ยอสซี เบนายูน มิดฟิลด์ทีมชาติอิสราเอลช่วยชีวิต ลิเวอร์พูล ไม่ให้พ่ายคาถิ่นเอาไว้ได้ หลังจากพังประตูตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 ทำให้ยังมี 1 คะแนนติดไม้ติดมือ ทว่าอันดับในตารางยังคงหยุดอยู่ที่ 7 ต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2552
ลิเวอร์พูล 2–2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี นัดนี้เจ้าถิ่นไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่บาดเจ็บต้นขา ส่วน ฟิลิปป์ เดเกน ก็ติดโทษแบน ทำให้ เจมี คาร์ราเกอร์ ถูกโยกไปยืนแบ็กขวา แต่ยังมี มาร์ติน สเคอร์เทล กับ ดาเนียล แอกเกอร์ ลงประจำการในแดนหลัง และ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมกลับมาขับเคลื่อนเกมรุก ส่วนทีมเยือนค่อนข้างฟูลทีม นำโดย ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, เคร็ก เบลลามี และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที ดาเนียล แอกเกอร์ ปราการหลังชาวเดนมาร์กของหงส์แดงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากจังหวะที่หนุนขึ้นมาเล่นลูกฟรีคิกหน้าประตูแล้วไปปะทะกับผู้เล่นเรือใบสีฟ้าก่อนโดนหามออกมา จากนั้นนาทีที่ 10 อาคันตุกะ มีลุ้นโดย แกเร็ธ แบร์รี สอดเข้ามาโหม่งในเขตโทษโดยไม่มีตัวประกบ แต่ โฆเซ เรนา โดดปัดพ้นอันตรายได้
นาทีต่อมา แอกเกอร์ ไม่สามารถกลับมาเล่นต่อได้ ทำให้ โซติริส คีร์เกียกอส ดาวเตะกรีซลงคุมแนวรับแทน จากนั้นหายนะเริ่มมาเยือนเจ้าบ้านอีกครั้งในนาทีที่ 19 เมื่อ บาเบล มีปัญหาเดี้ยงจากจังหวะเลื้อยเข้ามายิงแล้วถูก ไนเจล เดอ ยอง สไลด์เข้ามาบล็อกในขณะที่ เจอร์ราร์ด เข้ามาพัวพัน ราฟาเอล เบนิเตซ จึงต้องส่ง ยอสซี เบนายูน ลงมาทำเกมแทน
แม้จะเปลี่ยนตัวไปแล้ว 2 ราย แต่ ลิเวอร์พูล ยังครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 28 เจอร์ราร์ด มีโอกาสหวดแถวเส้นเขตโทษติดบล็อก โคโล ตูเร แล้วกระดอนตัว โจลีออน เลสคอตต์ มาให้กระทุ้งอีกครั้ง ทว่าหลุดข้างเสาแรกไปไกลพอสมควร 7 นาทีให้หลัง แมนฯ ซิตี ตอบโต้บ้างโดย เวย์น บริดจ์ เติมขึ้นมาทางซ้ายแล้วผ่านเข้ากลาง สตีเฟน ไอร์แลนด์ ข้ามหลอกให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ยิงไกลแต่ก็ไม่เข้าเป้า จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้เพียง 5 นาที หงส์แดงเป็นฝ่ายตีปีกขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดาวิด เอ็นก็อก โดน ปาโบล ซาบาเลตา เหนี่ยวทางกราบซ้ายแล้วได้ฟรีคิก เจอร์ราร์ด เปิดมาที่เสาแรก สเคอร์เทล โฉบตัดหน้า อเดบายอร์ แล้วถีบบอลด้วยเท้าซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย กระทั่งครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เรือใบสีฟ้าก็ปรับแท็กติกเน้นบุกเต็มตัวโดยส่ง คาร์ลอส เตเบซ ลงมาแทน แบร์รี
ถึงนาทีที่ 69 เรือใบสีฟ้าทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย บอลถูหเปิดเข้ามาตรงกลาง อเดบายอร์ ถอยหนีการประกบของ สเคอร์เทล แล้วขึ้นโขกกดลงพื้นหนีมือ เรนา เสียบมุม ก่อนที่อาคันตุกะจะแซงนำเป็น 2-1 ในนาทีที่ 76 เมื่อ ไรท์-ฟิลลิปส์ พลิกหนี คีร์เกียกอส ในเขตโทษแล้วตบมาหน้าประตูให้ ไอร์แลนด์ แปจ่อๆ ไม่เหลือ แม้ว่ากองกลางหัวใสจะยืนล้ำหน้า แต่ไลน์แมนไม่ยกธง
อย่างไรก็ตามเพียงนาทีเดียวให้หลัง หงส์แดงก็ตามเจ๊าเป็น 2-2 อย่างทันควันโดย เอ็นก็อก เดาะหลบกองหลังแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาหน้าประตู บอลแฉลบเล็กน้อยก่อนเลยมาถึง เบนายูน ที่ปาดหน้า ซาบาเลตา แล้วล้มตัวชาร์จเผาขนเข้าไป จากนั้นเกมเริ่มออกรสชาติมากขึ้น นาทีที่ 80 เตเบซ เก็บตกจากลูกที่ เอมิเลียโน อินซัว โหม่งสกัดไม่ดี แต่ก็ซัดไปเข้าซอง เรนา
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ลูคัส เลวา พลาดโอกาสพังประตูชัยให้เจ้าถิ่นอย่างน่าเจ็บใจ เมื่อพุ่งเข้าชาร์จลูกเปิดจากด้านขวาไม่โดน ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล จึงเสมอกับ แมนฯ ซิตี ไป 2-2 แบ่งทีมละ 1 คะแนน โดยหงส์แดงมีแต้มเพิ่มเป็น 20 คะแนน รั้งอันดับ 7 ตามเดิม เช่นเดียวกับเรือใบสีฟ้าที่อยู่ที่ 6 มี 21 คะแนน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฆเซ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, เดิร์ก เคาท์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, ไรอัน บาเบล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ดาวิด เอ็นก็อก
แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชย์ กิฟเวน, ปาโบล ซาบาเลตา, โคโล ตูเร, โจลีออน เลสคอตต์, เวย์น บริดจ์, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, เคร็ก เบลลามี, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (มาร์ติน สเคอร์เทล 1-0 นาที 50), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-1 นาที 69), (สตีเฟน ไอร์แลนด์ 1-2 นาที 76), (ยอสซี เบนายูน 2-2 นาที 77)
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ ฟูแลม 1-0 (ลี โบว์เยอร์ 1-0 นาที 16)
เบิร์นลีย์ เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1 (สตีเฟน คัลด์เวลล์ 1-0 นาที 9), (เอมิล เฮสกีย์ 1-1 นาที 86)
เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-0 (ฟลอร็องต์ มาลูดา 1-0 นาที 4), (มิชาเอล เอสเซียง 2-0 นาที 12), (มิชาเอล เอสเซียง 3-0 นาที 22), (โจ โคล 4-0 นาที 56)
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ อาร์เซนอล 1-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 71)
ฮัลล์ ซิตี เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 (กิเยร์โม ฟรังโก 0-1 นาที 5), (แจ็ค คอลลิสัน 0-2 นาที 11), (คาร์ลตัน โคล 1-2 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 27), (คามิล ซายัตเต 2-2 นาที 44), (จิมมี บุลลาร์ด 3-2 จุดโทษ นาที 45), (มานูเอล ดา คอสตา 3-3 นาที 69)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 1-0 นาที 35), (ไมเคิล คาร์ริค 2-0 นาที 67), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 3-0 นาที 76)