“สิงห์บลูส์” เชลซี ยังทำผลงานเยี่ยมเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด หลังเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่ม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-0 พร้อมกลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย.
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อักกฤษ
เชลซี 3-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ โชเซ โบซิงวา กลับมาลงประจำการเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้งหลังติดโทษแบนในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีปัญหาเป็นชุดเดิม ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ของ แฮร์รี เร็ดแนปป์ ยังคงให้ คาร์โล คูดิชินี เป็นนายทวารต่อไป แม้ เอเลโย โกเมซ จะหายเจ็บกลับมาแล้ว โดยทีมยังคงไม่มี ลูกา โมดริซ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่กระดูกน่องแตก
เริ่มครึ่งแรก เชลซี ได้ทักทายก่อนในนาที 7 จากจังหวะที่ บัลลัก โหม่งบอลย้อนกลับมาให้ โบซิงวา จัดการซัดตรงเส้นเขตโทษ บอลพุ่งแรงผ่านมือ คูดิชินี แต่ไปโดนสามเหลี่ยมคานเต็มๆพลาดได้ประตูไป หลังจากนั้นอีก 4 นาที ปาลาซิออส แทงบอลจากกลางสนามให้ เดโฟ หลุดเข้าไปยิงบ้าง แต่ เช็ก ทำได้ดีใช้เท้าเซฟออกไป
สเปอร์ส เป็นฝ่ายที่ได้บุกอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ นาทีถัดมา เลนนอน เก็บบอลได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลมาให้ ฮัดเดิลสตัน วางเท้าสับไก แต่บอลไปตรงตัวนายด่านเจ้าถิ่น หลังจากนั้นนาที 16 เป็นโอกาสของ เจนาส ได้ซัดตรงหน้ากรอบเขตโทษเช่นกัน แต่หลุดเสาออกไปอีก
นาทีต่อมา อเนลกา ขยับมาอยู่ทางด้านซ้าย ก่อนจะหยอดบอลไปให้ แลมพาร์ด โหม่งหน้าประตู แต่บอลไม่ตรงกรอบ กระทั่งเกมผ่านครึ่งชั่วโมง “สิงห์บลูส์” มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ ดร็อกบา เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาไปทางเสาไกล โคล เติมเกมขึ้นมาพุ่งโหม่เบียดเสาเข้าไป สกอร์ขยับ 1-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูอีกจนจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลัง เจ้าถิ่นโหมบุกใส่ทันที ดร็อกบา พลิกหนี คิง กระชากบอลจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดย้อนกลับมาให้ แลมพาร์ด วิ่งมาซัดแต่ไม่ตรงกรอบ จนกระทั่งนาที 58 เชลซี ก็สามารถทำประตูหนีห่างได้สำเร็จ เริ่มจาก อเนลกา วางบอลจากด้านขวาให้ ดร็อกบา ตวัดยิงจังหวะแรกถูก คูดิชินี ปัดได้ แต่ แลมพาร์ด ยังขยันตามไปเก็บบอล ก่อนจะเปิดกลับมาให้ บัลลัก ชาร์จเผาขนหน้าประตูให้ทีมนำ 2-0
“สิงห์บลูส์” ยังไม่หยุด เกมมาถึงนาที 63 โคล วางบอลยาวจากแดนตัวเองให้ ดร็อกบา วิ่งควบแซงหน้า ชอร์ลูกา และมีบอลเป็นใจเล็กน้อยจน คูดิชินี กะจังหวะพลาดทำให้ดาวยิงผิวเข้มส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายสบายๆให้ทีมทะยานห่าง 3-0 แต่ สเปอร์ส หวังตีไข่แตกเช่นกัน มาถึงนาที 68 ปีเตอร์ เคราช์ ตัวสำรองโหม่งบอลต่อให้ ปาลาซิออส วอลเลย์ในเขตโทษ บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
หลังจากนั้น ซาโลมง กาลู ตัวสำรองของเจ้าถิ่นมีโอกาสบวกเพิ่มให้ทีม 1-2 ครั้ง แต่ก็พลาดไป ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” เกือบไล่ตีตื้นในช่วงทดเจ็บ เมื่อ เคราช์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดบอลตุงตาข่ายแล้ว แต่กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าเสียก่อน สุดท้าย เชลซี เป็นฝ่ายเก็บสามคะแนนเต็มไปเมื่อจบเกม โดยเป็นการเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด พร้อมกลับขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาวัลโญ, ไมเคิล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ฟลอรองต์ มาลูดา, มิเชล บัลลัก, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
สเปอร์ส : คาร์โล คูดิชินี, เซบาสเตียน บาสซง, เลดลีย์ คิง, เบนัวต์ แอสซู-เอก็อตโต, เวดรัน ชอร์ลูกา, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจอร์แมน เจนาส, วิลสัน ปาลาซิออส, อารอน เลนนอน, ร็อบบี คีน, เจอร์แมน เดโฟ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี 4-3
[1-0 : เวย์น รูนีย์ น.2], [1-1 : แกเร็ธ แบร์รี น.16], [2-1 : ดาร์เรน เฟลทเชอร์ น.49], [2-2 : เคร็ก เบลลามี น.52], [3-2 : ดาร์เรน เฟลทเชอร์ น.80], [3-3 : เคร็ก เบลลามี น.90], [4-3 : ไมเคิล โอเวน น.90+5]
วูล์ฟแฮมตัน ชนะ ฟูแลม 2-1
[1-0 : เควิน ดอยล์ น.18], [2-0 : เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ น.50], [2-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ ลูกจุดโทษ น.66]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 3-0
[1-0 : หลุยส์ ซาฮา น.22], [2-0 : หลุยส์ ซาฮา น.54], [3-0 : โยเซฟ โยโบ น.58]
เชลซี ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-0
[1-0 : แอชลีย์ โคล น.32], [2-0 : มิเชล บัลลัก น.58], [3-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.63]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อักกฤษ
เชลซี 3-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ โชเซ โบซิงวา กลับมาลงประจำการเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้งหลังติดโทษแบนในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีปัญหาเป็นชุดเดิม ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ของ แฮร์รี เร็ดแนปป์ ยังคงให้ คาร์โล คูดิชินี เป็นนายทวารต่อไป แม้ เอเลโย โกเมซ จะหายเจ็บกลับมาแล้ว โดยทีมยังคงไม่มี ลูกา โมดริซ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่กระดูกน่องแตก
เริ่มครึ่งแรก เชลซี ได้ทักทายก่อนในนาที 7 จากจังหวะที่ บัลลัก โหม่งบอลย้อนกลับมาให้ โบซิงวา จัดการซัดตรงเส้นเขตโทษ บอลพุ่งแรงผ่านมือ คูดิชินี แต่ไปโดนสามเหลี่ยมคานเต็มๆพลาดได้ประตูไป หลังจากนั้นอีก 4 นาที ปาลาซิออส แทงบอลจากกลางสนามให้ เดโฟ หลุดเข้าไปยิงบ้าง แต่ เช็ก ทำได้ดีใช้เท้าเซฟออกไป
สเปอร์ส เป็นฝ่ายที่ได้บุกอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ นาทีถัดมา เลนนอน เก็บบอลได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลมาให้ ฮัดเดิลสตัน วางเท้าสับไก แต่บอลไปตรงตัวนายด่านเจ้าถิ่น หลังจากนั้นนาที 16 เป็นโอกาสของ เจนาส ได้ซัดตรงหน้ากรอบเขตโทษเช่นกัน แต่หลุดเสาออกไปอีก
นาทีต่อมา อเนลกา ขยับมาอยู่ทางด้านซ้าย ก่อนจะหยอดบอลไปให้ แลมพาร์ด โหม่งหน้าประตู แต่บอลไม่ตรงกรอบ กระทั่งเกมผ่านครึ่งชั่วโมง “สิงห์บลูส์” มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ ดร็อกบา เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาไปทางเสาไกล โคล เติมเกมขึ้นมาพุ่งโหม่เบียดเสาเข้าไป สกอร์ขยับ 1-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูอีกจนจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลัง เจ้าถิ่นโหมบุกใส่ทันที ดร็อกบา พลิกหนี คิง กระชากบอลจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดย้อนกลับมาให้ แลมพาร์ด วิ่งมาซัดแต่ไม่ตรงกรอบ จนกระทั่งนาที 58 เชลซี ก็สามารถทำประตูหนีห่างได้สำเร็จ เริ่มจาก อเนลกา วางบอลจากด้านขวาให้ ดร็อกบา ตวัดยิงจังหวะแรกถูก คูดิชินี ปัดได้ แต่ แลมพาร์ด ยังขยันตามไปเก็บบอล ก่อนจะเปิดกลับมาให้ บัลลัก ชาร์จเผาขนหน้าประตูให้ทีมนำ 2-0
“สิงห์บลูส์” ยังไม่หยุด เกมมาถึงนาที 63 โคล วางบอลยาวจากแดนตัวเองให้ ดร็อกบา วิ่งควบแซงหน้า ชอร์ลูกา และมีบอลเป็นใจเล็กน้อยจน คูดิชินี กะจังหวะพลาดทำให้ดาวยิงผิวเข้มส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายสบายๆให้ทีมทะยานห่าง 3-0 แต่ สเปอร์ส หวังตีไข่แตกเช่นกัน มาถึงนาที 68 ปีเตอร์ เคราช์ ตัวสำรองโหม่งบอลต่อให้ ปาลาซิออส วอลเลย์ในเขตโทษ บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
หลังจากนั้น ซาโลมง กาลู ตัวสำรองของเจ้าถิ่นมีโอกาสบวกเพิ่มให้ทีม 1-2 ครั้ง แต่ก็พลาดไป ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” เกือบไล่ตีตื้นในช่วงทดเจ็บ เมื่อ เคราช์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดบอลตุงตาข่ายแล้ว แต่กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าเสียก่อน สุดท้าย เชลซี เป็นฝ่ายเก็บสามคะแนนเต็มไปเมื่อจบเกม โดยเป็นการเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด พร้อมกลับขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาวัลโญ, ไมเคิล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ฟลอรองต์ มาลูดา, มิเชล บัลลัก, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
สเปอร์ส : คาร์โล คูดิชินี, เซบาสเตียน บาสซง, เลดลีย์ คิง, เบนัวต์ แอสซู-เอก็อตโต, เวดรัน ชอร์ลูกา, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจอร์แมน เจนาส, วิลสัน ปาลาซิออส, อารอน เลนนอน, ร็อบบี คีน, เจอร์แมน เดโฟ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี 4-3
[1-0 : เวย์น รูนีย์ น.2], [1-1 : แกเร็ธ แบร์รี น.16], [2-1 : ดาร์เรน เฟลทเชอร์ น.49], [2-2 : เคร็ก เบลลามี น.52], [3-2 : ดาร์เรน เฟลทเชอร์ น.80], [3-3 : เคร็ก เบลลามี น.90], [4-3 : ไมเคิล โอเวน น.90+5]
วูล์ฟแฮมตัน ชนะ ฟูแลม 2-1
[1-0 : เควิน ดอยล์ น.18], [2-0 : เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ น.50], [2-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ ลูกจุดโทษ น.66]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 3-0
[1-0 : หลุยส์ ซาฮา น.22], [2-0 : หลุยส์ ซาฮา น.54], [3-0 : โยเซฟ โยโบ น.58]
เชลซี ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-0
[1-0 : แอชลีย์ โคล น.32], [2-0 : มิเชล บัลลัก น.58], [3-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.63]