เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ควอเตอร์แบ็กกระดูกเหล็กโชว์การขว้าง 4 ทัชดาวน์นำ มินเนโซตา ไวกิงส์ เปิดบ้านต้อนตือ ดัลลัส คาวบอยส์ 34-3 หลุดเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี (NFC) ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2009/10
ที่มินนิอาโปลิส : เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ทำได้สมกับคำโอ้อวด กำลังนับถอยหลังในการหาแหวนแชมป์ "ซูเปอร์โบว์ล" วงที่สองมาประดับนิ้วมือ และก็ดูเหมือนเขาคิดไม่ผิดที่เลือกคัมแบ็กสู่ลีกคนชนคนมาร่วมงาน มินเนโซตา ไวกิงส์ เมื่อต้นสังกัดแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมทั้งทีมบุก-ทีมรับในการจัดการกับ ดัลลัส คาวบอยส์ ที่ฟอร์มร้อนแรงชนะมาติดๆ กัน
ช่วงกลางสัปดาห์ ฟาร์ฟ ประกาศกร้าวกับสื่อท้องถิ่นในมินนิอาโปลิส ให้มาทำข่าวเกมชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซีของไวกิงส์ได้เลยช่วงกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งคำพูดของจอมทัพวัย 40 ปี ขลังทีเดียว โดยเกมเปิดเมโทรโดม ฟาร์ฟ สะบัดแขนขว้างไปเพียง 24 ครั้ง เข้าเป้า 15 หน ได้ระยะ 234 หลา แต่แปรเปลี่ยนเป็นถึง 4 ทัชดาวน์ ให้แก่ ซิดนีย์ ไรซ์ ปีกนอกคู่ใจ 3 ครั้ง ก่อนที่ วิซานธี เชียนโค จะมารับสกอร์ปิดกล่องก่อนหมดเวลา 2 นาที
โดยเกมนี้ ไรซ์ รับบอลไป 6 ครั้ง ได้ระยะ 141 หลา เอเดรียน พีเทอร์สัน รันนิงแบ็กสตาร์ถือบอล 26 ครั้ง วิ่งได้ระยะไป 69 หลา นอกจากทีมบุก ทีมรับของ ไวกิงส์ สมควรได้เครดิตไปเต็มๆ เมื่อ อินเทอร์เซปต์หนึ่งหนใส่ โทนี โรโม ควอเตอร์แบ็ก คาวบอยส์ ที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ แถมยังไล่แซ็คได้อีกถึง 6 ครั้ง ทำให้บอลฟัมเบิล 3 หน (เสียการครองบอล 2 ครั้ง) บีบให้ "อเมริกาทีม" เปิดเกมขว้างได้ระยะแค่ 198 หลา อีกทั้งยังป้องกันให้ เฟลิกซ์ โจนส์ วิ่งไปแค่ 63 หลา แมเรียน บาร์เบอร์ ก็ทะลวงได้เพียง 14 หลาเท่านั้น ที่สำคัญบรรยากาศในเมโทรโดม บีบให้ ชอน สวีแชม พลาดไปถึง 2 ฟิลด์โกล
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ ไวกิงส์ ผ่านเข้าชิงแชมป์สาย NFC สัปดาห์หน้าต้องไปเยือน "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทีมอันดับ 1 ของฝั่งที่ซูเปอร์โดม โดย แบรด ชิลเดรสส์ หัวหน้าโค้ช และ ฟาร์ฟ กำลังลุ้นเข็นพลพรรค "ม่วง-ขาว" ผ่านเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1977 ที่พ่ายให้แก่ "สลัดดำ" โอคแลนด์ เรดเดอร์ส 14-32
หลังจากนำ ไวกิงส์ เข้าสู่เกมชิงแชมป์สายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2001 ฟาร์ฟ ออกมาให้สัมภาษณ์ "วันนี้เหมือนกับฤดูกาลนี้ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทุกอย่างผ่านฉลุย ผมผ่านทุกอย่างมาได้ในปีนี้ แต่หลังจากนี้ยังมีอะไรให้ลุยอีก"
ด้าน จาเรด อัลเลน ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตัวเก่งที่เกมนี้แซ็คไปหนึ่งหนให้ไวกิงส์ ออกมาชมเชย ฟาร์ฟ "เขากำลังลงสนามด้วยหัวจิตหัวใจ"
ที่มินนิอาโปลิส : เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ทำได้สมกับคำโอ้อวด กำลังนับถอยหลังในการหาแหวนแชมป์ "ซูเปอร์โบว์ล" วงที่สองมาประดับนิ้วมือ และก็ดูเหมือนเขาคิดไม่ผิดที่เลือกคัมแบ็กสู่ลีกคนชนคนมาร่วมงาน มินเนโซตา ไวกิงส์ เมื่อต้นสังกัดแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมทั้งทีมบุก-ทีมรับในการจัดการกับ ดัลลัส คาวบอยส์ ที่ฟอร์มร้อนแรงชนะมาติดๆ กัน
ช่วงกลางสัปดาห์ ฟาร์ฟ ประกาศกร้าวกับสื่อท้องถิ่นในมินนิอาโปลิส ให้มาทำข่าวเกมชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซีของไวกิงส์ได้เลยช่วงกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งคำพูดของจอมทัพวัย 40 ปี ขลังทีเดียว โดยเกมเปิดเมโทรโดม ฟาร์ฟ สะบัดแขนขว้างไปเพียง 24 ครั้ง เข้าเป้า 15 หน ได้ระยะ 234 หลา แต่แปรเปลี่ยนเป็นถึง 4 ทัชดาวน์ ให้แก่ ซิดนีย์ ไรซ์ ปีกนอกคู่ใจ 3 ครั้ง ก่อนที่ วิซานธี เชียนโค จะมารับสกอร์ปิดกล่องก่อนหมดเวลา 2 นาที
โดยเกมนี้ ไรซ์ รับบอลไป 6 ครั้ง ได้ระยะ 141 หลา เอเดรียน พีเทอร์สัน รันนิงแบ็กสตาร์ถือบอล 26 ครั้ง วิ่งได้ระยะไป 69 หลา นอกจากทีมบุก ทีมรับของ ไวกิงส์ สมควรได้เครดิตไปเต็มๆ เมื่อ อินเทอร์เซปต์หนึ่งหนใส่ โทนี โรโม ควอเตอร์แบ็ก คาวบอยส์ ที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ แถมยังไล่แซ็คได้อีกถึง 6 ครั้ง ทำให้บอลฟัมเบิล 3 หน (เสียการครองบอล 2 ครั้ง) บีบให้ "อเมริกาทีม" เปิดเกมขว้างได้ระยะแค่ 198 หลา อีกทั้งยังป้องกันให้ เฟลิกซ์ โจนส์ วิ่งไปแค่ 63 หลา แมเรียน บาร์เบอร์ ก็ทะลวงได้เพียง 14 หลาเท่านั้น ที่สำคัญบรรยากาศในเมโทรโดม บีบให้ ชอน สวีแชม พลาดไปถึง 2 ฟิลด์โกล
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ ไวกิงส์ ผ่านเข้าชิงแชมป์สาย NFC สัปดาห์หน้าต้องไปเยือน "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทีมอันดับ 1 ของฝั่งที่ซูเปอร์โดม โดย แบรด ชิลเดรสส์ หัวหน้าโค้ช และ ฟาร์ฟ กำลังลุ้นเข็นพลพรรค "ม่วง-ขาว" ผ่านเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1977 ที่พ่ายให้แก่ "สลัดดำ" โอคแลนด์ เรดเดอร์ส 14-32
หลังจากนำ ไวกิงส์ เข้าสู่เกมชิงแชมป์สายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2001 ฟาร์ฟ ออกมาให้สัมภาษณ์ "วันนี้เหมือนกับฤดูกาลนี้ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทุกอย่างผ่านฉลุย ผมผ่านทุกอย่างมาได้ในปีนี้ แต่หลังจากนี้ยังมีอะไรให้ลุยอีก"
ด้าน จาเรด อัลเลน ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตัวเก่งที่เกมนี้แซ็คไปหนึ่งหนให้ไวกิงส์ ออกมาชมเชย ฟาร์ฟ "เขากำลังลงสนามด้วยหัวจิตหัวใจ"
