"แพ็คแมน" แมนนี ปาเกียว ยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์ ยังยืนยันไม่ต้องการถูกตรวจโด๊ป 30 วันก่อนชก "พริตตีบอย" ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดนักมวยชาวอเมริกัน โดยหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้จะเบนเข็มไปชกกับคนอื่นแทน
ศึกดวลกำปั้นซูเปอร์ไฟต์ระหว่าง แมนนี ปาเกียว และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 13 มีนาคมปีหน้าต้องมีอันสะดุดลงเนื่องจาก "แพ็คแมน" ไม่ยอมรับการตรวจโด๊ปตามมาตรฐานขององค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสเอดีเอ) ซึ่งต้องเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจในช่วง 1 วันก่อนและหลังขึ้นชก
ล่าสุด ปาเกียว ยังยืนยันความประสงค์เดิมที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขการตรวจโด๊ปดังกล่าว โดยยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์โพสท์จุดยืนตนเองผ่านทางเวปไซต์ส่วนตัวว่า "ผมยังมีความประสงค์จะชกกับฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ และไม่เคยพูดว่าจะล้มการชกหรือไม่ต้องการดวลกำปั้นกับเขา ผมพร้อมจะชกกับใครก็ได้ในทุกที่ทุกเวลา สถิติและประวัติการชกที่ผ่านมาเป็นข้อพิสูจน์ว่าผมไม่เคยหลีกเลี่ยงจะดวลกับใคร"
พร้อมชี้แจงต่อว่า "ความจริงคือการเจาะเลือดจากร่างกายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมชาติตามความคิดของผม และผมจะเกิดความรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงหากถูกเจาะเลือดก่อนการชกไม่กี่วัน มันเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าผู้คนจะทำแบบนี้ไปทำไม"
"หาก ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ไม่ยอมรับเรื่องนี้ โปรโมเตอร์ของผมจะจัดหาคนอื่นมาชกในวันที่ 13 มีนาคมแทน" ขวัญใจกาตาล็อกกล่าวต่อ โดยมีการเปิดเผยว่า บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์ของปาเกียวจะเบนเข็มไปทาบทาม พอล มาลิกนาจจี นักชกชาวมะกันเชื้อสายอิตาเลียน อดีตแชมป์โลกจูเนียร์ เวลเตอร์เวทของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาแทน
"หาก ฟลอยด์ ต้องการดวลและไม่กลัวผมจริงๆแล้ว เขาน่าจะยอมรับเงื่อนไขนี้ ผมหวังว่าเขาจะไม่เป็นไอ้ขี้ขลาดและมาสู้กับผมเพื่อให้เกิดศึกดวลกำปั้นอย่างที่แฟนมวยต้องการชม ผมไม่กลัวที่จะสู้กับ ฟลอยด์ ไม่ว่าที่ไหนหรือเวลาใด" ปาเกียว ปิดท้าย
