สนฉัตร และ สรรค์ชัย รติวัฒน์ พลิกพ่าย ทรีต คอนราด ฮวย กับ เซซิล มามิต ในเซตตัดสิน ทำให้ทีมเทนนิสชายไทย ปราชัย ฟิลิปปินส์ 1-2 คู่ ได้เพียงเหรียญเงินในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25
หลังจากทีมหญิง เบิกร่องคว้าเหรียญทองเทนนิสประเภททีมให้แก่ไทย ใน "เวียงจันทน์เกมส์" ตั้งแต่เมื่อเช้า ล่าสุดเมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2552 ทีมนักหวดลูกสักหลาดชายไทย ลงดวลแร็กเก็ตกับคู่ปรับอย่าง ฟิลิปปินส์ ที่มี เซซิล มามิต เป็นตัวชูโรง
โดยชายเดี่ยวมือ 2 "เจ้าพ้ง" กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ กลับมาพ่ายให้ ทรีต คอนราด ฮวย อย่างน่าเจ็บใจ 1-2 เซต 6-4, 1-6 และไทเบรก 6-7 (2/7) ทำให้ต้องมาลุ้นในคู่เดี่ยวมือ 1 ซึ่ง "เจ้าปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค ข่ม มามิต ด้วยการชนะไปบ้าง 2-0 เซต 6-4, 6-2
ต้องมาตัดสินกันที่ประเภทชายคู่ ไทยส่ง สนฉัตร และ สรรค์ชัย รติวัฒน์ ซึ่งค่อนข้างเป็นต่อ ฮวย และ มามิต อยู่พอสมควร และก็น่าจะเก็บชัยได้ออกนำก่อน 1-0 เซต ที่สกอร์ 6-4 แต่คู่นักหวดตากาล็อคเค้นฟอร์มสุดฤทธิ์พลิกกลับมาคว้าชัย 2-1 เซต 4-6, 6-3, 7-6 (7/4) กระชากเหรียญทองจากนักเทนนิสแดนสยามไป
ภายหลังการแข่งขัน "ต้น" สนฉัตร ให้สัมภาษณ์ผ่าน MGR Sport ที่ไปตามติดสถานการณ์ถึงคอร์ตเทนนิส ที่กม.16 "ยอมรับว่าเสียดายมาก เพราะเราเข้าใกล้ชัยชนะแล้ว เกมนี้สูสีจริงๆ ถึงแม้เซตแรกเราเก็บได้ก่อน 6-4 แต่เกมเสิร์ฟก็หืดตลอด พอเล่นไทเบรกค่อนข้างกดดันจนเสียแต้มแรก ทำให้เราเล่นยาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่า ฟิลิปปินส์ เล่นดีจริงๆ"
ส่วน "ต้อง" สรรค์ชัย เผยบ้าง "ยอมรับว่าความกดดันอยู่ที่เราจริงๆ ในแมตช์นี้ เพราะอันดับโลกเราสูงกว่าและก็ต้องการชนะมาก แต่คู่ต่อสู้เล่นได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะ คอนราด ที่เคยเล่นกันมาก่อน และวันนี้ยังมาเล่นได้ดี แต่โดยส่วนตัวพอใจกับฟอร์มตัวเอง"
ทางด้านของ มามิต กล่าวด้วย "เหรียญนี้มีความหมายต่อประเทศของผมเป็นอย่างยิ่ง เพราะสองปีก่อนต้องนั่งดูไทยกวาดเหรียญที่โคราชเกมส์ ค่อนข้างช้ำทีเดียว เที่ยวนี้แย่งเหรียญประเภททีมคืนมาได้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่"
ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมที่มาเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม ปิดท้าย "แมตช์นี้เรียกได้ว่าเราแพ้ไทเบรกนิดเดียวในคู่ผสม แต่เป้าหมายยังเหมือนเดิมคือคว้าเหรียญทองให้มากที่สุด ตอนนี้ยังมีโอกาสอยู่ เพราะดนัยเล่นดีมาก มีโอกาสได้แชมป์เดี่ยวคืนมา (จาก มามิต)"
หลังจากทีมหญิง เบิกร่องคว้าเหรียญทองเทนนิสประเภททีมให้แก่ไทย ใน "เวียงจันทน์เกมส์" ตั้งแต่เมื่อเช้า ล่าสุดเมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2552 ทีมนักหวดลูกสักหลาดชายไทย ลงดวลแร็กเก็ตกับคู่ปรับอย่าง ฟิลิปปินส์ ที่มี เซซิล มามิต เป็นตัวชูโรง
โดยชายเดี่ยวมือ 2 "เจ้าพ้ง" กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ กลับมาพ่ายให้ ทรีต คอนราด ฮวย อย่างน่าเจ็บใจ 1-2 เซต 6-4, 1-6 และไทเบรก 6-7 (2/7) ทำให้ต้องมาลุ้นในคู่เดี่ยวมือ 1 ซึ่ง "เจ้าปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค ข่ม มามิต ด้วยการชนะไปบ้าง 2-0 เซต 6-4, 6-2
ต้องมาตัดสินกันที่ประเภทชายคู่ ไทยส่ง สนฉัตร และ สรรค์ชัย รติวัฒน์ ซึ่งค่อนข้างเป็นต่อ ฮวย และ มามิต อยู่พอสมควร และก็น่าจะเก็บชัยได้ออกนำก่อน 1-0 เซต ที่สกอร์ 6-4 แต่คู่นักหวดตากาล็อคเค้นฟอร์มสุดฤทธิ์พลิกกลับมาคว้าชัย 2-1 เซต 4-6, 6-3, 7-6 (7/4) กระชากเหรียญทองจากนักเทนนิสแดนสยามไป
ภายหลังการแข่งขัน "ต้น" สนฉัตร ให้สัมภาษณ์ผ่าน MGR Sport ที่ไปตามติดสถานการณ์ถึงคอร์ตเทนนิส ที่กม.16 "ยอมรับว่าเสียดายมาก เพราะเราเข้าใกล้ชัยชนะแล้ว เกมนี้สูสีจริงๆ ถึงแม้เซตแรกเราเก็บได้ก่อน 6-4 แต่เกมเสิร์ฟก็หืดตลอด พอเล่นไทเบรกค่อนข้างกดดันจนเสียแต้มแรก ทำให้เราเล่นยาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่า ฟิลิปปินส์ เล่นดีจริงๆ"
ส่วน "ต้อง" สรรค์ชัย เผยบ้าง "ยอมรับว่าความกดดันอยู่ที่เราจริงๆ ในแมตช์นี้ เพราะอันดับโลกเราสูงกว่าและก็ต้องการชนะมาก แต่คู่ต่อสู้เล่นได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะ คอนราด ที่เคยเล่นกันมาก่อน และวันนี้ยังมาเล่นได้ดี แต่โดยส่วนตัวพอใจกับฟอร์มตัวเอง"
ทางด้านของ มามิต กล่าวด้วย "เหรียญนี้มีความหมายต่อประเทศของผมเป็นอย่างยิ่ง เพราะสองปีก่อนต้องนั่งดูไทยกวาดเหรียญที่โคราชเกมส์ ค่อนข้างช้ำทีเดียว เที่ยวนี้แย่งเหรียญประเภททีมคืนมาได้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่"
ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมที่มาเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม ปิดท้าย "แมตช์นี้เรียกได้ว่าเราแพ้ไทเบรกนิดเดียวในคู่ผสม แต่เป้าหมายยังเหมือนเดิมคือคว้าเหรียญทองให้มากที่สุด ตอนนี้ยังมีโอกาสอยู่ เพราะดนัยเล่นดีมาก มีโอกาสได้แชมป์เดี่ยวคืนมา (จาก มามิต)"