"โค้ชตึก" ธนาวิชญ์ โถสกุล ผู้จัดการทีมว่ายน้ำทีมชาติไทยชุด "ซีเกมส์" ครั้งที่ 25 ย้ำจำเป็นต้องหาดาวรุ่งขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนของ "เงือกอุ้ม" ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่านักกีฬาเยาวชนมีโอกาสก้าวขึ้นมาพาทีมชาติไทยคืนจ้าวสระซีเกมส์ในอีก 4 ข้างหน้า
หลังคว้า 5 เหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่โคราช เมื่อ 2 ปีก่อน มาถึงการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" ทัพนักว่าน้ำไทยยังไม่สามารถหยิบเหรียญทองมาคล้องคอได้ ทั้งที่เข้าสู่วันที่ 3 ของการชิงชัยในวันนี้ (12 ธ.ค.) ซึ่ง นายธนาวิชญ์ โถสกุล ผู้จัดการทีมว่ายน้ำยอมรับหากไทยไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้จริงถือเป็นความล้มเหลว พร้อมเร้าทุกฝ่ายช่วยกันหาตัวแทน ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาวอันดับ 1 ของไทยที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บหัวไหล่ขวา
โดย "โค้ชตึก" ยอมรับกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า "หากอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ของ ณัชฐานันตร์ เรื้อรังจนถึงต้องเข้ารับการผ่าตัด รับรองว่าทีมว่ายน้ำไทยมีปัญหาแน่นอน ซึ่งตอนนี้ผมและทางสมาคมฯกำลังปรึกษาหมอให้มาดูอาการของ อุ้ม ว่าหนักหนาเพียงใดและต้องรักษาอย่างไรต่อไป โดยผมเองยังมองไม่ออกมาว่าใครจะพอก้าวขึ้นมาแทนที่ในฐานะมือ 1 ทีมชาติได้"
"ณัชฐานันตร์ เป็นนักว่ายน้ำที่ครบเครื่องมากคนหนึ่ง นอกจากว่ายฟรีสไตล์ได้ยอดเยี่ยมแล้ว ยังลงแข่งขันเดี่ยวผสมได้ด้วย สำหรับนักกีฬาดาวรุ่งของเราในเวลานี้ เบญจพร ศรีพนมธร ถือว่ามีแววดีแต่ยังเก่งเฉพาะฟรีสไตล์ ผมกำลังมองอยู่ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ เบญจพร มาว่ายผีเสื้อ 200 เมตรดูบ้าง หรือฟรีสไตล์ 800 เมตร เพื่อเพิ่มทางเลือก อย่างไรก็ดี การพัฒนาต้องอาศัยการฝึกซ้อมที่ถูกต้องและระยะเวลา" ผู้จัดการทีมว่ายน้ำทีมชาติไทย กล่าวต่อ
ส่วนสาเหตุที่ทัพนักว่ายน้ำสิงคโปร์ครองจ้าวสระใน "ซีเกมส์" ครั้งที่ 24 โดยคว้าได้ 11 เหรียญทอง ส่วนไทยได้ 5 ทอง อีกทั้งใน "เวียงจันทน์เกมส์" เงือก-ฉลามแดนลอดช่องเก็บไปแล้ว 6 เหรียญ ขณะที่ไทยยังไม่ได้เหรียญ นายธนาวิชญ์ ชี้ว่า "สิงคโปร์สร้างนักกีฬาเยาวชนชุดใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ที่โคราช เมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และมาพีคเต็มที่ในซีเกมส์หนนี้ โดยส่วนใหญ่อายุราว 16-17 ปี ส่วนเราเองพัฒนาขึ้นมาเช่นกันแต่ในเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่าทำให้ไล่ตามไม่ทัน อย่างไรก็ดี ทางสมาคมฯมีการผลักดันเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมา ในเวลานี้มีอายุราว 12-13 ปี คิดว่าอีก 4 ปีเด็กชุดนี้จะเติบโตขึ้นมาพาไทยเป็นจ้าวสระซีเกมส์อีกครั้ง"
สำหรับกีฬาว่ายน้ำจะมีแข่งขันไปจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม หลังจากนั้นจะเป็นการชิงชัย ฟิน สวิมมิง (ว่ายน้ำด้วยตีนกบ) และ กระโดดน้ำ ต่อไปจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับพิธีปิดการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์"
หลังคว้า 5 เหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่โคราช เมื่อ 2 ปีก่อน มาถึงการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" ทัพนักว่าน้ำไทยยังไม่สามารถหยิบเหรียญทองมาคล้องคอได้ ทั้งที่เข้าสู่วันที่ 3 ของการชิงชัยในวันนี้ (12 ธ.ค.) ซึ่ง นายธนาวิชญ์ โถสกุล ผู้จัดการทีมว่ายน้ำยอมรับหากไทยไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้จริงถือเป็นความล้มเหลว พร้อมเร้าทุกฝ่ายช่วยกันหาตัวแทน ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาวอันดับ 1 ของไทยที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บหัวไหล่ขวา
โดย "โค้ชตึก" ยอมรับกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า "หากอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ของ ณัชฐานันตร์ เรื้อรังจนถึงต้องเข้ารับการผ่าตัด รับรองว่าทีมว่ายน้ำไทยมีปัญหาแน่นอน ซึ่งตอนนี้ผมและทางสมาคมฯกำลังปรึกษาหมอให้มาดูอาการของ อุ้ม ว่าหนักหนาเพียงใดและต้องรักษาอย่างไรต่อไป โดยผมเองยังมองไม่ออกมาว่าใครจะพอก้าวขึ้นมาแทนที่ในฐานะมือ 1 ทีมชาติได้"
"ณัชฐานันตร์ เป็นนักว่ายน้ำที่ครบเครื่องมากคนหนึ่ง นอกจากว่ายฟรีสไตล์ได้ยอดเยี่ยมแล้ว ยังลงแข่งขันเดี่ยวผสมได้ด้วย สำหรับนักกีฬาดาวรุ่งของเราในเวลานี้ เบญจพร ศรีพนมธร ถือว่ามีแววดีแต่ยังเก่งเฉพาะฟรีสไตล์ ผมกำลังมองอยู่ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ เบญจพร มาว่ายผีเสื้อ 200 เมตรดูบ้าง หรือฟรีสไตล์ 800 เมตร เพื่อเพิ่มทางเลือก อย่างไรก็ดี การพัฒนาต้องอาศัยการฝึกซ้อมที่ถูกต้องและระยะเวลา" ผู้จัดการทีมว่ายน้ำทีมชาติไทย กล่าวต่อ
ส่วนสาเหตุที่ทัพนักว่ายน้ำสิงคโปร์ครองจ้าวสระใน "ซีเกมส์" ครั้งที่ 24 โดยคว้าได้ 11 เหรียญทอง ส่วนไทยได้ 5 ทอง อีกทั้งใน "เวียงจันทน์เกมส์" เงือก-ฉลามแดนลอดช่องเก็บไปแล้ว 6 เหรียญ ขณะที่ไทยยังไม่ได้เหรียญ นายธนาวิชญ์ ชี้ว่า "สิงคโปร์สร้างนักกีฬาเยาวชนชุดใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ที่โคราช เมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และมาพีคเต็มที่ในซีเกมส์หนนี้ โดยส่วนใหญ่อายุราว 16-17 ปี ส่วนเราเองพัฒนาขึ้นมาเช่นกันแต่ในเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่าทำให้ไล่ตามไม่ทัน อย่างไรก็ดี ทางสมาคมฯมีการผลักดันเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมา ในเวลานี้มีอายุราว 12-13 ปี คิดว่าอีก 4 ปีเด็กชุดนี้จะเติบโตขึ้นมาพาไทยเป็นจ้าวสระซีเกมส์อีกครั้ง"
สำหรับกีฬาว่ายน้ำจะมีแข่งขันไปจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม หลังจากนั้นจะเป็นการชิงชัย ฟิน สวิมมิง (ว่ายน้ำด้วยตีนกบ) และ กระโดดน้ำ ต่อไปจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับพิธีปิดการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์"
