เหลืออีกไม่ถึหนึ่งสัปดาห์แฟนกีฬาคนชนคนจะได้ทราบกันแล้วว่าทีมใดจะขึ้นครองบัลลังก์แชมป์ “ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43” ระหว่าง พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส และ อริโซนา คาร์ดินัลส์ แต่ก่อนที่ทั้งสองทีมจะขึ้นสังเวียน เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ในเมืองแทมปา ฟลอริดา เวลาตรงกับในเมืองไทยเช้าตรู่จันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 52 ทีมข่าวกีฬาขอยกสถิติในอดีตและปัจจุบันบวกกับความพร้อมของผู้เล่นมาวัดพลังกันดูว่า ระหว่าง “คนเหล็ก” กับ “นกหัวแดง” ฝ่ายใดจะได้เปรียบ-เสียเปรียบมากกว่ากัน
ความยิ่งใหญ่ของทั้งสองทีม
นับตั้งแต่ “ซูเปอร์โบว์ล” ฟาดฟันกันหนแรกในปี 1967 จนมาถึงครั้งที่ 43 นี่ถือเป็นการเข้าชิงแชมป์ประเทศสมัยที่ 7 ของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เป็นรองแค่ ดัลลัส คาวบอยส์ (เข้าชิง 8 สมัย) แต่เพิ่งเป็นครั้งแรกสำหรับ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ดังนั้นความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ต้องยกให้ทาง “คนเหล็ก” ได้เปรียบเรื่องประสบการณ์การสัมผัสเกมใหญ่ ยิ่งเข้าชิง 6 สมัยที่ผ่านมา ชัค โนลล์ และ บิลล์ คาวเออร์ คุมบังเหียนพาทีมกวาดแชมป์ไปถึง 5 สมัย (โนลล์ ตำนานโค้ชได้มาคนเดียวถึง 4 สมัย) ถ้า ไมค์ ทอมลิน ทำสำเร็จ สตีลเลอร์ส จะผงาดครองแชมป์มากที่สุดในศึกคนชนคนแซงทั้ง คาวบอยส์ และ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม คาร์ดินัลส์ คงอยากเจริญรอยตาม นิวยอร์ก เจ็ตส์ (ปี 1969), บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (ปี 2001) และ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส (ปี 2003) ที่ซิวแชมป์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงชิงชัย แต่นั่นก็เป็นเพียง 3 จาก 8 ทีมรุคกี้ในซูเปอร์โบว์ลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด
ประสบการณ์ผู้เล่น-โค้ชในเกมชิงแชมป์
เบน โรธลิสเบอร์เกอร์, วิลลี พาร์เกอร์ และ ไฮน์ส วอร์ด แค่สามคนนี้ของ สตีลเลอร์ส ก็มีประสบการณ์การลุ้นแชมป์มากกว่า คาร์ดินัลส์ ทั้งทีมที่มีแค่ เคิร์ต วอร์เนอร์ (เซนต์หลุยส์ แรมส์) และ ร็อด ฮูด (ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์) ทว่า เอ็ดเจอรีน เจมส์ รันนิงแบ็กผู้ผ่านเกมชิงแชมป์สายมาแล้วมากมายกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส และผองเพื่อน “นกหัวแดง” อีกหลายคนคงอยากสวมวิญญาณ “เจ้าหนุ่มเดวิด” คิดล้มยักษ์ตนใหญ่อย่าง “โกไลแอธ”
นอกจากนี้ประเด็นที่น่าสนใจคือการพบกันระหว่างโค้ชเพื่อนเกลอ ภายใต้การดูแลของ คาวเออร์ เมื่อสามปีก่อน เคน ไวเซนฮันท์ (โค้ชทีมบุก) และ รัสส์ กริมม์ (ผู้ช่วยโค้ช) เคยทำงานร่วมกับ ดิค เลอโบว์ (โค้ชทีมรับ) มาคราวนี้ ไวเซนฮันท์ กับ กริมม์ คงอยากพิสูจน์ให้ สตีลเลอร์ส เห็นว่าต้นสังกัดคิดผิดที่ไม่มอบความไว้วางใจให้นั่งแท่นนายใหญ่ เลือกไปดึง ไมค์ ทอมลิน โค้ชทีมรับ มินเนโซตา ไวกิงส์ มาสวมหัวโขนแทน
ทีมบุก
นี่เป็นเพียงไม่กี่จุดที่ คาร์ดินัลส์ ดูได้เปรียบ สตีลเลอร์ส หากวัดกันที่สถิติ ในฤดูกาลปกติ คาร์ดส มีทีมบุกอยู่ถึงอันดับ 4 ของลีก โดดเด่นโดยเฉพาะเกมการขว้าง วอร์เนอร์ กระจายบอลให้ แลร์รี ฟิตเจอรัลด์, อันควาน โบลดิน และ สตีฟ บรีสตัน รับได้ระยะเกิน 1 พันหลาทุกคน แต่เกมวิ่ง “นกหัวแดง” รั้งท้ายของลีก อย่างไรก็ตาม เข้าสู่โพสต์ซีซั่น ทั้ง เจมส์ และ ทิม ไฮทาวเวอร์ ประสานงานเยี่ยมต้นสังกัดจึงทำเฉลี่ย 30 แต้มในการเจอกับ แอตแลนตา ฟอลคอนส์, แคโรไลนา แพนเธอร์ส และ อีเกิลส์ ขณะที่ทีมบุกของ “คนเหล็ก” อยู่ที่ 22 เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ฟอร์มไม่สุดยอดในเรคกูลา ซีซั่น ทว่าเมื่อเข้าเพลย์ออฟข้อผิดพลาดของ “บิ๊กเบน” ลดลง ที่สำคัญอาวุธของ สตีลเลอร์ส ค่อนข้างหลากหลาย ทางอากาศมีปีกมือดีอย่าง วอร์ด, ซานโตนิโอ โฮล์มส เป็นทีเด็ด ภาคพื้นดิน พาร์เกอร์ คัมแบ็กได้ดีพร้อมมี เมเวลเด มัวร์ คอยสลับกระทุ้ง จึงไม่น่าแปลกใจทีมไล่ถล่ม ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส (35 แต้ม) และ เรฟเวนส์ (23 แต้ม) แนวโน้มดีเกินค่าเฉลี่ยตัวเอง
ทีมรับ
นี่ถือเป็นความท้าทายสูงสุดของทีมบุกคาร์ดส เมื่อ สตีลเลอร์ส มีทีมรับแกร่งสมชื่อมาเป็นอันดับ 1 ลีก อนุญาตให้คู่แข่งทำระยะเฉลี่ยแค่ 237.2 หลา ขว้างใส่ 156.9 หลา และก็เสียต่อเกมเพียง 13.9 แต้ม เจมส์ แฮร์ริสัน ไลน์แบ็กเกอร์จอมแซ็ค และ เจมส์ ฟาร์ริเออร์ กำลังจ้อง วอร์เนอร์ ตาเป็นมัน เช่นเดียวกับ ทรอย โพลามาลู ยอดเซฟตี้พร้อมโฉบบอลอยู่ด้านหลัง ส่วน คาร์ดินัลส์ แม้มีแผงกองกลางที่แข็งแกร่งไม่แพ้กันนำโดย คาร์ลอส แดนสบี ทั้งบรรดาตัวคุมปีกสร้างบิ๊กเพลย์ได้ทุกเมื่อ แต่ตามสถิติทีมรับกลับไม่แข็งแกร่งนัก เสียระยะถึง 365.8 หลา โดนเฉลี่ย 26.7 แต้มต่อเกม อาจเรียกได้ว่านี่เป็นการต่อกรกันระหว่าง “คนเหล็ก” กำปั้นเชิงหมัดหนักกับมวยประเภทไฟเตอร์อย่าง “นกหัวแดง” ก็ว่าได้
ทีมพิเศษ
เมื่อทีมบุก-ทีมรับกินกันไม่ลง ซูเปอร์โบว์ลหลายครั้งตัดสินกันที่ผลงานของ “ทีมพิเศษ” ซึ่งทั้งสองทีมมีดีไม่แพ้กัน เจฟฟ์ รีด ของ “คนเหล็ก” เตะฟิลด์โกลไม่ค่อยพลาดง่ายๆ ขณะที่ นีล รัคเกอร์ส ฝีเท้าระดับหัวแถวของลีก ส่วนการพันท์หากเตะฝังไม่เนียนพอ เกรย์ รัสเซลล์, โฮล์มส (สตีลเลอร์ส) หรือ เจ.เจ. แอร์ริงตัน, บรีสตัน (คาร์ดินัลส์) ก็พอมีทีเด็ดให้เห็นบ้าง
การเผชิญหน้ากันที่ผ่านมา
เจอกันมา 57 ครั้งก่อนหน้านี้ สตีลเลอร์ส ชนะไป 31 ครั้ง คาร์ดินัลส์ ได้เฮ 23 หน เสมอกัน 3 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ปะทะฝีมือกันเกิดขึ้นในเกมสัปดาห์ที่ 4 ของซีซั่นก่อน “นกหัวแดง” ปิดรังจิกเอาชนะ “คนเหล็ก” สำเร็จ 21-14 แม้ทีมเยือนได้ โรธลิสเบอร์เกอร์ ขว้างไปสองสกอร์ให้ โฮล์มส แต่ วอร์เนอร์ สวมวิญญาณซูเปอร์ซับลงมานำทีมแทน แมตต์ ไลนาร์ท ที่ฟอร์มบู่ ขว้างทัชดาวน์ปลุกชีพเข้ามือ เจอร์เฮไม เออร์บาน ก่อน บรีสตัน สร้างบิ๊กเพลย์วิ่งย้อนพันท์เข้าเอ็นด์โซนจากระยะ 73 หลา จากนั้น เจมส์ วิ่งทะลวง 2 หลาปิดกล่อง
เจอกันใน “ซูเปอร์โบว์ล” คราวนี้ สตีลเลอร์ส ทีมที่มีสถิติดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของฝั่งเอเอฟซี (AFC) ถูกยกให้เป็นต่อ คาร์ดินัลส์ อันดับ 4 สายเอ็นเอฟซี (NFC) 6 1/2 - 7 แต้ม อย่างไรก็ตาม เกมชิงแชมป์ 10 หนหลังสุดปรากฏว่าทีมรองบ่อนพลิกเถลิงบัลลังก์ได้ถึงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นงานของ “คนเหล็ก” คงไม่ง่ายอย่างที่ใครคิด เพราะประตูแห่งชัยชนะหาใช่ปิดกั้นโอกาสของ คาร์ดินัลส์ เสียทีเดียว
