“ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เหลือ 10 คนทำให้โดน “ช่างปั้นหม้อ” สโตก ซิตี บุกเอาชนะ 1-0 ขณะที่ เบิร์นลีย์ เสียทีคาถิ่นนัดแรกในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังพ่าย วีแกน แอธเลติก 1-3
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
แฮร์รี เรดแนปป์ หวังนำทัพ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส คว้าชัยเพื่อทาบจ่าฝูงชั่วคราว แต่นัดนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาเมื่อ เจอร์เมน เดโฟ ติดโทษแบน ปีเตอร์ เคราช์ ได้โอกาสล่าสกอร์ร่วมกับ ร็อบบี คีน แดนหลังมีข่าวดี โจนาธาน วูดเกต หายเจ็บกลับมาแล้ว ด้าน โทนี พูลิส พาทีม “ช่างปั้นหม้อ” สโตก มาเยือนกรุงลอนดอนโดยให้ สตีฟ ซิมอนเซน เฝ้าเสาแทน โธมัส โซเรนเซน ที่ป่วย แนวรับขาด โรเบิร์ต ฮูธ ที่ติดโทษแบน 3 นัด ส่วนความหวังในนัดนี้ฝากไว้ที่ เจมส์ บีทตี หอกตัวเก่ง
เริ่มเกมการแข่งขัน สเปอร์ส ดันเกมรุกใส่ทันที แต่นาทีที่ 3 เกือบเป็น สโตก ที่เฮนำ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน กึ่งยิงกึ่งผ่านแฉลบไปหน้าประตู โจนาธาน วูดเกต พุ่งโขกเคลียร์ออกหลังหวุดหวิด จากนั้น “ไก่เดือยทอง” ตั้งเกมบุกได้แล้ว ปีเตอร์ เคราช์ ได้โหนโขกในกรอบโทษร้อนถึง สตีฟ ซิมอนเซน ต้องบินปัดพ้นเสาไป ไม่ถึง 15 นาทีดี เจ้าถิ่นต้องถอดเอา วูดเกต ที่บาดเจ็บจากจังหวะก่อนหน้านี้ออกไป ให้ทาง ไมเคิล ดอว์สัน ลงมาค้ำหลังแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สเปอร์ส ลุยใส่เป็นชุดๆ อารอน เลนนอน ได้ล็อกยิงปั่นบอลกำลังจะเสียบเสาแต่ ซิมอนเซน พุ่งปัดออกมา จากนั้น เซบาสเตียน บาสซง เติมขึ้นมาในกรอบโทษเอี้ยวตัวตวัดยิงแต่หลุดกรอบไป นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อ เคราช์ ขึ้นโหม่งจ่อๆ แต่ เจมส์ บีทตี ลงมาช่วยโขกเคลียร์ทิ้งหวุดหวิด จังหวะถัดมา นิโก ครันจ์ชาร์ ได้ซัดบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ จากนั้นแม้เจ้าบ้านขึงเกมไว้ได้แต่เจาะไม่เข้า จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง สเปอร์ส ไม่รอช้าเดินหน้าใส่ต่อทันทีและก็มีลุ้นแต่หัววัน ร็อบบี คีน ได้ยิงด้วยขวาในกรอบโทษ ซิมอนเซน ปัดปลายมืออยู่บริเวณหน้าประตู เคราช์ ปรี่เข้าไปจะซ้ำแต่แผงรับ “ช่างปั้นหม้อ” ช่วยกันเคลียร์ทิ้งได้ทัน หนึ่งชั่วโมงพอดีเจ้าถิ่นมาอีกระลอก เคราช์ ขึ้นโหม่งลูกเตะมุม ซิมอนเซน ตบบอลมาหล่นหน้าประตู เวดราน ชอร์ลูกา ซ้ำโดนไม่เต็มบอลจึงค่อยไหลไปเข้าซองนายทวารผู้มาเยือน
เมื่อยังไม่ได้สกอร์นำ แฮร์รี เรดแนปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา โรมัน พาฟลูเชนโก มาทำหน้าที่แทน คีน และหัวหอกทีมชาติรัสเซียก็ได้โอกาสตวัดยิงจากนอกกรอบแต่บอลเหินไปไกล ท้ายเกม สเปอร์ส ต้องเล่นแค่ 10 คนเนื่องจาก เลนนอน เจ็บข้อเท้าซ้ายเล่นต่อไปไหวและทีมก็เปลี่ยนตัวครบแล้ว ทำให้ สโตก ได้ทีลุยขึ้นมาบ้าง ตุนกาย ซานลี ตัวสำรองได้ยิงบอลหลุดกรอบนิดเดียว และแล้วก่อนหมดเวลา 4 นาที “ช่างปั้นหม้อ” มาได้ประตูชัย 1-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ เกล็น วีแลน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส : เอเรลโญ โกเมส , เวดราน ชอร์ลูกา , โจนาธาน วูดเกต , เซบาสเตียน บาสซง , เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต , อารอน เลนนอน , ทอม ฮัดเดิลสโตน , วิลสัน ปาลาซิออส , นิโก ครันจ์ชาร์ , ร็อบบี คีน , ปีเตอร์ เคราช์
สโตก : สตีฟ ซิมอนเซน , แอนดี วิลกินสัน , อับดุลลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี คอลลินส์ , รอรี ดีแล็ป , ดีน ไวท์เฮด , ซาลิฟ ดิเยา , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , ริคคาร์โด ฟูลเลอร์ , เจมส์ บีทตี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (น.79) , 1-1 : ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค (จุดโทษ น.83)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เลียม ริดจ์เวลล์ (น.37) , 2-0 : เจมส์ แม็คฟาดเดน (น.48) , 2-1 : สกอตต์ แดนน์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82)]
เบิร์นลีย์ 1-3 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.4) , 1-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.11) , 1-2 : ฮูโก โรดาเยกา (น.51) , 1-3 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.76)]
ฮัลล์ ซิตี 0-0 ปอร์ทสมัธ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
[0-1 : เกล็น วีแลน (น.86)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
แฮร์รี เรดแนปป์ หวังนำทัพ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส คว้าชัยเพื่อทาบจ่าฝูงชั่วคราว แต่นัดนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาเมื่อ เจอร์เมน เดโฟ ติดโทษแบน ปีเตอร์ เคราช์ ได้โอกาสล่าสกอร์ร่วมกับ ร็อบบี คีน แดนหลังมีข่าวดี โจนาธาน วูดเกต หายเจ็บกลับมาแล้ว ด้าน โทนี พูลิส พาทีม “ช่างปั้นหม้อ” สโตก มาเยือนกรุงลอนดอนโดยให้ สตีฟ ซิมอนเซน เฝ้าเสาแทน โธมัส โซเรนเซน ที่ป่วย แนวรับขาด โรเบิร์ต ฮูธ ที่ติดโทษแบน 3 นัด ส่วนความหวังในนัดนี้ฝากไว้ที่ เจมส์ บีทตี หอกตัวเก่ง
เริ่มเกมการแข่งขัน สเปอร์ส ดันเกมรุกใส่ทันที แต่นาทีที่ 3 เกือบเป็น สโตก ที่เฮนำ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน กึ่งยิงกึ่งผ่านแฉลบไปหน้าประตู โจนาธาน วูดเกต พุ่งโขกเคลียร์ออกหลังหวุดหวิด จากนั้น “ไก่เดือยทอง” ตั้งเกมบุกได้แล้ว ปีเตอร์ เคราช์ ได้โหนโขกในกรอบโทษร้อนถึง สตีฟ ซิมอนเซน ต้องบินปัดพ้นเสาไป ไม่ถึง 15 นาทีดี เจ้าถิ่นต้องถอดเอา วูดเกต ที่บาดเจ็บจากจังหวะก่อนหน้านี้ออกไป ให้ทาง ไมเคิล ดอว์สัน ลงมาค้ำหลังแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สเปอร์ส ลุยใส่เป็นชุดๆ อารอน เลนนอน ได้ล็อกยิงปั่นบอลกำลังจะเสียบเสาแต่ ซิมอนเซน พุ่งปัดออกมา จากนั้น เซบาสเตียน บาสซง เติมขึ้นมาในกรอบโทษเอี้ยวตัวตวัดยิงแต่หลุดกรอบไป นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อ เคราช์ ขึ้นโหม่งจ่อๆ แต่ เจมส์ บีทตี ลงมาช่วยโขกเคลียร์ทิ้งหวุดหวิด จังหวะถัดมา นิโก ครันจ์ชาร์ ได้ซัดบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ จากนั้นแม้เจ้าบ้านขึงเกมไว้ได้แต่เจาะไม่เข้า จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง สเปอร์ส ไม่รอช้าเดินหน้าใส่ต่อทันทีและก็มีลุ้นแต่หัววัน ร็อบบี คีน ได้ยิงด้วยขวาในกรอบโทษ ซิมอนเซน ปัดปลายมืออยู่บริเวณหน้าประตู เคราช์ ปรี่เข้าไปจะซ้ำแต่แผงรับ “ช่างปั้นหม้อ” ช่วยกันเคลียร์ทิ้งได้ทัน หนึ่งชั่วโมงพอดีเจ้าถิ่นมาอีกระลอก เคราช์ ขึ้นโหม่งลูกเตะมุม ซิมอนเซน ตบบอลมาหล่นหน้าประตู เวดราน ชอร์ลูกา ซ้ำโดนไม่เต็มบอลจึงค่อยไหลไปเข้าซองนายทวารผู้มาเยือน
เมื่อยังไม่ได้สกอร์นำ แฮร์รี เรดแนปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา โรมัน พาฟลูเชนโก มาทำหน้าที่แทน คีน และหัวหอกทีมชาติรัสเซียก็ได้โอกาสตวัดยิงจากนอกกรอบแต่บอลเหินไปไกล ท้ายเกม สเปอร์ส ต้องเล่นแค่ 10 คนเนื่องจาก เลนนอน เจ็บข้อเท้าซ้ายเล่นต่อไปไหวและทีมก็เปลี่ยนตัวครบแล้ว ทำให้ สโตก ได้ทีลุยขึ้นมาบ้าง ตุนกาย ซานลี ตัวสำรองได้ยิงบอลหลุดกรอบนิดเดียว และแล้วก่อนหมดเวลา 4 นาที “ช่างปั้นหม้อ” มาได้ประตูชัย 1-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ เกล็น วีแลน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส : เอเรลโญ โกเมส , เวดราน ชอร์ลูกา , โจนาธาน วูดเกต , เซบาสเตียน บาสซง , เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต , อารอน เลนนอน , ทอม ฮัดเดิลสโตน , วิลสัน ปาลาซิออส , นิโก ครันจ์ชาร์ , ร็อบบี คีน , ปีเตอร์ เคราช์
สโตก : สตีฟ ซิมอนเซน , แอนดี วิลกินสัน , อับดุลลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี คอลลินส์ , รอรี ดีแล็ป , ดีน ไวท์เฮด , ซาลิฟ ดิเยา , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , ริคคาร์โด ฟูลเลอร์ , เจมส์ บีทตี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (น.79) , 1-1 : ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค (จุดโทษ น.83)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เลียม ริดจ์เวลล์ (น.37) , 2-0 : เจมส์ แม็คฟาดเดน (น.48) , 2-1 : สกอตต์ แดนน์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82)]
เบิร์นลีย์ 1-3 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.4) , 1-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.11) , 1-2 : ฮูโก โรดาเยกา (น.51) , 1-3 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.76)]
ฮัลล์ ซิตี 0-0 ปอร์ทสมัธ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
[0-1 : เกล็น วีแลน (น.86)]
