นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย สวดแหลกผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางภายในสมาคม อย่าได้ให้ท้าย "เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม มากเกินไปนัก พร้อมก่นนักกีฬาที่มีพฤติกรรมกร้าวร้าวกลับได้รับการหนุนให้เป็นข่าว
หลังจากมีปัญหาลุกลามข้ามแดนจากไทยมาถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชนลาว ระหว่าง จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม กับ สมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย เป็นเหตุให้ "เอ็กซ์" โดนตะเพิดจากทีมชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ นครหลวงเและทางการลาวก็ส่งตัวกลับโทษฐานตั้งโต๊ะแถลงข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในแคมป์ฝึกซ้อมกับ พ.ต.อ.บูรพา ฤกษ์สังเกตุ ผู้จัดการทีม
ล่าสุดเมื่อวันก่อน นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนฯ เดินทางมายังสปป.ลาว และก็ไปเข้าชมการแข่งขันตะกร้อทีมเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศทั้งประเภทหญิงและชาย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนไทยได้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว MGR Sport แทรกกายได้สัมภาษณ์มาเล็กน้อย ทว่าล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2552 "บิ๊กปอง" เดินทางมาเยี่ยมเยียนนักกีฬายิงปืนไทยที่มีโปแกรมแข่ง
ภายหลัง นายปองพล ออกมาเปิดเผยกับทีมข่าว MGR Sport ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันสมาคมยิงปืนฯ ทำถูกต้องในการตะเพิด "เอ็กซ์" ออกจากแคมป์ "แม้ผู้ใหญ่หลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเราทำผิดขั้นตอนในการส่งตัว จักรกฤษณ์ กลับประเทศ แต่ผมยืนยันว่าการส่งชื่อกลับไม่ได้ข้ามขั้นตอน ทำถูกต้องแล้ว สองคนนี้ (เอ็กซ์ กับ โอภาส เรืองปัญญาวุฒิ) ไปทุกที่ก็มีปัญหา ใครๆ ต่างก็รู้ ผมบอกไว้ก่อนว่า ยิงปืนเป็นกีฬาก็จริง แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่ถืออาวุธอยู่ในมือ ก่อนหน้านี้ เอ็กซ์ มีประวัติไม่ดีนัก ก่อนไปโอลิมปิก 2008 เคยใช้มีดใช้ขวานจะทะเลาะวิวาทกับเพื่อน นอกจากนี้ยังเตรียมใช้ปืน ยังดีที่ตำรวจเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ผู้จัดการทีม (พ.ต.อ.บูรพา) ท่านเป็นตำรวจ ท่านมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ จึงต้องระงับเหตุไว้ก่อน เรื่องนี้สมาคมยิงปืนฯ ไม่ผิด ที่ผ่านมาเราทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติไม่น้อย เราต้องการนักกีฬามีฝีมือและระเบียบวินัย หากใครอยากได้นักกีฬามีฝีมือแต่ความประพฤติแย่ก็มาบอก ผมจะได้เปลี่ยนวิธีการฝึกซ้อมให้ใหม่"
"ในส่วนของผู้ตัดสินนานาชาติที่มาตัดสินในซีเกมส์ครั้งนี้ต่างก็รู้กิตติศัพท์ของสองคนนี้ (เอ็กซ์-โอ) เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่สหพันธ์ยิงปืนของลาวที่ไปฝึกซ้อมที่เมืองไทยก็รับทราบ สองคนนี้ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย แต่เมื่อศาลปกครองสั่งให้สองคนนี้มาแข่งเราก็ต้องทำตาม แต่ต้องบอกว่าผู้จัดการทีมคนไหนก็ไม่อยากมาด้วย สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการปรองดอง หากต้องการปรองดองกันจริง คงไม่ไปยื่นต่อศาลปกครองให้ถอดถอนผมและผู้บริหารในสมาคมฯ อันที่จริงผู้ใหญ่อย่างผมพร้อมให้อภัยเด็ก หากเด็กเข้ามาพูดคุย แต่นี่ไปร้องศาล ออกโทรทัศน์ พูดกับสื่อมวลชน ไม่เคยสำนึก วันนี้มันก็สายไปแล้ว ส่วน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หรือว่าโอลิมปิกไทย ไม่เคยโดนอะไรแบบนี้เอง คงไม่เข้าใจ อีกทั้งผมอยากติงสื่อไทยที่เอาแต่ตามสัมภาษณ์ เอ็กซ์ กับ โอ ทำไมไม่ไปสัมภาษณ์ ปราการ การดี และ ปองพล กุลชัยรัตนา ที่ทำสองเหรียญทองให้ประเทศชาติ ทั้งที่นักกีฬาสองคนนี้มีความประพฤติดี กลับไปตามสัมภาษณ์พวกมีความประพฤติแย่เสียอย่างนั้น สำหรับผมตัวไม่เคยหนีสื่อ แต่แทบไม่มีโอกาสได้แก้ต่างเลย ทั้งที่ถูกโจมตีมาโดยตลอด เมื่อวานเหตุที่เลี่ยงไม่มาสนามยิงปืน เพราะที่นั่นไม่ให้สัมภาษณ์ มันเป็นกฎของทางการลาว ผมเป็นนักการเมือง เห็นกล้องผมออกจากชอบ" นายกสมาคมฯ ร่ายยาว
"ส่วนเรื่องที่มาเกิดขึ้นยังต่างแดน ประเทศเสียชื่อเสียง ผู้ใหญ่ออกมาจวกว่าสมาคมฯ ต้องรับผิดชอบ ซึ่งผมก็พูดเลยว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไร ก็ผมไม่ได้รับสองคนนี้ (เอ็กซ์-โอ) ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผู้ใหญ่กลับให้ท้ายกันนัก คนนอกเข้ามายุ่ง การกีฬาแห่งประเทศไทยก็ให้เงินพิเศษ 2 ล้านบาทให้สองคนนี้ไปฝึกซ้อม รัฐมนตรีกีฬาก็หนุน เคยเตือนกันบ้างหรือไม่ ไม่ใช่เอาแต่ให้ท้ายกัน พอเกิดเหตุก็มาโทษให้สมาคมรับผิดชอบ สำหรับเอเชียนเกมส์ที่จะมีขึ้นในปีหน้าทั้งสองคนคงไม่มีสิทธิ ถึงแม้ศาลจะสั่งให้มายิงก็ตาม นั่นเพราะผมได้แจ้งไปยังสหพันธ์ยิงปืนนานาชาติแล้วว่า ได้ถอนชื่อสองคนนี้ออกจากทีมเป็นที่เรียบร้อย" บิ๊กปอง ทิ้งท้าย
