“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แซงหน้า ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ในตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านถล่มเอาชนะ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 6-2
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์แซน เวนเกอร์ จัดทัพชุดที่ดีที่สุดของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ลงสนาม แถมยังได้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ กับ ธีโอ วัลคอตต์ ที่หายเจ็บกลับมาประจำการอยู่ขอบสนาม นัดนี้เกมรุกยังฝากความหวังไว้ที่ อังเดร อาร์ชาวิน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ด้าน “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น มีปัญหาในแนวรับพอสมควร แซม อัลลาไดซ์ ต้องใช้ ปาสกาล ชิมบงดา ปักหลักยืนคู่กับ กาแอล ชิเวต์ เนื่องจากทั้ง คริสโตเฟอร์ แซมบา และ ไรอัน นีลเซน ไม่ฟิต
เริ่มเกมการแข่งขัน อาร์เซนอล เป็นฝ่ายเดินเกมรุกเข้าใส่ แต่ถึงนาทีที่ 4 กลับกลายเป็น แบล็คเบิร์น ที่ออกนำก่อน 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกในแดนตัวเอง พอล โรบินสัน โยนยาวเข้ากรอบโทษให้ สตีเวน เอ็นซองซี ขึ้นโหม่งเสยบอลย้อยข้ามหัว วิโต มานโนเน เข้าไปเสียบใต้คาน พอเสียประตูเร็ว “ปืนใหญ่” เร่งเครื่องขึ้นมาบ้าง โทมัส โรซิคกี เล่นชิ่งกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าไปจิ้มด้วยหัวเกือกแต่บอลไซด์หลุดกรอบไป
นาทีที่ 10 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ ฟาน เพอร์ซี แทงออกขวา อังเดร อาร์ชาวิน วิ่งเข้ามาโยนเข้ากลางให้ เชส ฟาเบรกาส ขึ้นโหม่งบอลโดนปลายมือ โรบินสัน เช็ดคานออกมา ห้านาทีถัดมาทีมเยือนเกือบสงเคราะห์ประตูให้ อาร์เซนอล เมื่อ คีธ แอนดรูว์ส ลงมาช่วยเกมรับแต่โหม่งผิดเหลี่ยมหลุดกรอบแบบมีเสียว สองนาทีถัดมา “ปืนใหญ่” ตามเจ๊า 1-1 โธมัส เฟอร์มาเลน เติมเกมรุกเล่นชิ่งกับเพื่อนก่อนยิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงาม
ครึ่งชั่วโมง อาร์เซนอล เกือบได้ประตูพลิกนำเมื่อ ฟาเบรกาส ยิงไปติดเซฟ โรบินสัน จากจังหวะสวนกลับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ สาดบอลเคลียร์จากหน้าประตูตัวเอง เดวิด ดันน์ ได้บอลในเขตโทษก่อนหักยิงบอลแฉลบเท้า วิลเลียม กัลลาส เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ทีมเยือนนำ 2-1 มานโนเน หมดสิทธิด้วยประการทั้งปวง ทว่า 3 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นตามตีเสมอ 2-2 ทันควัน ฟาเบรกาส จ่ายทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่องด้วยซ้ายผ่านมือ โรบินสัน เสียบเสาอย่างเฉียบขาด
เกมของ “ปืนใหญ่” ไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ และก็มาพลิกแซง 3-2 ได้สำเร็จในนาทีที่ 37 เมื่อ ฟาน เพอร์ซี โขกต่อให้ ฟาเบรกาส ทิ่มทะลุให้ อาร์ชาวิน วิ่งเข้าไปยิงด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านตัว โรบินสัน ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านน่าจะได้ประตูทิ้งห่างเมื่อ โรซิคกี ดีดบอลจ่ายให้ ฟาเบรกาส ขึ้นโขกบอลลงพื้น โรบินสัน ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ จบ 45 นาทีแรกเกมค่อนข้างสนุกและก็เป็นเจ้าถิ่นที่ถือความได้เปรียบเรื่องของสกอร์
เปิดฉากครึ่งหลัง แบล็คเบิร์น ลุยใส่ก่อนทันทีและพยายามเรียกเอาจุดโทษเมื่อ เฟอร์มาเลน กางขาดักสกัด ดันน์ ล้มลง แต่ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ไม่มีการเป่านกหวีดยาว นาทีที่ 49 ผู้มาเยือนได้ลุ้นอีก มาร์ติน โอลส์สัน ตะบันเต็มข้อด้วยซ้ายบอลพุ่งวาบร้อนถึง มานโนเน ต้องพุ่งปัดออกไป สิบนาทีผ่านไป “บิ๊กแซม” ขยับเปลี่ยนตัวส่ง มอร์เทน กัมส์ พีเทอร์สัน ลงมาเสริมเกมริมเส้นแทน เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ที่แทบไม่มีบทบาท
ทว่านาทีที่ 57 อาร์เซนอล ได้ประตูหนีห่างเป็น 4-2 เมื่อกองหลัง “กุหลาบไฟ” สกัดไม่ ฟาเบรกาส ได้วอลเลย์ด้วยอีซ้ายส่งลูกหนังเสียบตาข่ายอย่างหมดจด เมื่อต้องการประตูตีตื้น แบล็คเบิร์น เติม เบนนี แม็คคาร์ธีย์ ลงมาและก็ถอด ดันน์ ออกไป แต่โอกาสยังเป็นของ “ปืนใหญ่” อย่างต่อเนื่อง โรซิคกี สบโอกาสยิงด้วยขวาบอลติดไซด์หลุดกรอบ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ส่ง ธีโอ วัลคอตต์ ลงมาเรียกฟิตแทน โรซิคกี ด้านทีมเยือนต้องถอด แม็คคาร์ธีย์ ที่เจ็บออกให้ทาง ดาวิด ฮอยเลตต์ กองหน้าดาวรุ่งมาเล่นแทน
นาทีที่ 73 แบล็คเบิร์น ชวดโอกาสได้ประตูไล่คืนอย่างน่าเสียดายเมื่อ ฮอยเลตต์ เอี้ยตัววอลเลย์ เฟอร์มาเลน สอดหัวมาโขกสกัดบอลพุ่งกระแทกเสาออกมา จังหวะถัดมา อาร์เซนอล สวนขึ้นไป อาบู ดิยาบี เล่นชิ่งกับ ฟาเบรกาส ก่อนยิงทแยงบอลพุ่งเรียดหลุดกรอบ นาทีที่ 75 “ปืนใหญ่” มาได้ประตูฝัง 5-2 อาร์ชาวิน ลากลุยขึ้นมาก่อนไหลเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส แตะต่อ วัลคอตต์ แปเน้นๆ ไม่เหลือ แถมก่อนหมดเวลานาทีเดียว นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ลงมาเป็นสำรองตะบันให้ทีมเฮ 6-2 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 เตะ 7 นัด มีอยู่ 15 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วิโต มานโนเน , บาการี ซานญา , วิลเลียม กัลลาส , โธมัส เฟอร์มาเลน , กาแอล กลิชี , อาบู ดิยาบี , เชส ฟาเบรกาส , อเล็กซานเดอร์ ซง , โทมัส โรซิคกี , อังเดร อาร์ชาวิน , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , ลาร์ส ยาค็อบสัน , ปาสกาล ชิมบงดา , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เอล ฮัดจิ ดิยุฟ , สตีเวน เอ็นซองซี , คีธ แอนดรูว์ส , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , เดวิด ดันน์ , ฟรังโก ดิ ซานโต
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : สตีเวน เอ็นซองซี (น.4) , 1-1 : โธมัส เฟอร์มาเลน (น.12) , 1-2 : วิลเลียม กัลลาส (ทำเข้าประตูตัวเอง น.30) , 2-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.33) , 3-2 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.37) , 4-2 : เชส ฟาเบรกาส (น.57) , 5-2 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.75) , 6-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.89)]
เอฟเวอร์ตัน 1-1 สโตก ซิตี
[0-1 : โรเบิร์ต ฮูธ (น.50) , 1-1 : ลีออน ออสแมน (น.55)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 ฟูแลม
[1-0 : คาร์ตัน โคล (น.16) , 1-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.47) , 1-2 : โซลตัน เกรา (น.57) , 2-2 : จูเนียร์ สตานิสลาส (น.90)]
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.60) , 2-0 : ฟลอร็องต์ มาลูดา (น.90)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์แซน เวนเกอร์ จัดทัพชุดที่ดีที่สุดของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ลงสนาม แถมยังได้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ กับ ธีโอ วัลคอตต์ ที่หายเจ็บกลับมาประจำการอยู่ขอบสนาม นัดนี้เกมรุกยังฝากความหวังไว้ที่ อังเดร อาร์ชาวิน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ด้าน “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น มีปัญหาในแนวรับพอสมควร แซม อัลลาไดซ์ ต้องใช้ ปาสกาล ชิมบงดา ปักหลักยืนคู่กับ กาแอล ชิเวต์ เนื่องจากทั้ง คริสโตเฟอร์ แซมบา และ ไรอัน นีลเซน ไม่ฟิต
เริ่มเกมการแข่งขัน อาร์เซนอล เป็นฝ่ายเดินเกมรุกเข้าใส่ แต่ถึงนาทีที่ 4 กลับกลายเป็น แบล็คเบิร์น ที่ออกนำก่อน 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกในแดนตัวเอง พอล โรบินสัน โยนยาวเข้ากรอบโทษให้ สตีเวน เอ็นซองซี ขึ้นโหม่งเสยบอลย้อยข้ามหัว วิโต มานโนเน เข้าไปเสียบใต้คาน พอเสียประตูเร็ว “ปืนใหญ่” เร่งเครื่องขึ้นมาบ้าง โทมัส โรซิคกี เล่นชิ่งกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าไปจิ้มด้วยหัวเกือกแต่บอลไซด์หลุดกรอบไป
นาทีที่ 10 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ ฟาน เพอร์ซี แทงออกขวา อังเดร อาร์ชาวิน วิ่งเข้ามาโยนเข้ากลางให้ เชส ฟาเบรกาส ขึ้นโหม่งบอลโดนปลายมือ โรบินสัน เช็ดคานออกมา ห้านาทีถัดมาทีมเยือนเกือบสงเคราะห์ประตูให้ อาร์เซนอล เมื่อ คีธ แอนดรูว์ส ลงมาช่วยเกมรับแต่โหม่งผิดเหลี่ยมหลุดกรอบแบบมีเสียว สองนาทีถัดมา “ปืนใหญ่” ตามเจ๊า 1-1 โธมัส เฟอร์มาเลน เติมเกมรุกเล่นชิ่งกับเพื่อนก่อนยิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงาม
ครึ่งชั่วโมง อาร์เซนอล เกือบได้ประตูพลิกนำเมื่อ ฟาเบรกาส ยิงไปติดเซฟ โรบินสัน จากจังหวะสวนกลับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ สาดบอลเคลียร์จากหน้าประตูตัวเอง เดวิด ดันน์ ได้บอลในเขตโทษก่อนหักยิงบอลแฉลบเท้า วิลเลียม กัลลาส เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ทีมเยือนนำ 2-1 มานโนเน หมดสิทธิด้วยประการทั้งปวง ทว่า 3 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นตามตีเสมอ 2-2 ทันควัน ฟาเบรกาส จ่ายทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่องด้วยซ้ายผ่านมือ โรบินสัน เสียบเสาอย่างเฉียบขาด
เกมของ “ปืนใหญ่” ไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ และก็มาพลิกแซง 3-2 ได้สำเร็จในนาทีที่ 37 เมื่อ ฟาน เพอร์ซี โขกต่อให้ ฟาเบรกาส ทิ่มทะลุให้ อาร์ชาวิน วิ่งเข้าไปยิงด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านตัว โรบินสัน ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านน่าจะได้ประตูทิ้งห่างเมื่อ โรซิคกี ดีดบอลจ่ายให้ ฟาเบรกาส ขึ้นโขกบอลลงพื้น โรบินสัน ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ จบ 45 นาทีแรกเกมค่อนข้างสนุกและก็เป็นเจ้าถิ่นที่ถือความได้เปรียบเรื่องของสกอร์
เปิดฉากครึ่งหลัง แบล็คเบิร์น ลุยใส่ก่อนทันทีและพยายามเรียกเอาจุดโทษเมื่อ เฟอร์มาเลน กางขาดักสกัด ดันน์ ล้มลง แต่ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ไม่มีการเป่านกหวีดยาว นาทีที่ 49 ผู้มาเยือนได้ลุ้นอีก มาร์ติน โอลส์สัน ตะบันเต็มข้อด้วยซ้ายบอลพุ่งวาบร้อนถึง มานโนเน ต้องพุ่งปัดออกไป สิบนาทีผ่านไป “บิ๊กแซม” ขยับเปลี่ยนตัวส่ง มอร์เทน กัมส์ พีเทอร์สัน ลงมาเสริมเกมริมเส้นแทน เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ที่แทบไม่มีบทบาท
ทว่านาทีที่ 57 อาร์เซนอล ได้ประตูหนีห่างเป็น 4-2 เมื่อกองหลัง “กุหลาบไฟ” สกัดไม่ ฟาเบรกาส ได้วอลเลย์ด้วยอีซ้ายส่งลูกหนังเสียบตาข่ายอย่างหมดจด เมื่อต้องการประตูตีตื้น แบล็คเบิร์น เติม เบนนี แม็คคาร์ธีย์ ลงมาและก็ถอด ดันน์ ออกไป แต่โอกาสยังเป็นของ “ปืนใหญ่” อย่างต่อเนื่อง โรซิคกี สบโอกาสยิงด้วยขวาบอลติดไซด์หลุดกรอบ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ส่ง ธีโอ วัลคอตต์ ลงมาเรียกฟิตแทน โรซิคกี ด้านทีมเยือนต้องถอด แม็คคาร์ธีย์ ที่เจ็บออกให้ทาง ดาวิด ฮอยเลตต์ กองหน้าดาวรุ่งมาเล่นแทน
นาทีที่ 73 แบล็คเบิร์น ชวดโอกาสได้ประตูไล่คืนอย่างน่าเสียดายเมื่อ ฮอยเลตต์ เอี้ยตัววอลเลย์ เฟอร์มาเลน สอดหัวมาโขกสกัดบอลพุ่งกระแทกเสาออกมา จังหวะถัดมา อาร์เซนอล สวนขึ้นไป อาบู ดิยาบี เล่นชิ่งกับ ฟาเบรกาส ก่อนยิงทแยงบอลพุ่งเรียดหลุดกรอบ นาทีที่ 75 “ปืนใหญ่” มาได้ประตูฝัง 5-2 อาร์ชาวิน ลากลุยขึ้นมาก่อนไหลเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส แตะต่อ วัลคอตต์ แปเน้นๆ ไม่เหลือ แถมก่อนหมดเวลานาทีเดียว นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ลงมาเป็นสำรองตะบันให้ทีมเฮ 6-2 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 เตะ 7 นัด มีอยู่ 15 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วิโต มานโนเน , บาการี ซานญา , วิลเลียม กัลลาส , โธมัส เฟอร์มาเลน , กาแอล กลิชี , อาบู ดิยาบี , เชส ฟาเบรกาส , อเล็กซานเดอร์ ซง , โทมัส โรซิคกี , อังเดร อาร์ชาวิน , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , ลาร์ส ยาค็อบสัน , ปาสกาล ชิมบงดา , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เอล ฮัดจิ ดิยุฟ , สตีเวน เอ็นซองซี , คีธ แอนดรูว์ส , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , เดวิด ดันน์ , ฟรังโก ดิ ซานโต
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
อาร์เซนอล 6-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : สตีเวน เอ็นซองซี (น.4) , 1-1 : โธมัส เฟอร์มาเลน (น.12) , 1-2 : วิลเลียม กัลลาส (ทำเข้าประตูตัวเอง น.30) , 2-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.33) , 3-2 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.37) , 4-2 : เชส ฟาเบรกาส (น.57) , 5-2 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.75) , 6-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.89)]
เอฟเวอร์ตัน 1-1 สโตก ซิตี
[0-1 : โรเบิร์ต ฮูธ (น.50) , 1-1 : ลีออน ออสแมน (น.55)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 ฟูแลม
[1-0 : คาร์ตัน โคล (น.16) , 1-1 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.47) , 1-2 : โซลตัน เกรา (น.57) , 2-2 : จูเนียร์ สตานิสลาส (น.90)]
เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.60) , 2-0 : ฟลอร็องต์ มาลูดา (น.90)]
