จอห์น เทอร์รี ปราการหลังกัปตันทีม โหม่งประตูชัยช่วยให้ เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 พร้อมทำคะแนนหนีห่างแชมป์เก่า 5 คะแนน ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ สภาพทีมค่อนข้างเต็มร้อย โดยมี จอห์น เทอร์รี คุมแนวรับ ขณะที่แดนกลางเป็นหน้าที่ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่วนคู่หน้าเป็น นิโกลาส์ อเนลกา และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวรับที่ขาด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ส่วน เนมานยา วิดิช เป็นเพียงสำรอง ทำให้เกมนี้เป็นโอกาสของ จอนนี อีแวนส์ และ เวส บราวน์ ยืนคู่กัน ขณะที่แดนกลางมี ไรอัน กิ๊กส์ คอยเดินเกม ส่วน เวย์น รูนีย์ ยืนหน้าเป้า
เริ่มครึ่งแรก เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูก่อนหลังผ่านมา 4 นาที เมื่อ อีวาโนวิช ทำเกมรุกขึ้นมาถึงเขตโทษจนได้ซัดมุมแคบ แต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ หลังจากนั้นนาที 10 เป็นโอกาสของทีมเยือน เมื่อ เอฟรา กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษ รูนีย์ พลิกบอลหนี คาร์วัลโญ ก่อนจะซัดมุมแคบออกหลังไป
เกมดำเนินไปอย่างสูสี มาถึงนาที 18 บัลลัก เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวามาเข้าหัว ดร็อกบา ลอยตัวโหม่ง แต่บอลหลุดเสาสองออกไป นาทีถัดมา วาเลนเซีย ได้ซัดไกลระยะประมาณ 30 หลา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปเช่นกัน
อเนลกา ได้โอกาสส่องเป็นครั้งแรกของเกมในนาที 28 เมื่อโยกหนี เอฟรา ตรงมุมเขตโทษด้านซ้ายก่อนตะบันเต็มข้อ แต่บอลไม่ผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์ นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้กลับเมื่อ เฟลทเชอร์ วางบอลจากแดนตัวเองให้ กิ๊กส์ วิ่งสอดมาเดี่ยวๆดวลกับ เช็ก แต่ปีกชาวเวลส์กระดกบอลข้ามคานไป
เกมมาถึงนาที 32 ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ "ผีแดง" ไม่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังเมื่อปัดลูกยิงมุมแคบของ อเนลกา ออกไป จากนั้นนาที 40 เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมา แลมพาร์ด หลุดมาถึงเขตโทษก่อนจะผ่านบอลเข้ากลาง บอลเลยไปถึง ดร็อกบา ทางเสาสอง แต่ดันจับไม่ดีพลาดโอกาสสับไกยิง โดยหลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นประตูอีกจบ 45 นาทีแรก
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 2 นาที แชมป์เก่าได้จังหวะลุ้นก่อน เมื่อ รูนีย์ เก็บบอลได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลย้อนกลับมาให้ เฟลทเชอร์ วิ่งมายิง แต่บอลเหินข้ามคานไป ส่วน เชลซี ได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของครึ่งหลังในนาที 60 เมื่อ อเนลกา เปิดบอลจากเส้นเขตโทษด้านขวา บอลเลยไปถึง แลมพาร์ด ซัดเรียดด้วยขวา แต่ถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ ป้องกันได้
เกมมาถึงนาที 66 รูนีย์ ตัดบอลได้ตรงหน้าเขตโทษเจ้าถิ่นจากนั้นเล่นชิงกับ วาเลนเซีย ก่อนจะตามมาเอาบอลในเขตโทษ แต่ซัดบอลหลุดเสาสองไป อีกสามนาทีต่อมา ดาวยิงทีมชาติอังกฤษได้โอกาสส่องอีกครั้ง เมื่อโยกหนีกองหลังเจ้าบ้านและพยายามปั่นบอลโค้งตรงมุมเขตโทษ แต่ เช็ก ยังไม่พลาดปัดทิ้งออกไป
แต่ในที่สุดเมื่อถึงนาที 76 ก็มีการทำประตูเกิดขึ้นจนได้ โดยเป็นฝ่าย เชลซี ที่ออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะฟรีคิกบริเวณริมเส้นด้านซ้าย แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาตรงกลางและเป็น เทอร์รี จัดการโหม่งเช็ดเข้าเสาสองหมดสิทธิ์ที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันทันทำให้แฟนบอลในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฮกันทั้งสนาม
ช่วงท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามบุกกดดันใส่เพื่อทวงประตูคืน มาถึงนาที 83 วาเลนเซีย เก็บบอลได้ในเขตโทษจากลูกเตะมุม แต่ซัดบอลหลุดเสาออกไปอีก ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อีแวนส์ จะได้โขกจากลูกเตะมุมแต่ทำไม่สำเร็จ สุดท้ายเมื่อจบ 90 นาที เชลซี จึงเป็นฝ่ายเอาชนะไป พร้อมเก็บคะแนนเพิ่มเป็น 30 แต้ม ฉีกหนี อาร์เซนอล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งไล่หลังมาตามลำดับห่าง 5 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, ไมเคิล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, เวส บราวน์, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริก, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฮัลล์ ซิตี ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1
[0-1 : แมทธิว เอเธอริงตัน น.29], [1-1 : เซยี โอโลฟินยานา น.62], [2-1 : แยน เวนเนกูร์ น.90]
วีแกน เสมอ ฟูแลม 1-1
[1-0 : เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ น.13], [1-1 : คลินท์ เดมพ์ซีย์ ลูกจุดโทษ น.39]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2
[0-1 : หลุยส์ ซาฮา น.27], [0-2 : แดน กอสลิง น.64], [1-2 : โทนี ฮิบเบิร์ต ทำเข้าประตูตัวเอง น.65]
เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
[1-0 : จอห์น เทอร์รี น.76]
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ สภาพทีมค่อนข้างเต็มร้อย โดยมี จอห์น เทอร์รี คุมแนวรับ ขณะที่แดนกลางเป็นหน้าที่ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่วนคู่หน้าเป็น นิโกลาส์ อเนลกา และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวรับที่ขาด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ส่วน เนมานยา วิดิช เป็นเพียงสำรอง ทำให้เกมนี้เป็นโอกาสของ จอนนี อีแวนส์ และ เวส บราวน์ ยืนคู่กัน ขณะที่แดนกลางมี ไรอัน กิ๊กส์ คอยเดินเกม ส่วน เวย์น รูนีย์ ยืนหน้าเป้า
เริ่มครึ่งแรก เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูก่อนหลังผ่านมา 4 นาที เมื่อ อีวาโนวิช ทำเกมรุกขึ้นมาถึงเขตโทษจนได้ซัดมุมแคบ แต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ หลังจากนั้นนาที 10 เป็นโอกาสของทีมเยือน เมื่อ เอฟรา กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษ รูนีย์ พลิกบอลหนี คาร์วัลโญ ก่อนจะซัดมุมแคบออกหลังไป
เกมดำเนินไปอย่างสูสี มาถึงนาที 18 บัลลัก เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวามาเข้าหัว ดร็อกบา ลอยตัวโหม่ง แต่บอลหลุดเสาสองออกไป นาทีถัดมา วาเลนเซีย ได้ซัดไกลระยะประมาณ 30 หลา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปเช่นกัน
อเนลกา ได้โอกาสส่องเป็นครั้งแรกของเกมในนาที 28 เมื่อโยกหนี เอฟรา ตรงมุมเขตโทษด้านซ้ายก่อนตะบันเต็มข้อ แต่บอลไม่ผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์ นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้กลับเมื่อ เฟลทเชอร์ วางบอลจากแดนตัวเองให้ กิ๊กส์ วิ่งสอดมาเดี่ยวๆดวลกับ เช็ก แต่ปีกชาวเวลส์กระดกบอลข้ามคานไป
เกมมาถึงนาที 32 ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ "ผีแดง" ไม่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังเมื่อปัดลูกยิงมุมแคบของ อเนลกา ออกไป จากนั้นนาที 40 เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมา แลมพาร์ด หลุดมาถึงเขตโทษก่อนจะผ่านบอลเข้ากลาง บอลเลยไปถึง ดร็อกบา ทางเสาสอง แต่ดันจับไม่ดีพลาดโอกาสสับไกยิง โดยหลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นประตูอีกจบ 45 นาทีแรก
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 2 นาที แชมป์เก่าได้จังหวะลุ้นก่อน เมื่อ รูนีย์ เก็บบอลได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลย้อนกลับมาให้ เฟลทเชอร์ วิ่งมายิง แต่บอลเหินข้ามคานไป ส่วน เชลซี ได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของครึ่งหลังในนาที 60 เมื่อ อเนลกา เปิดบอลจากเส้นเขตโทษด้านขวา บอลเลยไปถึง แลมพาร์ด ซัดเรียดด้วยขวา แต่ถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ ป้องกันได้
เกมมาถึงนาที 66 รูนีย์ ตัดบอลได้ตรงหน้าเขตโทษเจ้าถิ่นจากนั้นเล่นชิงกับ วาเลนเซีย ก่อนจะตามมาเอาบอลในเขตโทษ แต่ซัดบอลหลุดเสาสองไป อีกสามนาทีต่อมา ดาวยิงทีมชาติอังกฤษได้โอกาสส่องอีกครั้ง เมื่อโยกหนีกองหลังเจ้าบ้านและพยายามปั่นบอลโค้งตรงมุมเขตโทษ แต่ เช็ก ยังไม่พลาดปัดทิ้งออกไป
แต่ในที่สุดเมื่อถึงนาที 76 ก็มีการทำประตูเกิดขึ้นจนได้ โดยเป็นฝ่าย เชลซี ที่ออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะฟรีคิกบริเวณริมเส้นด้านซ้าย แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาตรงกลางและเป็น เทอร์รี จัดการโหม่งเช็ดเข้าเสาสองหมดสิทธิ์ที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันทันทำให้แฟนบอลในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฮกันทั้งสนาม
ช่วงท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามบุกกดดันใส่เพื่อทวงประตูคืน มาถึงนาที 83 วาเลนเซีย เก็บบอลได้ในเขตโทษจากลูกเตะมุม แต่ซัดบอลหลุดเสาออกไปอีก ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อีแวนส์ จะได้โขกจากลูกเตะมุมแต่ทำไม่สำเร็จ สุดท้ายเมื่อจบ 90 นาที เชลซี จึงเป็นฝ่ายเอาชนะไป พร้อมเก็บคะแนนเพิ่มเป็น 30 แต้ม ฉีกหนี อาร์เซนอล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งไล่หลังมาตามลำดับห่าง 5 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, ไมเคิล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, เวส บราวน์, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริก, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฮัลล์ ซิตี ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1
[0-1 : แมทธิว เอเธอริงตัน น.29], [1-1 : เซยี โอโลฟินยานา น.62], [2-1 : แยน เวนเนกูร์ น.90]
วีแกน เสมอ ฟูแลม 1-1
[1-0 : เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ น.13], [1-1 : คลินท์ เดมพ์ซีย์ ลูกจุดโทษ น.39]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2
[0-1 : หลุยส์ ซาฮา น.27], [0-2 : แดน กอสลิง น.64], [1-2 : โทนี ฮิบเบิร์ต ทำเข้าประตูตัวเอง น.65]
เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
[1-0 : จอห์น เทอร์รี น.76]