แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 3 ผู้เล่นในแผงกลางอย่าง ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไมเคิล คาร์ริค และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ช่วยกันสังหารคนละลูกก่อนเคี้ยว เอฟเวอร์ตัน อย่างไม่ยากเย็น 3-0 พร้อมทั้งขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เอฟเวอร์ตัน
คู่สุดท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฝ้ารังโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ เอฟเวอร์ตัน เกมนี้เจ้าถิ่นวาง ไมเคิล โอเวน ลงล่าตาข่ายคู่กับ เวย์น รูนีย์ พร้อมทั้งส่ง ราฟาเอล ดา ซิลวา ยืนแบ็กขวา ส่วนทีมเยือนเน้นความรัดกุมด้วยการอัดมิดฟิลด์ลงไป 5 คน โดยทิ้ง หลุยส์ ซาฮา ไว้เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
สิ้นเสียงนกหวีดแรกเป็น ปิศาจแดงที่ทำเกมรุกได้วูบวาบกว่า แต่โอกาสของ รูนีย์, ไรอัน กิกส์ และ ไมเคิล คาร์ริค ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ขณะที่ ซาฮา ก็ลุ้นให้ทอฟฟีสีน้ำเงินได้เช่นกันในช่วงกลางครึ่งแรก แต่ลูกยิงในเขตโทษของกองหน้าชาวฝรั่งเศสยังไม่ผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กระทั่งนาทีที่ 35 สาวก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้เริงร่ากันจากการนำ 1-0 เมื่อ ปาทริซ เอฟรา โยนจากกราบซ้ายเข้ากลางให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย โหม่งตั้งกลับมาหน้าเขตโทษ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ซึ่งเติมขึ้นมาถูกที่ถูกเวลาจัดการฮาล์ฟวอลเลย์ทีเดียวโดยไม่จับส่งบอลพุ่งผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด เสียบสามเหลี่ยมอย่างงดงาม ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 55 โอเวน มีจังหวะแตะหลบ ฮาวเวิร์ด เข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษด้านซ้าย ทว่าแทบไม่เหลือองศาให้ลุ้นก่อนที่อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษจะซัดหักข้อโด่งข้ามคาน 1 นาทีต่อมา เฟลลายนี ได้โอกาสหลุดเข้าไปแปผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบเสาไกล แต่ไม่เป็นประตูตีเสมอเนื่องจากไลน์แมนยกธงให้ดาวเตะหัวฟูล้ำหน้าไปก่อน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 64 เอฟเวอร์ตัน หวิดทวงคืนได้สำเร็จจากจังหวะที่ อเย็กเบนี ยาคูบู ดาวยิงไนจีเรียที่ลงมาแทน แดน กอสลิง ในครึ่งหลังบังบอลจาก เนมานยา วิดิช ก่อนพลิกหาเหลี่ยมยิงหน้าเขตโทษส่งลูกผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ หลุดเสาสองออกไปเพียงนิดเดียว
3 นาทีให้หลังสกอร์บอร์ดทำงานอีกครั้ง เมื่อ กิกส์ ตามเก็บบอลจากลูกยิงของ รูนีย์ ที่ทำท่าจะออกหลังแล้วจ่ายย้อนมาบริเวณเส้นเขตโทษ คาร์ริค จัดการแปเน้นๆ ด้วยซ้ายทะลุฝูงผู้เล่นทั้งสองทีมผ่านมือ ฮาวเวิร์ด เสียบมุมล่างอย่างคมกริบเป็น 2-0 สำหรับปิศาจแดง
เกมมาขาดเอาในนาทีที่ 76 หลังจากที่ วาเลนเซีย หลุดเข้าไปกระทุ้งเน้นๆ ในเขตโทษด้านขวาแฉลบ เลห์ตัน เบนส์ ที่พยายามพุ่งเข้ามาบล็อก ทำให้ลูกกระดอนพื้นข้าม ฮาวเวิร์ด ที่ล้มตัวรอปัดบอลเข้าไปเสียบหน้าต่างเสาไกล จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะอย่างง่ายดาย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนน แซง อาร์เซนอล ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง เชลซี จ่าฝูงอยู่ 5 แต้ม
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, เวส บราวน์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไรอัน กิกส์, ไมเคิล โอเวน, เวย์น รูนีย์
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, ลูคัส นีลล์, โจเซฟ โยโบ, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์, แจ็ค ร็อดเวลล์, จอห์นนี ไฮติงกา, แดน กอสลิง, มารูยาน เฟลลายนี, ทิม เคฮิลล์, หลุยส์ ซาฮา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (มาร์ติน สเคอร์เทล 1-0 นาที 50), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-1 นาที 69), (สตีเฟน ไอร์แลนด์ 1-2 นาที 76), (ยอสซี เบนายูน 2-2 นาที 77)
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ ฟูแลม 1-0 (ลี โบว์เยอร์ 1-0 นาที 16)
เบิร์นลีย์ เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1 (สตีเฟน คัลด์เวลล์ 1-0 นาที 9), (เอมิล เฮสกีย์ 1-1 นาที 86)
เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-0 (ฟลอร็องต์ มาลูดา 1-0 นาที 4), (มิชาเอล เอสเซียง 2-0 นาที 12), (มิชาเอล เอสเซียง 3-0 นาที 22), (โจ โคล 4-0 นาที 56)
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ อาร์เซนอล 1-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 71)
ฮัลล์ ซิตี เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 (กิเยร์โม ฟรังโก 0-1 นาที 5), (แจ็ค คอลลิสัน 0-2 นาที 11), (คาร์ลตัน โคล 1-2 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 27), (คามิล ซายัตเต 2-2 นาที 44), (จิมมี บุลลาร์ด 3-2 จุดโทษ นาที 45), (มานูเอล ดา คอสตา 3-3 นาที 69)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 1-0 นาที 35), (ไมเคิล คาร์ริค 2-0 นาที 67), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 3-0 นาที 76)