มหกรรมกีฬา "ซีเกมส์" ครั้งที่ 25 เริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นตามลำดับ โดยทัพนักกีฬาไทยพาเหรดกวาดเหรียญรางวัลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(12 ธ.ค.) ผมได้มีโอกาสเข้าไปเป็นหนึ่งในสักขีพยานพิธีมอบเหรียญรางวัลเทนนิสทีมหญิง ซึ่ง ไทย คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จภายใต้การนำของ"แทมมี" แทมมารีน ธนสุกาญจน์ แร็กเกตสาวจอมเก๋า ซึ่งสวมหัวใจสิงห์ลงแข่งขัน 3 แมตช์ในรอบ 24 ชั่วโมง หลังจากเย็นวันศุกร์ลงแข่งทั้งเดี่ยวและคู่พาทีมเอาชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 คู่ ก่อนตื่นเช้ามาชิงชนะเลิศในวันเสาร์ช่วยทีมเอาชนะ อินโดนีเซีย คู่ปรับเก่าได้อีก 2-0 คู่ ทำเอาน้องๆในทีมไล่ตั้งแต่ "แจน" สุชานัน วิรัชประเสริฐ รวมถึง "จูน" ณัฐนิดา หลวงแนม และ "เพี้ยซ" วรัชญา วงศ์เทียนชัย กล่าวขอบคุณผ่านสื่อด้วยใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ
อย่างไรก็ดี คณะนักกีฬาไทยงานกร่อยไปพอสมควรเมื่อทัพนักฟุตบอลชายเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปแล้วหลังจากพ่าย มาเลเซีย อย่างเหลือเชื่อ 1-2 จน "แชมป์เก่า 8 สมัยซ้อน" ต้องตกรอบแรกเพราะเฮดทูเฮดเป็นรอง "เสือเหลือง" โดยตลอดทั้งวันเสาร์ซึ่งผมตระเวนหาข่าวอยู่ภายในศูนย์กีฬาแห่งชาติ กม.16 มีพี่น้องชาวลาวเข้ามาแสดงความเสียใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำให้นักข่าวไทยอย่างผมหันไปเชียร์ทีมลาวซึ่งได้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกอย่างยิ่งใหญ่แทน โดยเชื่อว่าเกมรอบรองชนะเลิศที่ ลาว จะเปิดสนามกีฬาแห่งชาติพบ มาเลเซีย ในวันจันทร์นี้สนามแตกแน่นอน คอบอล(ไทย)ติดตามชมและเอาใจช่วยเพื่อนบ้านของเรากันได้
หลังจากแข้งไทยบินกลับบ้านไปในช่วงสาย ด้าน จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม มือปืนมาดเข้ม ผู้เคยรับบทบาทกุนซือหนุ่มพาทีมอาร์วีไปลุยฟุตบอลโลกในภาพยนตร์ "หมากเตะโลกตะลึง" ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อถูกพันตำรวจเอก บูรพา ฤกษ์สังเกต ผู้จัดการทีมยิงปืนทีมชาติไทย สั่งลงดาบส่งกลับบ้าน ทั้งที่ยังเหลือลุ้น 4 ทองทั้งประเภทบุคคลและประเภททีมจากโปรแกรมลงสนามปืนสั้นยิงช้าและยิงเร็วร่วมทีมกับ ปราการ การดี และ ปองพล กุลชัยวัฒนา สองแม่นปืนดาวรุ่ง
เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า จักรกฤษณ์ พร้อมด้วยรุ่นพี่คนสนิทอย่าง "โอ" โอภาส เรืองปัญญาวุฒิ มีปัญหาขัดแย้งกับสมาคมยิงปืนมายาวนาน โดยฝ่ายนักกีฬาจวกสมาคมฯบริหารงานไม่โปร่งใส ส่วน "พอล อดิเรก" ปองพล อดิเรกสาร นายกฯยิงปืนไทย ชี้ว่าทั้งคู่ไม่ควรเป็นนักกีฬาทีมชาติ เนื่องจากไม่เคารพกฏระเบียบสมาคม อีกทั้งยังให้สัมภาษณ์รุนแรงตอบโต้กันมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใน "เวียงจันทน์เกมส์" จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อ "หนุ่มเอ็กซ์" โต้เถียงกับ พ.ต.อ.บูรพา ผู้จัดการทีม อย่างรุนแรง โดยแหล่งข่าวเล่าให้ฟังว่า "คู่นี้เหน็บแนมกันมาตลอดทุกครั้งที่มีการประชุมและไม่มีทีท่าจะยอมให้กันเลย"
สำหรับ ผู้จัดการทีมยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ขาดในการส่งนักกีฬาไร้วินัยกลับบ้าน เนื่องจากปล่อยไว้เกรงจะสร้างปัญหาต่อเพื่อนร่วมทีม ขณะที่มือปืนหนุ่มย้ำจุดยืนว่าตนกำลังต่อสู้กับความอยุติธรรมเพื่ออนาคตที่ดีของวงการแม่นปืนไทย ทว่าเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วไม่มีใครได้ประโยชน์แน่นอน อย่างแรกคือโอกาสที่ไทยจะเก็บ 2 เหรียญทองประเภททีมในการแข่งขันปืนสั้นยิงช้าและยิงเร็วจะลดน้อยลงทันทีเมื่อทีมขาดนักกีฬาระดับ "โอลิมปิก" ด้านวงการแม่นปืนไทยลดความน่าเชื่อถือในสายตาต่างชาติอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อ "คนใน" มาทะเลาะกันเองแทนที่จะมุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ แม้กระทั่ง มร.จาซนี อดีตนักยิงปืนทีมชาติ มาเลเซีย ยังแสดงความเห็นไว้ว่า "ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก แต่ที่รู้คือถ้าเรื่องไม่จบ วงการยิงปืนไทยจะไปไหนไม่ได้เลย ขณะที่ชาติอื่นๆมีความเอกภาพและเดินหน้าพัฒนานักกีฬาของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง"