หลบหน่อย "ตอร์เรส" มา "ผี" ใส "เชลซี" หืดจับ / เซียนไก๋

"จ่าฝูง" เชลซี เริ่มออกอาการสั่นให้เห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่หมดลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป อย่างไรก็ตามต้องรีบสลัดอาการเมาขี้ตาคืนฟอร์มเก่งโดยเร็วที่สุด เริ่มตั้งแต่เกม "บิ๊กแมตช์" วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมนี้ที่จะต้องเปิด แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ อาร์เซนอล

ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซนอล เวลา 23.00น.

เวลานี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 7 ตามหลัง เชลซี 12 แต้ม หลังผ่านพ้นไป 15 นัด โอกาสลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ก็ใช่ว่าหมดหวัง แต่เมื่อดูจากฟอร์มล่าสุดที่เสมอกับ แบล็คเบิร์น 0-0 ก็ต้องยอมรับว่าหนักใจสุดๆ อุตส่าห์คว้าชัยในเกมสำคัญเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน แต่พอเจอทีมเล็กดันตบเด็กไม่สำเร็จ

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ไม่บอบช้ำมากนัก หลังเล่นแบบไร้ความกดดันในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย หลังคว้าอันดับ 3 ต้องลดตัวไปลุยศึก ยูโรปา ลีก แน่นอนแล้ว แถมเกมกับ อาร์เซนอล อาจจะได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงที่ซัดไปแล้ว 11 ประตูออกสตาร์ทเป็นตัวจริง หลังหายจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา

ส่วน อาร์เซนอล เข้ารอบน็อกเอาท์ถ้วยยุโรปไปแล้ว ทำให้เกมเมื่อกลางสัปดาห์เล่นกันแบบถนอมตัว ส่วนในลีกรั้งอันดับ 3 ตามหลัง "จ่าฝูง" 8 แต้ม แต่ว่าแข่งน้อยกว่า 1 นัด อย่างไรก็ตามปีนี้ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ มีปัญหาในการลงเล่นเกมใหญ่แพ้ให้กับทั้ง เชลซี และ แมนฯยูไนเต็ด และเรื่องนักเตะบาดเจ็บเริ่มกลับมารุมเร้าอีกครั้ง

นักเตะ อาร์เซนอล ที่ลงเล่นไม่ได้แน่นอนก็มี โรบิน ฟาน เพอร์ซี, นิคลาส เบนด์ทเนอร์ และ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา ทำให้แนวรุกต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ 2 คีย์แมนอย่าง เชส ฟาเบรกาส จอมทัพในแดนกลาง และ อังเดร อาร์ชาวิน ตัวทะลุทะลวงจากแถวสองที่เหมายิง 4 ประตูในเกมที่เสมอกัน 4-4 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมใหญ่ค่อนข้างดีในฤดูกาลนี้ แถมเป็นการเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ที่คงไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ ซึ่งก็ไม่แพ้คาถิ่นมาแล้ว 5 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมยังได้ ตอร์เรส กลับมาล่าตาข่ายอีกด้วย ต่างกับ อาร์เซนอล ที่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บระนาว เจ้าถิ่นดูดีกว่าเห็นๆ งานนี้มีโอกาสสูงที่จะกำชัยโชว์สาวก "เดอะ ค็อป" มีสูงแน่นอน
หงส์ชนะ 2-1

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2552

สโต๊ก พบ วีแกน เวลา 19.45น.
ระยะหลังฟอร์มของ สโต๊ก ชักแผ่วจนอันดับรูดมาอยู่กลางตาราง ส่วนหนึ่งเพราะบรรดากองหน้าอย่าง เจมส์ บีทตี, ตูนกาย ซานลี และ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ เริ่มฝืด เปลี่ยนหน้ากันลงสนามก็ยังไม่กระเตื้อง อย่างไรก็ตามเล่นในรัง บริทานเนีย ยังดูดีกว่าผู้มาเยือนในเกมนี้อย่าง วีแกน อยู่หลายขุม เจ้าถิ่นจึงน่าจะกำชัยไปได้
สโต๊กชนะ 2-0

เบอร์มิงแฮม พบ เวสต์ แฮม เวลา 22.00น.
อเล็กซ์ แม็คลีช ได้ทีมที่ลงตัวแล้ว ทำให้ เบอร์มิงแฮม พุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 8 จากผลงานชนะ 3 นัดรวดและ 6 นัดหลังสุดไม่พบกับความพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามสไตล์การเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียของ เวสต์ แฮม ยามเจอกับทีมระดับใกล้เคียงกันน่ากลัวมาก จึงมีลุ้นบุกมาเก็บ 1 แต้มจากถิ่น เซนต์ แอนดรูว์
เสมอ 1-1

โบลตัน พบ แมนฯซิตี เวลา 22.00น.
โบลตัน ผลงานย่ำแย่รูดมารั้งอันดับรองบ๊วย ไม่ชนะมา 5 นัดรวด แถมเป็นทีมที่เล่นในรังได้แย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ เกมนี้กระอักแน่เพราะต้องเจอกับ แมนฯซิตี ที่กำลังมั่นใจล้มได้ทั้ง อาร์เซนอล และ เชลซี แนวรุกหลากหลายฟอร์มของ คาร์ลอส เตเบซ ก็กำลังมา ดังนั้นไม่ต้องคิดมาก "เรือใบสีฟ้า" มีโอกาสบุกมาคว้าชัย
เรือฉลุย 1-3

เบิร์นลีย์ พบ ฟูแลม เวลา 22.00น.
"น้องใหม่" ผลงานชักรูดหลังจากไม่ชนะมา 4 นัดติดต่อกัน แต่ว่าทรงเกมของ เบิร์นลีย์ ยังถือว่าใช้ได้นัดบุกพ่าย ปอร์ทสมัธ ขาดแค่จังหวะยิงประตูเท่านั้น เกมนี้ได้กลับมาเล่นในรัง เทิร์ฟ มูร์ มีลุ้นคว้าชัยเหนือ ฟูแลม ที่มีปัญหาการเล่นนอกบ้านแถมยิงประตูได้น้อยนิด
เจ้าถิ่นชนะ 2-1

เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 22.00น.
บุกไปพลิกพ่าย แมนฯซิตี แบบเหลือเชื่อในเกมล่าสุด งานนี้ เชลซี ได้กลับมาเล่นในรังที่มีสถิติสุดรูดชนะรวดร้อยเปอร์เซนต์ แต่ทว่าคู่ต่อสู้เป็นของแสลงอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ฟอร์มฤดูกาลนี้ผีเข้าผีออก กัดฟันยืนข้าง "ท็อฟฟี" อาจจะได้ลุ้นมีแต้ม เพราะนักเตะมีประสบการณ์และมักเล่นเกมใหญ่ได้ดี
เสมอ 1-1

ฮัลล์ พบ แบล็คเบิร์น เวลา 22.00น.
ฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาก่อนที่จะมาแพ้ วิลลา แบบเละเทะในเกมล่าสุด แถม ฮัลล์ ยังต้องสังเวย จิมมี บุลลาร์ด จอมทัพที่มีอาการบาดเจ็บ แต่เกมนี้เล่นในถิ่น คิงส์ตัน ยังน่ามีลุ้นมากกว่า แบล็คเบิร์น ที่เล่นนอกบ้านไม่เอาอ่าว แถมกองหน้ายังไม่คมพอ นัดนี้ความฮึกเหิมของ "เสือน้อย" น่าจะกำลังชัยได้สำเร็จ
เสือขย้ำ 1-0

ซันเดอร์แลนด์ พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 22.00น.
สะดุดแพ้มา 2 นัดรวด แต่ ซันเดอร์แลนด์ เล่นในถิ่น สเตเดียม ออฟ ไลท์ ยังคงแข็งแกร่งเคยคว่ำ อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล มาแล้ว แนวรุกอย่าง เคลวีน โจนส์ และ ดาร์เรน เบนท์ แข็งแกร่งพอจะเจาะแนวรับของ ปอร์ทสมัธ บ๊วยของตารางที่มีปัญหาการเล่นนอกบ้าน เจ้าถึงจึงน่าจะคว้า 3 แต้ม
แมวตะปบ 2-0

สเปอร์ส พบ วูล์ฟส์ เวลา 22.00น.
สเปอร์ส วืดเก็บชัยเกมกับ เอฟเวอร์ตัน อย่างน่าเขกกะโหลก นัดนี้ได้กลับมาเล่นในรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน อีกครั้งมีหวังขย้ำ วูล์ฟส์ กระจุยกระจาย เนื่องจากมาตรฐานของทีมและนักเตะต่างกันมาก มองมุมไหน "หมาป่าตัวน้อย" ก็ต้านยาก สกอร์น่าจะ 3 เม็ดอย่างต่ำ
ไก่จิก 4-0

แมนฯ ยูไนเต็ด พบ วิลลา เวลา 00.30น.
ฤดูกาลนี้ วิลลา ทำผลงานยอดเยี่ยมยามเจอกับทีมใหญ่ เช่นเดียวกับการมาเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในแต่ละปีที่ผ่านๆ มา แม้จะเล่นดี แต่บอลแพ้ทางมีอันต้องแพ้กลับไปทุกครั้ง แมนฯยู ระยะหลังเน้นเล่นแบบรัดกุม แม้จะมีปัญหาแนวรับได้รับบาดเจ็บระนาว แต่ก็น่าใช้ความเก๋าเบียดเอาชนะไปได้
ผีชนะ 2-0