สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม ลงตัวสำรองซัดประตูชัยช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ เบอร์มิงแฮม 2-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-2 เบอร์มิงแฮม
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ จำเป็นต้องคว้าชัยชนะเพื่อทำคะแนนไล่จี้บรรดาทีมนำ สำหรับเกมนี้ไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เจ็บโคนขา แต่มีข่าวดีที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมมีชื่อในตัวสำรอง โดยตัวจริงที่ลงสนามในส่วนของเกมรุกใช้บริการของ ยอสซี เบนายูน และ เดิร์ก เคาท์ คอยปั้นเกมให้ ดาวิด เอ็นกอก ที่ยืนหน้าเป้า ทางฝั่ง เบอร์มิงแฮม อเล็กซ์ แม็คลิซ ขาดผู้เล่นสำคัญบางส่วน แต่ได้ สกอตต์ แดนน์ กลับมาค้ำหลังร่วมกับ โรเจอร์ จอห์นสัน นอกจากนี้ยังมี ลี โบว์เยอร์ คุมแดนกลาง ส่วนแดนหน้ามี คริสเตียน เบนิเตซ และ คาเมรอน เจอโรม
เริ่มครึ่งแรก เบอร์มิงแฮม ไม่หวั่นเจ้าถิ่นทำเกมสู้กับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไม่เป็นรอง แต่มาถึงนาที 10 "หงส์แดง" บุกขึ้นมาได้น่ากลัว จอห์นสัน ไหลบอลจากด้านข้างให้ เบนายูน หลุดไปถึงเส้นหลัง แต่ผ่านเข้ากลางย้อนหลังจน เคาท์ ชาร์จไม่ได้ นาทีถัดมาดาวยิงชาวดัตช์ไหลบอลให้ เอ็นกอก หลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงเบาเกินไปถูก ฮาร์ท รับสบาย
แต่ ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จในนาที 12 จากจังหวะที่ จอห์นสัน ลากลุยขึ้นมาทางขวาจนถึงเส้นหลัง ก่อนผ่านเข้ากลาง เอ็นกอก ยิงครั้งแรกถูก ฮาร์ท ป้องกันได้ บอลไหลมาเข้าทาง เคาท์ ตามซ้ำอีกครั้ง แต่ถูกนายด่านทีมเยือนเซฟอีก อย่างไรก็ตามเมื่อบอลมาถึง ริเอรา แล้วเปิดกลับมาให้ เอ็นกอก จัดการเอี้ยวตัวยิงเสยคานเข้าไปในที่สุด
เจ้าถิ่นยังเดินหน้าต่อ มาถึงนาที 23 จอห์นสัน ลุยขึ้นมาทางขวาอีกครั้ง ก่อนจะเปิดเข้ากลาง เอ็นกอก เกือบเข้าชาร์จทัน แต่บอลลึกไปเข้ามือ ฮาร์ท หวุดหวิด แต่อีก 2 นาทีต่อมา เบอร์มิงแฮม กลับมาตามตีเสมอ 1-1 แบบพลิกความคาดหมายจากลูกเซตพีซ แม็คฟาดเดน เปิดเข้าไปในเขตโทษเพื่อนร่วมทีมโหม่งต่อกัน 2 จังหวะ ก่อนที่สุดท้ายจะมาเข้าหัว เบนิเตซ โขกผ่านมือ เรนา ตุงตาข่าย
หลังจากนั้น "หงส์แดง" ยังมีเกมที่ดีกว่า เมื่อมาถึงนาที 32 ก็ได้โอกาสสวนกลับเร็วถึงหน้าเขตโทษผู้มาเยือน ก่อนที่จังหวะสุดท้าย เคาท์ จะไหลบอลให้ มาสเชราโน วิ่งมาตะบันเต็มข้อต้องให้ ฮาร์ท ปัดทิ้งปลายมือออกหลังไป ลูกเตะมุมต่อมา กองหลังทีมเยือนโหม่งเคลียร์ทิ้งไม่ขาด จนบอลมาเข้าทาง ลูคัส ได้ซัดในเขตโทษ แต่ถูกบล็อกออกไปในจังหวะสุดท้าย
เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย "ลูกโลก" เกือบได้ประตูนำเช่นกันจากจังหวะโต้กลับ เจอโรม แทงบอลทะลุช่องให้ เบนิเตซ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เรนา แต่นายด่านสเปนปิดมุมดีจนกองหน้าทีมเยือนซัดออกหลังไปเอง จากนั้นนาที 44 ริเอรา มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังหัวเข่าถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดย เจอร์ราร์ด ถูกส่งลงสนามแทน
เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ แต่เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบอร์มิงแฮม มาทำประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ สเคอร์เทล เตะบอลเปิดเกมขึ้นมา แต่ถูกกองหลังทีมเยือนโหม่งหนุนมาเข้าทาง เจอโรม เบียดเอาชนะ มาสเชราโน ก่อนสับไกยิงกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงข้ามมือ เรนา ที่ออกมาไกลจากประตูเข้าตุงตาข่ายอย่างสวยงาม จากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลังผ่านมา 3 นาที ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน เมื่อ เจอร์ราร์ด ครองบอลอยู่บริเวณหน้าเขตโทษทีมเยือน ก่อนจะไหลมาให้ ลูคัส ซัดไกลระยะ 20 หลา แต่บอลพุ่งตรงตัว ฮาร์ท รับเข้าซอง หลังจากนั้นนาที 51 เบนายูน ลงตะบันไกลจากนอกเขตโทษเช่นกัน แต่หลุดโคนเสาออกไปอีก
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงยังเป็นเจ้าบ้านที่บุกกดดันใส่อย่างหนัก มาถึงนาที 63 เกือบจะทำประตูตีเสมอได้ เมื่อ จอห์นสัน เลี้ยงลุยขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลาง เจอร์ราร์ด โถมมาโหม่งเต็มๆ แต่โชคร้ายบอลพุ่งชนเสาออกหลังไป
แต่ในที่สุดเมื่อถึงนาที 67 จากจังหวะที่ เอ็นกอก เลี้ยงบอลฝ่าแนวรับทีมเยือนจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะถูก ลี คาร์สลีย์ รวบล้มลง กรรมการเป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันที แม้จากภาพช้าเห็นว่าดาวยิงชาวฝรั่งเศสไม่ถูกเสียบสกัดใส่ก็ตาม โดย เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดทำให้สกอร์เท่ากัน 2-2
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการวางบอลยาวขึ้นมาจากแดนตัวเองจนถึงเขตโทษคู่แข่ง เคาท์ โหม่งบอลย้อนกลับมาให้ เบนายูน ซัดเต็มแรงในเขตโทษ แต่ ฮาร์ท ปิดมุมดีป้องกันไว้ได้ หลังจากนั้นนาที 80 เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจะอัดบอลแรงเข้ากลาง เอ็นกอก เข้าชาร์จ แต่ออกเสาแรกไป โดยหลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ จบ 90 นาทีจึงแบ่งกันทีมละคะแนน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, ดาเนียล อักเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เกล็น จอห์นสัน, ลูคัส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, อัลเบิร์ต ริเอรา, ยอสซี เบนายูน, ดาวิด เอ็นกอก, เดิร์ก เคาท์
เบอร์มิงแฮม : โจ ฮาร์ท, สกอตต์ แดนน์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์, สตีเฟน คาร์, ลี โบวเยอร์, ตีมู ตานิโอ, เจมส์ แม็คฟาดเดน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสเตียน เบนิเตซ, คาเมรอน เจอโรม
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-2 เบอร์มิงแฮม
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ จำเป็นต้องคว้าชัยชนะเพื่อทำคะแนนไล่จี้บรรดาทีมนำ สำหรับเกมนี้ไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เจ็บโคนขา แต่มีข่าวดีที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมมีชื่อในตัวสำรอง โดยตัวจริงที่ลงสนามในส่วนของเกมรุกใช้บริการของ ยอสซี เบนายูน และ เดิร์ก เคาท์ คอยปั้นเกมให้ ดาวิด เอ็นกอก ที่ยืนหน้าเป้า ทางฝั่ง เบอร์มิงแฮม อเล็กซ์ แม็คลิซ ขาดผู้เล่นสำคัญบางส่วน แต่ได้ สกอตต์ แดนน์ กลับมาค้ำหลังร่วมกับ โรเจอร์ จอห์นสัน นอกจากนี้ยังมี ลี โบว์เยอร์ คุมแดนกลาง ส่วนแดนหน้ามี คริสเตียน เบนิเตซ และ คาเมรอน เจอโรม
เริ่มครึ่งแรก เบอร์มิงแฮม ไม่หวั่นเจ้าถิ่นทำเกมสู้กับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไม่เป็นรอง แต่มาถึงนาที 10 "หงส์แดง" บุกขึ้นมาได้น่ากลัว จอห์นสัน ไหลบอลจากด้านข้างให้ เบนายูน หลุดไปถึงเส้นหลัง แต่ผ่านเข้ากลางย้อนหลังจน เคาท์ ชาร์จไม่ได้ นาทีถัดมาดาวยิงชาวดัตช์ไหลบอลให้ เอ็นกอก หลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงเบาเกินไปถูก ฮาร์ท รับสบาย
แต่ ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จในนาที 12 จากจังหวะที่ จอห์นสัน ลากลุยขึ้นมาทางขวาจนถึงเส้นหลัง ก่อนผ่านเข้ากลาง เอ็นกอก ยิงครั้งแรกถูก ฮาร์ท ป้องกันได้ บอลไหลมาเข้าทาง เคาท์ ตามซ้ำอีกครั้ง แต่ถูกนายด่านทีมเยือนเซฟอีก อย่างไรก็ตามเมื่อบอลมาถึง ริเอรา แล้วเปิดกลับมาให้ เอ็นกอก จัดการเอี้ยวตัวยิงเสยคานเข้าไปในที่สุด
เจ้าถิ่นยังเดินหน้าต่อ มาถึงนาที 23 จอห์นสัน ลุยขึ้นมาทางขวาอีกครั้ง ก่อนจะเปิดเข้ากลาง เอ็นกอก เกือบเข้าชาร์จทัน แต่บอลลึกไปเข้ามือ ฮาร์ท หวุดหวิด แต่อีก 2 นาทีต่อมา เบอร์มิงแฮม กลับมาตามตีเสมอ 1-1 แบบพลิกความคาดหมายจากลูกเซตพีซ แม็คฟาดเดน เปิดเข้าไปในเขตโทษเพื่อนร่วมทีมโหม่งต่อกัน 2 จังหวะ ก่อนที่สุดท้ายจะมาเข้าหัว เบนิเตซ โขกผ่านมือ เรนา ตุงตาข่าย
หลังจากนั้น "หงส์แดง" ยังมีเกมที่ดีกว่า เมื่อมาถึงนาที 32 ก็ได้โอกาสสวนกลับเร็วถึงหน้าเขตโทษผู้มาเยือน ก่อนที่จังหวะสุดท้าย เคาท์ จะไหลบอลให้ มาสเชราโน วิ่งมาตะบันเต็มข้อต้องให้ ฮาร์ท ปัดทิ้งปลายมือออกหลังไป ลูกเตะมุมต่อมา กองหลังทีมเยือนโหม่งเคลียร์ทิ้งไม่ขาด จนบอลมาเข้าทาง ลูคัส ได้ซัดในเขตโทษ แต่ถูกบล็อกออกไปในจังหวะสุดท้าย
เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย "ลูกโลก" เกือบได้ประตูนำเช่นกันจากจังหวะโต้กลับ เจอโรม แทงบอลทะลุช่องให้ เบนิเตซ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เรนา แต่นายด่านสเปนปิดมุมดีจนกองหน้าทีมเยือนซัดออกหลังไปเอง จากนั้นนาที 44 ริเอรา มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังหัวเข่าถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดย เจอร์ราร์ด ถูกส่งลงสนามแทน
เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ แต่เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบอร์มิงแฮม มาทำประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ สเคอร์เทล เตะบอลเปิดเกมขึ้นมา แต่ถูกกองหลังทีมเยือนโหม่งหนุนมาเข้าทาง เจอโรม เบียดเอาชนะ มาสเชราโน ก่อนสับไกยิงกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงข้ามมือ เรนา ที่ออกมาไกลจากประตูเข้าตุงตาข่ายอย่างสวยงาม จากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลังผ่านมา 3 นาที ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน เมื่อ เจอร์ราร์ด ครองบอลอยู่บริเวณหน้าเขตโทษทีมเยือน ก่อนจะไหลมาให้ ลูคัส ซัดไกลระยะ 20 หลา แต่บอลพุ่งตรงตัว ฮาร์ท รับเข้าซอง หลังจากนั้นนาที 51 เบนายูน ลงตะบันไกลจากนอกเขตโทษเช่นกัน แต่หลุดโคนเสาออกไปอีก
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงยังเป็นเจ้าบ้านที่บุกกดดันใส่อย่างหนัก มาถึงนาที 63 เกือบจะทำประตูตีเสมอได้ เมื่อ จอห์นสัน เลี้ยงลุยขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลาง เจอร์ราร์ด โถมมาโหม่งเต็มๆ แต่โชคร้ายบอลพุ่งชนเสาออกหลังไป
แต่ในที่สุดเมื่อถึงนาที 67 จากจังหวะที่ เอ็นกอก เลี้ยงบอลฝ่าแนวรับทีมเยือนจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะถูก ลี คาร์สลีย์ รวบล้มลง กรรมการเป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันที แม้จากภาพช้าเห็นว่าดาวยิงชาวฝรั่งเศสไม่ถูกเสียบสกัดใส่ก็ตาม โดย เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดทำให้สกอร์เท่ากัน 2-2
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการวางบอลยาวขึ้นมาจากแดนตัวเองจนถึงเขตโทษคู่แข่ง เคาท์ โหม่งบอลย้อนกลับมาให้ เบนายูน ซัดเต็มแรงในเขตโทษ แต่ ฮาร์ท ปิดมุมดีป้องกันไว้ได้ หลังจากนั้นนาที 80 เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจะอัดบอลแรงเข้ากลาง เอ็นกอก เข้าชาร์จ แต่ออกเสาแรกไป โดยหลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ จบ 90 นาทีจึงแบ่งกันทีมละคะแนน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, ดาเนียล อักเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เกล็น จอห์นสัน, ลูคัส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, อัลเบิร์ต ริเอรา, ยอสซี เบนายูน, ดาวิด เอ็นกอก, เดิร์ก เคาท์
เบอร์มิงแฮม : โจ ฮาร์ท, สกอตต์ แดนน์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์, สตีเฟน คาร์, ลี โบวเยอร์, ตีมู ตานิโอ, เจมส์ แม็คฟาดเดน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสเตียน เบนิเตซ, คาเมรอน เจอโรม
