วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หวังผลักดันให้มีพระราชบัญญัติฟุตบอลอาชีพออกมาบังคับใช้ปราบปรามผู้กระทำผิดในวงการลูกหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ลีกแดนสยามพังทลายลงด้วยปัญหาการล้มบอล
สืบเนื่องจากการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ครั้งที่ 1/2553 เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ห้องพระรามเก้า โรงแรมเรดิสัน บรรดาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม “บิ๊กยี” ถึงการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเมื่อวานนี้ เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ฟุตบอลอาชีพว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
ซึ่งนายกลูกหนังแดนสยามให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ฟุตบอลอาชีพให้คณะกรรมาธิการของกระทรวงฯ ไปพิจารณาในขั้นต่อไป ซึ่งจะมีการรวบรวมผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาหารือร่วมกัน อย่างไรก็ตาม กว่าจะประกาศออกมาใช้ได้ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทำให้ผมยังตอบไม่ได้ว่าข้อสรุปจะออกมาเมื่อใด”
วรวีร์ กล่าวถึงความสำคัญของ พ.ร.บ.ฟุตบอลอาชีพที่หวังผลักดันให้มีการบังคับใช้ว่า “หากเราไม่มี พ.ร.บ.ฟุตบอลอาชีพเข้ามาควบคุมลีกภายในประเทศก็มีสิทธิ์พังลงได้เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับลีกเวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์ หรือแม้แต่ในลีกยุโรปอย่าง อิตาลี ซึ่งมีปัญหาการล้มบอลเข้ามาแทรกแซงเกมที่ควรจะเป็นไปอย่างขาวสะอาดจนมัวหมอง ถ้าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดก่อนแล้วมาตามแก้ภายหลังคงไม่ทันการณ์ เราจึงควรหาทางเตรียมตัวป้องกันไว้ล่วงหน้า โดยต้องครอบคลุมทั้งผู้เล่น, ผู้ตัดสิน, คนทำทีม และเหล่าเซียนพนัน”
ส่วนประเด็นเรื่องการจัดตั้งสมาคมผู้ฝึกสอนฟุตบอลอาชีพ “บังยี” บอกว่าเป็นแนวความคิดที่ดี แต่คงต้องรอจนกว่าสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ซึ่งมี ดร.วิจิตร เกตุแก้ว รั้งตำแหน่งนายกฯ ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยเรียกบรรดาโค้ชลูกหนังในแต่ละภูมิภาคมาประชุมร่วมกันในภายหลัง
