ทีมเทนนิสไทยมั่นใจครองเจ้าคอร์ตซีเกมส์อีกหนในศึก "เวียงจันทน์เกมส์" วันที่ 9-18 ธ.ค.นี้ โดย "ปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค มือ 1 หนุ่มไทย ไม่มีความมั่นใจกวาดเหรียญ แต่การันตีมี 1 ทองแน่นอน ด้าน "แฝดต้น-ต้อง" สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์ ประกาศป้องแชมป์ชายคู่ 4 สมัยติดให้ได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของนักกีฬาทีมชาติไทย ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ระหว่างวันที่ 9-18 ธันวาคมนี้ ในส่วนของกีฬาเทนนิส นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ตอนนี้ นักเทนนิสชุดซีเกมส์ ได้กลับมาฝึกซ้อมที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี บ้างแล้ว และบางคนยังติดการแข่งขันที่ต่างประเทศ แต่ 2 สัปดาห์ก่อนซีเกมส์ จะมารวมทีมเพื่อฝึกซ้อมร่วมกัน
สำหรับทีมเทนนิสไทยชุดนี้ ทีมชาย ได้แก่ "ปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค, "แฝดต้น-ต้อง" สนฉัตร กับ สรรค์ชัย รติวัฒน์, "พ้ง" กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ ส่วนทีมหญิง ได้แก่ "แทมมี่" แทมมารีน ธนสุกาญจน์, "แจน" สุชานันท์ วิรัชประเสริฐ, "จูน" ณัฐนิดา หลวงแนม และ "เพียซ" วรัชญา วงค์เทียนชัย ขณะที่เป้าหมายในซีเกมส์ครั้งนี้ ยังมั่นใจว่าทีมเทนนิสไทยจะได้เหรียญทองมากที่สุด โดยซีเกมส์ครั้งก่อน ได้มา 5 เหรียญทอง ส่วนครั้งนี้ มั่นใจว่าไทยจะได้ใกล้เคียงกับของเดิม
ด้าน ดนัย กล่าวว่า ยังมีอาการเจ็บไหล่อยู่ ทำให้ฝึกซ้อมไม่ได้ เพราะต้องพักรักษาตัวและทำกายภาพบำบัด เพื่อให้ไหล่แข็งแรงขึ้น และหวังว่าตอนแข่งจะไม่เจ็บอีก ดังนั้น จะขอคำปรึกษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยซีเกมส์ครั้งนี้ ลงแข่งขันประเภททีมชายและชายเดี่ยว จะทำให้ดีที่สุด แม้มีคู่แข่งขันที่สำคัญอย่าง ฟิลิปปินส์ และมี อินโดนีเซีย แทรกซึม โดยเฉพาะ ฟิลิปปินส์ ที่มี เซซิล มามิต มือ 446 ของโลก ที่โอนจากอเมริกามาเป็นฟิลิปปินส์ เล่นได้ทั้งเดี่ยวและคู่ ทำให้ทีมแข็งแกร่งมาก
"มามิตเป็นคู่ปรับเก่าของผมในซีเกมส์ เป็นผู้เล่นที่น่ากลัว ผมแพ้เขาในนัดชิงมา 2 ครั้ง และตั้งแต่เล่นซีเกมส์มา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมมีความมั่นใจน้อยที่สุด แต่อย่างน้อยจะทำให้ได้ 1 เหรียญทอง จากที่ลงแข่ง 2 ประเภท" มือ 1 ของไทย กล่าว
ขณะที่ สนฉัตร กล่าวว่า เป้าหมายในซีเกมส์ครั้งนี้ ตนและสรรค์ชัยหวังจะคว้าแชมป์ประเภทชายคู่ สมัยที่ 4 ติดต่อกันให้ได้ ยอมรับว่ามีความกดดันมาก แต่จะควบคุมสมาธิ เพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด แม้ตนมีอาการเจ็บข้อมือ แต่คาดว่าก่อนแข่งจะดีขึ้น
ด้าน สรรค์ชัย กล่าวว่า คู่แข่งที่สำคัญคือ ฟิลิปปินส์ ที่มี มามิต และ ฮูอี้ ทรีท คอนราด ร่วมทีม ซึ่งรั้งอันดับ 162 ของโลกในประเภทคู่ แต่ด้วยประสบการณ์ จะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ลาวกับไทยก็อยู่ไม่ไกลกันมากนัก หากเป็นไปได้ อยากขอให้คนไทยช่วยตามไปเชียร์และให้กำลังใจนักกีฬาไทยกันด้วย
ทั้งนี้ ทีมเทนนิสไทยจะเดินทางไปกรุงเวียงจันทน์ ในวันที่ 9 ธันวาคม ก่อนร่วมพิธีจับสลากแบ่งสายในวันที่ 10 และประเดิมสนามในวันที่ 11 ธันวาคม
