"ดิ เอ็กซ์ ไฟล์" คดีปริศนา!!/ ประวิทย์ ทั้งทวีสุข

"กระสุนของผมพุ่งตรง ไม่มีอ้อม" ประโยคเด็ดซึ่ง จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม มือปืนมาดเข้มทีมชาติไทยลั่นไว้เมื่อครั้งก้าวลงเหยียบสนามบินวัดไต กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงดังก้องอยู่ในหูของผม ทว่าหลังร่วมมือกับ ปราการ การดี และ ปองพล กุลชัยวัฒนา คว้าเหรียญทองประเภททีมชายในการแข่งขัน ปืนสั้น มาตราฐาน มาครองได้เมื่อวันก่อน "เจ้าเอ็กซ์" มีอันต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปเรียบร้อยแล้วทั้งที่ยังเหลือโปรแกรมแข่งขันปืนสั้นยิงเร็วและยิงช้า หลังถูก พันตำรวจเอก บูรพา ฤกษ์สังเกต ผู้จัดการทีม หั่นชื่อออกจากทัพแม่นปืนไทยโทษฐานไร้วินัย พร้อมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าถิ่นรวบตัวไปสอบสวนอยู่ครึ่งวัน หลังตั้งโต๊ะสัมภาษณ์กลางสนามยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตทางเจ้าหน้าที่ โดย คุณ ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทยซึ่งเจรจาพาตัวมือปืนดีกรี โอลิมปิก กลับบ้านในครั้งนี้ออกมากล่าวไว้ว่า "ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นักกีฬาไทยซึ่งเข้าร่วมมหกรรมระดับนานาชาติถูกตัดชื่อและส่งตัวกลับ"

สำหรับมูลเหตุของความครุกรุ่นเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันศุกร์เมื่อ พ.ต.อ. บูรพา โต้เถียงกับ จักรกฤษณ์ ในเรื่องเก่า ฝ่ายหนึ่งยกคดีในอดีตของนักกีฬา อาทิ การไม่ขึ้นรับเหรียญรางวัลหรือการสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบขึ้นมาพูดในที่ประชุม พร้อมขู่จะตัดชื่อออกจากทีม "ซีเกมส์" หากทำผิดซ้ำ ด้าน "ผู้น้อย" แม้ไม่ถูกเอ่ยชื่อแต่เชื่อว่าตนกำลังถูกข่มขู่ จึงทำการตอบโต้ด้วยการย้อนถามว่า "ท่านจะเอาอย่างไร ถ้าผมมีปัญหาส่งผมกลับก็ได้" ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายแรกทำจริงตามคำเรียกร้อง อย่างไรก็ดีเรื่องไม่จบง่ายๆเมื่อ "หนุ่มเอ็กซ์" ที่ถูกริบไอดีการ์ดนักกีฬาพร้อมคืนพาสปอร์ตและตีตั๋วให้กลับบ้านในคืนวันเสาร์(12ธ.ค.) ตัดสินใจไปนอนพักบ้านเพื่อนที่ข้างรั้วสนามบินแทนที่จะเดินทางกลับตามกำหนด กระทั่งเรื่องดำเนินมาถึงเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนักข่าวผู้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ตื่นเต้นยิ่งกว่าดูหนังแอ็คชั่นผ่านจอสามมิติ

ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สนามยิงปืนภายในศูนย์กีฬาแห่งชาติ กม.16 ยังคงมีการแข่งขันตามปกติ โดยผมนั่งรถมอเตอร์ไซค์มาถึงเวลา 09.10 น. ได้พบกับ "โอ" โอภาส เรืองปัญญาวุฒิ เพื่อนสนิทต่างวัยของ จักรกฤษณ์ จึงได้ทราบว่ามือปืนมาดเข้มยังไม่ได้กลับไทยแต่ไปนอนบ้านเพื่อนและเตรียมเดินทางมาสนามยิงปืนอีกครั้งในเวลา 11.00 น. เพื่อพูดคุยกับผู้สื่อข่าวไทย ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดหมายปรากฏว่า จากสื่อที่มากันไม่กี่คนในช่วงเช้าโทรตามกันมาร่วม 50-60 คน และด้วยความเคยชินมีบางรายจัดแจงยกโต๊ะยาวขึ้นไปบนเวทีมอบเหรียญรางวัลจัดเป็นฮอลแถลงข่าวเฉพาะกิจ กระทั่งเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นหลัง "เอ็กซ์-โอ" เปิดใจเรียบร้อยแล้ว ชายอายุราว 50 ปีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สหพันธ์ยิงปืนลาวออกมาต่อว่า จักรกฤษณ์ ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า "ไอ้คนเสื้อเหลืองคนนั้น ไม่ใช่นักกีฬาอีกต่อไปแล้ว มาทำอย่างนี้ได้อย่างไร !!" ทำให้กองทัพนักข่าวแตกตื่นและต่างคนต่างแยกย้าย โดย จักรกฤษณ์ ขึ้นปิ้กอัพของเพื่อนเพื่อเตรียมกลับที่พัก ทว่ายังไม่ทันพ้นรั้วลานจอดรถถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายรวบตัวกลับเข้าห้องภายในสนามยิงปืนอีกครั้ง ก่อนย้ายไปกักตัวบริเวณสถานที่พักคนงานจีนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อหลบกองทัพสื่อ

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกระบองเพิ่มจำนวนขึ้นบริเวณสนามยิงปืน นอกจากนี้ยังแสดงสีหน้าเข้มขรึม บางรายตรงเข้าห้ามนักข่าวไทยที่พยายามตั้งกล้องซูมไปบริเวณที่พักคนงานซึ่ง จักรกฤษณ์ ถูกคุมตัวอยู่ กระทั่ง ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทยมาถึงก็ยังคงเกิดความรุนแรงเมื่อตำรวจรายหนึ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเข้ามาผลักกลางแผ่นหลังของท่าน ทำเอาสื่อไทยที่ล้อมวงสัมภาษณ์บริเวณหน้าสนามถึงขั้นฉุนขาด เคราะห์ดีที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์คนดังกล่าวยอมขอโทษและถูกกันตัวออกไป ด้าน "บิ๊กต้อม" ใจกว้างไม่เอาผิด ก่อนต่อไปเคลียร์กับทางการลาวพร้อมพาตัวเอ็กซ์กลับไปเก็บของที่บ้านเพื่อนย่านสนามบินวัดไตในตอนบ่ายเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องกลับบ้านในค่ำวันเดียวกัน ซึ่งผมใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีตัดสินใจกระโดดขึ้นรถของทีมข่าวช่อง 3 ตามติดมือปืนใจหาญถึงที่พัก ก่อนเห็นเจ้าตัวก้าวลงจากรถของคณะกรรมการโอลิมปิกไทยด้วยสีหน้าอิดโรยพร้อมกล่าวว่า "นึกว่าไม่รอดแล้ว" จากนั้นได้ทิ้งปริศนาไว้ว่า "เรื่องนี้มีคนบงการ"

อุณหภูมิอารมณ์เริ่มลดต่ำลงสู่ภาวะปกติ "เอ็กซ์" นั่งทานอาหารลาวมื้อสุดท้ายที่บ้านเพื่อน พร้อมกับเจ้าของบ้านและ "คู่ซี้" โอภาส ก่อนที่ คุณธนา พร้อมด้วย พลตรี จารึก อารีย์ราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย จะมารับตัวส่งไปที่สนามบินในเวลา 20.50 น. อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวที่ไปรอทำข่าวและเก็บภาพไม่มีโอาสได้พบกับ "เอ็กซ์" อีก เนื่องจากทางการลาวไม่อนุญาตให้พูดก่อนถึงเมืองไทย ขณะที่ทางการไทยเองถึงกับต้องประสานกับทางหน่วยทหารของลาวเพื่อขอ "ทหารอารักขา" 2 นายมาคุ้มกันนักกีฬาเข้าสู่อาคารผู้โดยสารผ่านทางช่องวีไอพีต่อไปถึงห้องผู้โดยสารขาออกบนชั้นสอง ก่อนขึ้นเครื่องสู่ไทยในเวลา 21.50 น. เหลือไว้แต่ชื่อเสียงอันหม่นหมองของประเทศชาติใน "เวียงจันทน์เกมส์" ด้าน "มหากาพย์ เอ็กซ์ VS ส.ยิงปืน" ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ทั้งที่ปัญหาคาราคาซังมาร่วม 2 ปีและหลายฝ่ายเบื่อที่จะ "เคลียร์" แล้ว