ASTV ผู้จัดการรายวัน - "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ 5 สมัยถึงคราวหลังพิงฝา ต้องบุกรัง สต๊าด เดอ แชร์กลองด์ ของ โอลิมปิก ลียง เพื่อทำศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัด 4 คืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้ข้อแม้ห้ามแพ้เด็ดขาดเพื่อต่อลมหายใจลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์ต่อไป
ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงฟอร์มตกอย่างหนักแพ้ 6 จาก 7 นัด หลังสุดรวมทุกรายการที่ลงสนาม ทำให้สถานการณ์ในศึก แชมเปียนส์ ลีก ล่อแหลมต่อการตกรอบแรก เพราะมีเพียงแค่ 3 แต้มจาก 3 นัด ตามหลัง ลียง ที่มี 9 แต้มและ ฟิออเรนตินา 6 แต้ม หาก "หงส์แดง" ไม่อยากร่วงรอบแบ่งกลุ่มเหมือนฤดูกาล 2002-03 จะต้องชนะให้ได้ในเกมนี้
อย่างไรก็ตาม ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเก้าอี้ร้อนของ ลิเวอร์พูล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บระนาวไม่ว่าจะเป็น สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, มาร์ติน เคลลี, มาร์ติน สเคอร์เทล 4 คนนี้หมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน ส่วน เกล็น จอห์นสัน, เดเนียล แอกเกอร์, ดาวิด เอ็นก็อก และ ฟาบิโอ ออเรลิโอ ต้องเช็กความฟิตจนนาทีสุดท้าย
ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงคนสำคัญที่เพิ่งยิงประตูตีเสมอก่อนจะถูกเปลี่ยนออกในเกมที่เหลือ 9 คนและแพ้ ฟูแลม 1-3 แม้จะมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา แต่ว่า เบนิเตซ ไม่มีทางเลือกต้องเข็นลงสนาม เพราะไม่มี เจอร์ราร์ด ฮีโร่เมื่อฤดูกาล 2004-05 ที่ยิงประตูนัดสุดท้ายเหนือ โอลิมเปียกอส 3-1 พาทีมเข้ารอบและคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย
แต่เกมนี้ เบนิเตซ มีทีเด็ดอยู่ที่ม้านั่งสำรองก็คือ อัลแบร์โต อาควิลานี กองกลางทีมชาติอิตาลี ที่ซื้อมาเมื่อช่วงซัมเมอร์และยังไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแม้แต่นัดเดียว "อาควิลานี ลงซ้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ยังดูไม่ฟิตเต็มร้อย ก็หวังว่าในช่วง 2 วันจากนี้เขาจะดีขึ้น ส่วน เจอร์ราร์ด ไม่ได้เดินทางไปด้วยในเกมนี้ แม้อาการจะดีขึ้นแต่ต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน"
แม้จะมีกระแสให้ตะเพิด เบนิเตซ ออกจากตำแหน่งจากผลงานแพ้ 5 จาก 11 นัดในลีกโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเลือนลาง, ตกรอบ คาร์ลิง คัพ และเสี่ยงต่อการร่วงถ้วยยุโรป แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เดวิด แฟร์คลัฟ และ ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตนักเตะ มองว่ายังเร็วไปที่จะไล่กุนซือชาวสแปนิช ออกจากตำแหน่ง เพราะทีมมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าและเชื่อว่าจะผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้ในเร็ววันนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ยกระดับทีมขึ้นทุกฤดูกาล
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 นักธุรกิจเจ้าของทีม ลิเวอร์พูล แทบไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือมีข่าวว่าจะปลด เบนิเตซ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าต้องเสียเงินชดเชยก้อนโตจากการที่เพิ่งสะบัดน้ำหมึกต่อสัญญา 4 ปี ซึ่งเกมกับ ลียง จะเป็นการตัดสินอนาคตของ "ราฟา" นอกจากนี้ยังหมายถึงเงินอีก 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 550 ล้านบาท) ในการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์ต่อไป โดยต้องผ่านเกมนี้ไปให้ได้ก่อนสถานการณ์ของทีมน่าจะดีขึ้น เพราะจากนี้โปรแกรมจะไม่หนักแล้ว
ส่วนเจ้าถิ่น ลียง คว้าชัยมา 3 นัดรวด 2 สัปดาห์ก่อนบุกไปพลิกชนะ ลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ 2-1 หากชนะอีกจะการันตีเข้ารอบน็อกเอาท์ทันที อย่างไรก็ตามฟอร์มใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส สุดกระท่อนกระแท่นเพิ่งชนะ แซงต์ เอเตียน 1-0 แต่ก่อนหน้านั้นแพ้มา 2 นัดรวดต่อ โซโชซ์ และ นีซ ทำให้ตามหลังจ่าฝูง บอร์กโดซ์ 2 แต้ม
ก่อนเกม โคลด ปูแอล นายใหญ่ ลียง ออกมาเตือนลูกทีมห้ามประมาทเด็ดขาด "ลิเวอร์พูล ก็คือ ลิเวอร์พูล ภายใต้สถานการณ์ที่บีบคั้นและยากลำบาก พวกเขามักจะแสดงความเป็นสุดยอดทีมออกมาได้เสมอและตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้ว ดังนั้นทุกคนห้ามประมาท โดยเราในฐานะเจ้าถิ่นจะเดินเกมรุกใส่ตามที่ถนัดแน่นอน"
ปูแอล ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ แนวรุกจะนำโดย ลิซานโดร โลเปซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา และ ซิดนีย์ โกวู ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส 2 ตัวป่วนจากนัดแรก ส่วนแนวรับ เฌเรมี ตูลาล็อง กองกลางตัวรับทีมชาติฝรั่งเศส อาจจะต้องถอยไปรับบทเซนเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น เนื่องจาก ฌอง-อแล็ง บูมซง ยังหมดสิทธิ์ลงสนาม เพราะอาการบาดเจ็บต้นขา