 2 หลาเป็นทัชดาวน์ให้ เจเรมี ช็อคคีย์ แต่เล่นสองคะแนนไม่สำเร็จ "นักบุญ" พลิกกลับมานำ 22-17 อย่างไรก็ดี เพย์ตัน โยนธงแดงชาลเลนจ์ กรรมการดูภาพช้ามองว่า แลนซ์ มัวร์ สามารถรับบอลและครองบอลได้แล้วแม้แค่เสียววินาที ทำให้ห่างกันหนึ่งสกอร์ใหญ่ 24-17 โคลต์ส ได้บอลกลับมากำลังรุกคืบเข้าแดนคู่แข่ง แต่ แมนนิง พยายามขว้างให้ เวย์น เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 ทว่าโดน เทรซีย์ พอร์เตอร์ วิ่งสวนขึ้นมาชิงอินเทอร์เซปต์วิ่งย้อน 74 หลา เข้าเอ็นด์โซน เซ็นต์ส ทิ้งห่าง 31-17 "เกือกม้า" พยายามมีฮึดแต่เมื่อมาเคาะประตูบ้าน แมนนิง กลับสร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ
"นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส" จึงคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44 มาครองอย่างเต็มภาคภูมิ โดยตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำเกมชิงแชมป์ประเทศได้แก่ ดรูว์ บรีส์ ที่ขว้างเข้าเป้า 32 จาก 39 ครั้ง ได้ระยะ 288 หลา 2 ทัชดาวน์ นอกจาก "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" บรรดาผู้เล่น "นักบุญ" ยังรับเงินรางวัลไปประมาณคนละ 2.8 ล้านบาท ขณะที่ แมนนิง เกมนี้ขว้างเข้าเป้า 31 จาก 45 ครั้ง ได้ระยะ 333 หลา 1 ทัชดาวน์ เสียหนึ่งอินเทอร์เซปต์ โคลต์ส รับเงินรางวัลปลอบใจไปคนละ 1.4 ล้านบาท