หลังจากที่ "หนุ่มเอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรณีโดน พ.ต.อ.บูรพา ฤกษ์สังเกตุ ผู้จัดการทีมชาติไทย ปลดจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติด้วยข้อหาให้วาจา "ก้าวร้าว" ณ สนามยิงปืน เมนสเตเดียม ในการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" ก่อนโดนเจ้าหน้าที่ทางการลาว ควบคุมตัวไปสอบสวน เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งถือเป็นเรื่องความผิดในประเทศเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้
ส่งผลให้มือปืนวัย 36 ปี รายนี้ถูกส่งกลับประเทศไทยเมื่อกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552 โดย "หนุ่มเอ็กซ์" เปิดเผยถึงข้อกล่าวหาทันทีที่เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิแบบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า "ผมถูกรังแกจากผู้จัดการทีมที่ตัดชื่อจากทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ แต่จะยังไม่พูดอะไรมาก เนื่องจากยังมีนักกีฬาอีกหลายคนยังแข่งขันไม่เสร็จ ขอรอให้จบซีเกมส์ก่อนจะออกมาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง"
ด้าน วิรัตน์ การดี นักแม่นปืนรุ่นพี่ที่เดินทางมารับ จักรกฤษณ์ ถึงสนามบินกล่าวว่า "จักรกฤษณ์ ไม่สมควรถูกส่งตัวกลับมา ด้วยเหตุผลเพียงแค่การทะเลาะกันของคนสองคน การที่ผู้จัดการทีมไปกล่าวหาว่าเขาทำผิดระเบียบวินัย ผมว่าเรื่องนี้มีพิรุธมากทีเดียว ก่อนหน้าจะเดินทางไปแข่งขัน ผมทราบมาว่ามีการเตรียมนักกีฬาสำรองไว้ก่อนแล้ว และได้เน้นย้ำให้เตรียมตัวให้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย"
ขณะที่ พ.ต.อ.บูรพา ฤกษ์สังเกตุ ผู้จัดการทีมยิงปืนไทย ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาผ่านทีมข่าว MGR Sport เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ธค.ว่า "ผมยอมรับว่าได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาทำงานเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในทีม ซึ่งเหมือนถูกสั่งให้มาตาย เนื่องจากตัวผมนั้นไม่ได้มีชื่อเสียง มาที่นี่ก็ไม่ได้เงินเดือน อยู่ตรงนี้มีแต่เสียกับเสีย และได้พยายามใช้ความอดทนมากที่สุด แต่ผมก็เป็นมนุษย์ ความอดทนมีขีดจำกัด ถ้ามีเหตุการณ์นักกีฬาชกต่อยกับผู้จัดการทีม ผมว่ามันจะเสียหายมากกว่าการส่งนักกีฬาคนหนึ่งกลับเมืองไทยอีกส่วนเรื่องการควบคุมตัว จักรกฤษณ์ ของทางการลาวนั้น สามารถดำเนินการได้ตามสมควร เนื่องจากเขาไม่ใช่นักกีฬาอีกแล้ว และการไปก่อกวนที่สนามแข่งขันด้วยการแถลงข่าวก็ถือเป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติ ขณะที่ส่วนตัวผมก็โดนตำรวจตักเตือนเช่นกันที่ให้สัมภาษณ์โดยไม่ขออนุญาต"
โดย พ.ต.อ.บูรพา กล่าวตอบโต้ข้อกล่าวหาเตรียมนักกีฬาลงแข่งขันไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยว่า "ไม่เป็นความจริง เพราะตัวสำรองก็เพิ่งมารู้ตัวกระทันหัน เรื่องนี้ไม่มีการเตรียมการไว้ก่อน แต่ผมก็เชื่อว่าเป็นเรื่องดีเนื่องจากนักกีฬายิงปืนของเรามีฝีมือไม่แตกต่างกัน เรามีนโยบายสร้างอนาคตที่ดีของทีมยิงปืน ด้วยนักกีฬาที่มีอายุน้อย ประเทศชาติต้องการคนดีและคนเก่ง คนไม่ดีคือคนที่ไม่ทำหน้าที่นักกีฬาที่ดี ไม่กตัญญูต่อชาติ ส่วนเป้าหมายจากตอนแรกที่เราตั้งไว้ 12 เหรียญทอง ตอนนี้คงเหลือแค่ 10 เหรียญทอง แต่ไม่ใช่เพราะ จักรฤกษณ์ แต่เป็นผลงานนักกีฬาคนอื่นตกลงไปมากกว่า"
ทั้งนี้ "บิ๊กบูรพา" กล่าวต่อว่า "ผมมารับงานนี้แบบเฉพาะกิจ ผมไม่มีอะไรติดค้างกับ จักรกฤษณ์ ทุกอย่างทำตามหน้าที่ แต่เป็นตัวนักกีฬาที่ไม่ยอมจบ พร้อมกับมาประกาศว่าสมาคมยิงปืนฯ ไม่โปร่งใส ซึ่งผมยืนยันว่าผู้บริหารทุกคนมือสะอาด เนื่องจากการกีฬาแห่งประเทศไทยมีการตรวจสอบอยู่ตลอด หากจะมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็เป็นเรื่องดีที่จะได้รู้เลยว่าสมาคมทำผิดต่อใครบ้าง หรือว่าใครบ้างที่ทำผิดต่อสมาคมบ้าง"
และในขณะที่ นักกีฬากับผู้จัดการทีมเกือบวางมวยที่เวียงจันทร์เกม แต่ท่าทีของนายกสมาคมยิงปืนอย่างนายปองพล อดิเรกสาร จะอยู่ในทางตรงกันข้าม ทั้งที่ทราบเรื่องเป็นอย่างดีเนื่องจากนายธนา ไชยประสิทธิ์หัวหน้านักกีฬาไทย จากความไม่อนาทรร้อนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ภาพผู้ใหญ่ของสมาคมมีปัญหากับนักกีฬายิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก ซึ่งในท้ายที่สุดคงต้องรอดูว่าปัญหาความขัดแย้งกันระหว่าง "เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ กับ สมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย จะจบลงเช่นไร เพราะความวุ่นวายที่เวียงจันทร์เกม อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของบทสรุปที่หลายคนมองว่าท้ายที่สุดต่างฝ่ายต่างต้องเจ็บด้วยกันทั้งคู่