ลอนดอนดาร์บีฯ “ปืน” รอขย้ำ “ไก่” / เซียนไก๋

ความมันของศึก “วันแดงเดือด” เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้มีเกม ดาร์บีแมตช์ แห่งศักดิ์ศรีมาให้ชมอีกเป็นการเจอกันของ 2 ทีมที่สะดุดทำแต้มหลุดมือในนัดล่าสุดด้วยกันทั้งคู่ อาร์เซนอล จะเปิด เอมิเรตส์ สเตเดียม รับมือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในเวลา 19.45 น.วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ พร้อมการฟันธงจาก “เซียนไก๋” จากทั้งหมด 10 คู่ที่โม่แข้งกัน

อาร์เซนอล พบ สเปอร์ส เวลา 19.45 น.

บรรดาเกจิหลายสำนักพร้อมใจกันออกโรงเตือน เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าประมาท อาร์เซนอล ที่อาจจะแอบพุ่งขึ้นมาแย่งแชมป์ พรีเมียร์ชิป แต่ทว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ปืนโต” กลับแสดงจุดอ่อนในเรื่องประสบการณ์ และสมาธิของนักเตะดาวรุ่งให้เห็นอีกครั้ง เพราะนำห่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายกลับทำได้แค่เสมอกัน 2-2

อาร์เซนอล จึงต้องแก้ตัวให้ได้ในการลงเตะ ลอนดอน ดาร์บี แมตช์ 2 นัดติดต่อกันด้วยการต้อนรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว "ไก่เดือยทอง" ทำผลงานสุดไฉไลในการเจอกับ “บิ๊กโฟร์” ด้วยการยิง 2 ประตูท้ายเกมบุกมาตีเสมอ 4-4 ถึง เอมิเรตส์ สเตเดียม ก่อนจะกลับไปเปิด ไวท์ ฮาร์ท เลน เสมอกันไป 0-0

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล มีนักเตะบาดเจ็บระนาว ไม่ว่าจะเป็น ธีโอ วัลค็อตต์, เดนิลสัน และ โทมัส โรซิคกี หมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน แกนหลักอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี, เชส ฟาเบรกาส และ อังเดร อาร์ชาวิน ยังอยู่กันครบ ปัญหาของ “ปืนโต” ไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้เล่น เพราะเป็นทีมที่เน้นระบบและทีมเวิร์ก แต่อยู่ที่การยืนระยะมากกว่า

ทางฝั่ง สเปอร์ส หวังสูงในฤดูกาลนี้ด้วยการคว้าโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อย่างไรก็ตามเกมล่าสุดที่บุกเป็นบ้าเป็นหลัง ก่อนจะพลิกแพ้ สโต๊ก ซิตี คาถิ่น 0-1 น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่างว่ายังมีอีกหลายจุดที่จะต้องแก้ไข ที่เห็นได้ชัดก็คือการต้องรับมือกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ และการใช้เงินซื้อผู้เล่นใหม่ก็ไม่ใช่ทางออกที่คู่ควรนัก

สเปอร์ส เพิ่งลงเตะ คาร์ลิง คัพ รอบ 4 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยการเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 แต่เกมกับ อาร์เซนอล จะต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของ เล็ดลีย์ คิง และ โจนาธาน วูดเกต ว่าจะลงค้ำแนวรับได้หรือไม่ น่าจะมีตัวหลักเป็น เซบาสเตียน บาสซง ส่วนในแนวรุก ลูกา โมดริช จอมทัพชาวโครแอต ลงสนามไม่ได้แน่นอน เนื่องจากขาหัก

นอกจากนี้ แดนหน้า สเปอร์ส จะยังไม่มี เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงตัวจี๊ดที่ต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้าย ทำให้ศักยภาพการจบสกอร์ลดลงไปพอสมควร ทำให้คู่หน้าจะเป็นบทบาทของ ร็อบบี คีน ที่เพิ่งยิงในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน รวมถึง ปีเตอร์ เคราช์ หอกก้านยาวที่ได้พักในเกมดังกล่าว

ความน่าจะเป็นของเกม - แม้ว่าจะเป็นเกม ดาร์บี แมตช์ ที่ว่ากันว่าสูสีและอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ว่า อาร์เซนอล เล่นในรังฤดูกาลนี้สุดแข็งแกร่งชนะมา 4 นัดรวด ผิดกับ สเปอร์ส ที่มาเยือนในสภาพพิการแนวรุกขาด เดโฟ เรียกว่า ไปไม่เป็น แถม เลนนอน เริ่มหมดมุขในการปั้นเกม เจ้าถิ่นมีการเข้าทำหลากหลายน่าจะกำชัย 2-1

โบลตัน พบ เชลซี เวลา 22.00 น.
เจ้าถิ่นผลงานดีมาก แกรี เม็กสัน จับนักเตะมาผสมผสานได้อย่างตัว ฤดูกาลนี้เจอกับ ลิเวอร์พูล และ แมนฯยูไนเต็ด แพ้ไปอย่างหวุดหวิด แต่นัดนี้ต้องเจอกับ เชลซี ที่ถือว่าแข็งแกร่ง ทำให้ลูกหนักกับลูกโด่งของ โบลตัน ไม่น่าจะทำงาน ทีมเยือนที่มีตัวปั้นเกมรุกหลากหลายกว่าทั้ง โจ โคล, เดโก และ ฟลอร็องต์ มาลูดา จะบุกมาเอาชนะได้
เชลซี บุกชนะ 0-2

เบิร์นลีย์ พบ ฮัลล์ เวลา 22.00น.
เบิร์นลีย์ เพิ่งจะเสียสถิติชนะรวดในบ้านต่อ วีแกน 1-3 ฟอร์มระยะหลังเริ่มมียวบเสียประตูมากที่สุดใน พรีเมียร์ชิป เกมนี้ต้องรับการมาเยือนของ ฮัลล์ ที่ยังไม่ชนะนอกบ้านเลย นักเตะแต่ละคนเล่นกันสะเปะสะปะ ดูแล้วสูสีมาก แต่เจ้าถิ่นดูดีกว่าเพียงแค่เล่นในบ้าน ส่วนทีมเยือนมี สตีเฟน ฮันท์ และ โจวานนี อาจจะมีลุ้นแบ่งแต้มกลับบ้านได้
เจ๊า 1-1

เอฟเวอร์ตัน พบ วิลลา เวลา 22.00 น.
ฤดูกาลนี้มาตรฐานของ เอฟเวอร์ตัน ตกลงไปมาก ส่วนหนึ่งเพราะนักเตะบาดเจ็บระนาวกรำศึกหนักในถ้วย ยูโรปา ลีก เกมลีกเสมอในบ้านมา 2 นัดรวด แถมนัดล่าสุดบุกไปพ่าย โบลตัน ทางด้าน วิลลา ฟอร์มยังไม่แน่นอนชนะ เชลซี ดันมาเสมอ วูล์ฟส์ ตัวปั้นเกมอย่าง แอชลีย์ ยัง และ เจมส์ มิลเนอร์ ฟอร์มตก จึงมีโอกาสเสมอกันไปสูงมาก
เจ๊า 1-1

ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล เวลา 22.00 น.
ฟอร์มดีมาด้วยกันทั้งคู่ ฟูแลม บดจนไล่ตีเสมอ แมนฯซิตี อย่างสุดมัน 2-2 ส่วน ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯยู 2-0 หลังแพ้มา 4 นัดรวด อย่างไรก็ตาม ปีนี้ “เจ้าสัวน้อย” เจอกับทีมใหญ่มักจะสู้ไม่ค่อยได้ ต้องมาชนกับ “หงส์แดง” ในช่วงที่กำลังคึกเช่นนี้น่าจะรอดยอด สุดท้ายแล้วทีมเยือนจะคว้าชัย
หงส์บุกชนะ 0-2

ปอร์ทสมัธ พบ วีแกน เวลา 22.00 น.
บ๊วยของตารางเล่นในบ้านทำสถิติแพ้มา 5 นัดรวด เกมรุกของ ปอร์ทสมัธ ถือว่าน่ากลัวใช้ได้ แต่ว่าที่ผ่านมาต่างคนต่างเล่นมากไปหน่อยการประสานงานไม่ค่อยดี กองหน้าจบสกอร์ไม่ค่อยได้ ทำให้เกมนี้ วีแกน มาเยือนถือว่าไม่ง่ายเหมือนกัน “ปอมปีย์” จึงมีโอกาสที่จะชนะนัดแรกในบ้าน เพราะเกมรับทีมเยือนยังน่าเป็นห่วง
ปอมปีย์ เฉือน 2-1

สโต๊ก พบ วูล์ฟส์ เวลา 22.00น.
ลูกทีมของ โทนี พูลิส พิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริง จากผลงานล่าสุดบุกไปเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 แพ้ 3 นัดในปีนี้เป็นการเสียท่า “บิ๊กโฟร์” ล้วนๆ เกมนี้ดูเหนือกว่าทุกกระบวนท่า “ช่างปั้นหม้อ” จึงน่าจะเอาชนะ วูล์ฟส์ แต่อาจจะไม่ขาด เนื่องจากเจ้าถิ่นล้าต้องลงเล่น คาร์ลิง คัพ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
สโต๊ก ชนะ 2-0

ซันเดอร์แลนด์ พบ เวสต์แฮม เวลา 22.00น.
ซันเดอร์แลนด์ บุกไปแพ้ เบอร์มิงแฮม 1-2 เพราะสไตล์เปิดเกมรุกแหลกของ สตีฟ บรูซ ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงกันเน้นสาดบอลให้กับ ดาร์เรน เบนท์ และ เคลวีน โจนส์ จึงเสมอไปแค่นัดเดียว อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม ที่เพิ่งบดเสมอกับ อาร์เซนอล มีแนวรับที่เล่นลูกกลางอากาศดี รวมถึงลูกหนักที่อาจจะบดกับเจ้าบ้านได้อย่างสูสี
เสมอ 1-1

แมนฯยูไนเต็ด พบ แบล็กเบิร์น เวลา 00.30 น.
แพ้มาในวันแดงเดือด แมนฯยู จำต้องเรียกฟอร์มเก่งคืนมาให้ได้ในนัดนี้ โชคร้ายจึงมาตกอยู่กับ แบล็กเบิร์น ที่เล่นนอกบ้านแพ้มา 4 นัดรวดล่าสุดถูก เชลซี ถลุงยับ 0-5 แถมนักเตะยังติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ คาดว่า จะเป็น เดวิด ดันน์ และ คริสโตเฟอร์ แซมบ้า “ผีแดง” ที่ไม่ค่อยดุดันเหมือนเดิมคงจะค่อยๆ บดและเอาชนะไปได้
ผี ชนะ 2-0

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2552

เบอร์มิงแฮม พบ แมนฯซิตี เวลา 23.00น.
เบอร์มิงแฮม เล่นกันอย่างทุ่มเทจนเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 แต่ทว่าฟอร์มก็ยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ส่วน แมนฯซิตี หลุดไปดื้อๆ จนเสมอ 3 นัดรวด เกมล่าสุดนำ 2-0 ถูก ฟูแลม บดจนเสมอ อย่างไรก็ตาม “เรือใบสีฟ้า” ยังคงเหนือกว่าในเรื่องความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุก ส่วนแนวรับก็แน่นอนกว่าเจ้าถิ่นน่าจะบุกชนะได้
เรือ ฉิ่ว 1-2