“สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดบ้านตะปบเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2-0 แซงหน้า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนั่งจ่าฝูงศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
คาร์โล อันเชล็อตติ มีปัญหาในการจัดทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เล็กน้อย เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมหนึบติดโทษแบนทำให้ต้องส่ง เฮนริเก ฮิลาริโอ เฝ้าเสา แต่แนวรุกมากันครบครัน ดิดิเยร์ ดร็อกบา กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา หลังติดแบนในฟุตบอลยุโรป ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ มีทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชุดใหญ่มาเยือนกรุงลอนดอน เมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ฟิตกลับมาคอยตัดเกมแดนกลาง ข้างหน้าห้อย เฟร์นานโด ตอร์เรส ไว้คนเดียว
เริ่มเกม ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกใส่ เชลซี เป็นชุดๆ แต่เจ้าถิ่นยังคงตั้งตัวไว้ได้ นาทีที่ 12 แฟนๆ “สิงห์บลูส์” พยายามกดดันผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ให้แจกใบเหลือง เฟร์นานโด ตอร์เรส ฐานยันเข้าที่เท้าของ จอห์น เทอร์รี หลังจากที่กัปตันทีมเจ้าถิ่นหวดสกัดบอลทิ้งไปแล้ว เกมผลัดกันรุกรับ อัลเบิร์ต ริเอรา มีโอกาสส่องไกลแต่บอลเหินโด่งเกินไป โอกาสของ เชลซี มีบ้าง นิโกลาส์ อเนลกา เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โหนโหม่งแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ โฆเซ เรนา
ผ่านครึ่งชั่วโมง “สิงห์บลูส์” ดันเกมขึ้นมาอีกครั้ง มิคาเอล เอสเซียง โยนเข้ากรอบโทษให้ อเนลกา โฉบตัด เอมิลิอาโน อินซัว เข้ามาโขกแต่ เรนา พุ่งไปรับบอลได้ที่โคนเสา ทีมเยือนมีลุ้นเช่นกันจากฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา สตีเวน เจอร์ราร์ด ซัดหลุดกรอบไป นาทีที่ 35 เดโก ซูซา โยนบอลให้ มิชาเอล บัลลัค โถมเข้ามาโหม่งข้ามคานแบบมีเสียว ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล หลุดขึ้นมาทางขวา เดิร์ก เคาท์ เปิดให้ ตอร์เรส โขกลงพื้นแต่เบาไป ฮิลาริโอ รับสบาย ท้ายครึ่งแรก ริเอรา ส่องฟรีคิกไกลกว่า 30 หลา ฮิลาริโอ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเป็นทาง เชลซี ที่เริ่มต้นด้วยการรุกเร้าใส่ก่อนบ้าง และถึงหนึ่งชั่วโมงพอดีก็เป็น “สิงห์บลูส์” ตะปบนำ 1-0 จนได้จากการที่ ฮาเวียร์ มาสเชราโน เสียบอลกลางสนามให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด จ่ายต่อให้ เอสเซียง แทงออกข้าง ดร็อกบา หลุดขึ้นมาเปิดเสาสองให้ อเนลกา แหย่ขาทิ่มไม่เหลือ เมื่อตกเป็นรองและเกมยังไม่ดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องแก้เกมใส่ ยอสซี เบนายูน มาสร้างสรรค์เกมรุกแทน ริเอรา
จากนั้น ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกกระหน่ำใส่ เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมายิงบอลพุ่งแหวกอากาศเหินข้ามคานไป จังหวะถัดมา ตอร์เรส แตะบอลให้ เจอร์ราร์ด กำลังจะหลุดเข้าไปง้างยิงแต่โดน แอชลีย์ โคล แหย่เท้าสกัดได้ทันเวลา เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เบนิเตซ เติมความดุดันในเกมรุกส่ง ไรอัน บาเบล มาขึ้นเกมและก็ดึงตัวรับอย่าง ลูคส เลวา ออกมา ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับทัพเช่นกันส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา มาช่วยแดนกลางแทน เดโก นาทีที่ 77 เชลซี ได้ฟรีคิกกว่า 35 หลา ดร็อกบา ลองตะบันด้วยขวาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไป
สี่นาทีถัดมา “หงส์แดง” ใกล้เคียงกับโอกาสได้ประตูตีเสมอ เดิร์ค เคาท์ แปะเข้าในให้ เจอร์ราร์ด ซัดเหน่งๆ โดน เทอร์รี บล็อกเอาไว้ได้บอลกระดอนมาให้ ตอร์เรส ยิงด้วยซ้ายแต่บอลชิดตัวเกินไปทำให้ยิงไม่ถนัดหลุดออกข้าง ท้ายเกม “สิงห์บลูส์” ลงไปเน้นแพ็คเกมรับอย่างแน่นหนา แถมช่วงทดเจ็บ มาลูดา มายิงปิดกล่องให้ทีมเฮ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนนจากการลงเตะ 8 นัด แซงหน้า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงด้วยความห่าง 2 แต้ม ขณะที่ ลิเวอร์พูล หล่นมาอยู่ที่ 5 มี 15 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เฮนริเก ฮิลาริโอ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , เอมิลิอาโน อินซัว , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ลูคัส เลวา , เดิร์ค เคาท์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟร์นานโด ตอร์เรส
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : สตีเวน เอ็นซองซี (น.4) , 1-1 : โธมัส เฟอร์มาเลน (น.12) , 1-2 : วิลเลียม กัลลาส (ทำเข้าประตูตัวเอง น.30) , 2-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.33) , 3-2 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.37) , 4-2 : เชส ฟาเบรกาส (น.57) , 5-2 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.75) , 6-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.89)]
เอฟเวอร์ตัน 1-1 สโตก ซิตี
[0-1 : โรเบิร์ต ฮูธ (น.50) , 1-1 : ลีออน ออสแมน (น.55)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 ฟูแลม
[1-0 : คาร์ตัน โคล (น.16) , 1-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.47) , 1-2 : โซลตัน เกรา (น.57) , 2-2 : จูเนียร์ สตานิสลาส (น.90)]
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.60) , 2-0 : ฟลอร็องต์ มาลูดา (น.90)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
คาร์โล อันเชล็อตติ มีปัญหาในการจัดทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เล็กน้อย เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมหนึบติดโทษแบนทำให้ต้องส่ง เฮนริเก ฮิลาริโอ เฝ้าเสา แต่แนวรุกมากันครบครัน ดิดิเยร์ ดร็อกบา กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา หลังติดแบนในฟุตบอลยุโรป ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ มีทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชุดใหญ่มาเยือนกรุงลอนดอน เมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ฟิตกลับมาคอยตัดเกมแดนกลาง ข้างหน้าห้อย เฟร์นานโด ตอร์เรส ไว้คนเดียว
เริ่มเกม ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกใส่ เชลซี เป็นชุดๆ แต่เจ้าถิ่นยังคงตั้งตัวไว้ได้ นาทีที่ 12 แฟนๆ “สิงห์บลูส์” พยายามกดดันผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ให้แจกใบเหลือง เฟร์นานโด ตอร์เรส ฐานยันเข้าที่เท้าของ จอห์น เทอร์รี หลังจากที่กัปตันทีมเจ้าถิ่นหวดสกัดบอลทิ้งไปแล้ว เกมผลัดกันรุกรับ อัลเบิร์ต ริเอรา มีโอกาสส่องไกลแต่บอลเหินโด่งเกินไป โอกาสของ เชลซี มีบ้าง นิโกลาส์ อเนลกา เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โหนโหม่งแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ โฆเซ เรนา
ผ่านครึ่งชั่วโมง “สิงห์บลูส์” ดันเกมขึ้นมาอีกครั้ง มิคาเอล เอสเซียง โยนเข้ากรอบโทษให้ อเนลกา โฉบตัด เอมิลิอาโน อินซัว เข้ามาโขกแต่ เรนา พุ่งไปรับบอลได้ที่โคนเสา ทีมเยือนมีลุ้นเช่นกันจากฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา สตีเวน เจอร์ราร์ด ซัดหลุดกรอบไป นาทีที่ 35 เดโก ซูซา โยนบอลให้ มิชาเอล บัลลัค โถมเข้ามาโหม่งข้ามคานแบบมีเสียว ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล หลุดขึ้นมาทางขวา เดิร์ก เคาท์ เปิดให้ ตอร์เรส โขกลงพื้นแต่เบาไป ฮิลาริโอ รับสบาย ท้ายครึ่งแรก ริเอรา ส่องฟรีคิกไกลกว่า 30 หลา ฮิลาริโอ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเป็นทาง เชลซี ที่เริ่มต้นด้วยการรุกเร้าใส่ก่อนบ้าง และถึงหนึ่งชั่วโมงพอดีก็เป็น “สิงห์บลูส์” ตะปบนำ 1-0 จนได้จากการที่ ฮาเวียร์ มาสเชราโน เสียบอลกลางสนามให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด จ่ายต่อให้ เอสเซียง แทงออกข้าง ดร็อกบา หลุดขึ้นมาเปิดเสาสองให้ อเนลกา แหย่ขาทิ่มไม่เหลือ เมื่อตกเป็นรองและเกมยังไม่ดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องแก้เกมใส่ ยอสซี เบนายูน มาสร้างสรรค์เกมรุกแทน ริเอรา
จากนั้น ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกกระหน่ำใส่ เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมายิงบอลพุ่งแหวกอากาศเหินข้ามคานไป จังหวะถัดมา ตอร์เรส แตะบอลให้ เจอร์ราร์ด กำลังจะหลุดเข้าไปง้างยิงแต่โดน แอชลีย์ โคล แหย่เท้าสกัดได้ทันเวลา เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เบนิเตซ เติมความดุดันในเกมรุกส่ง ไรอัน บาเบล มาขึ้นเกมและก็ดึงตัวรับอย่าง ลูคส เลวา ออกมา ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับทัพเช่นกันส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา มาช่วยแดนกลางแทน เดโก นาทีที่ 77 เชลซี ได้ฟรีคิกกว่า 35 หลา ดร็อกบา ลองตะบันด้วยขวาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไป
สี่นาทีถัดมา “หงส์แดง” ใกล้เคียงกับโอกาสได้ประตูตีเสมอ เดิร์ค เคาท์ แปะเข้าในให้ เจอร์ราร์ด ซัดเหน่งๆ โดน เทอร์รี บล็อกเอาไว้ได้บอลกระดอนมาให้ ตอร์เรส ยิงด้วยซ้ายแต่บอลชิดตัวเกินไปทำให้ยิงไม่ถนัดหลุดออกข้าง ท้ายเกม “สิงห์บลูส์” ลงไปเน้นแพ็คเกมรับอย่างแน่นหนา แถมช่วงทดเจ็บ มาลูดา มายิงปิดกล่องให้ทีมเฮ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนนจากการลงเตะ 8 นัด แซงหน้า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงด้วยความห่าง 2 แต้ม ขณะที่ ลิเวอร์พูล หล่นมาอยู่ที่ 5 มี 15 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เฮนริเก ฮิลาริโอ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , เอมิลิอาโน อินซัว , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ลูคัส เลวา , เดิร์ค เคาท์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟร์นานโด ตอร์เรส
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : สตีเวน เอ็นซองซี (น.4) , 1-1 : โธมัส เฟอร์มาเลน (น.12) , 1-2 : วิลเลียม กัลลาส (ทำเข้าประตูตัวเอง น.30) , 2-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.33) , 3-2 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.37) , 4-2 : เชส ฟาเบรกาส (น.57) , 5-2 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.75) , 6-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.89)]
เอฟเวอร์ตัน 1-1 สโตก ซิตี
[0-1 : โรเบิร์ต ฮูธ (น.50) , 1-1 : ลีออน ออสแมน (น.55)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 ฟูแลม
[1-0 : คาร์ตัน โคล (น.16) , 1-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.47) , 1-2 : โซลตัน เกรา (น.57) , 2-2 : จูเนียร์ สตานิสลาส (น.90)]
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.60) , 2-0 : ฟลอร็องต์ มาลูดา (น.90)]
