โธมัส เวอร์มาเลน ปราการหลังเหมาสองประตูช่วยให้ อาร์เซนอล เปิดบ้านถล่ม วีแกน 4-0 ขณะที่ แอสตัน วิลลา เอาชนะ ปอร์ทสมัธ ไปอย่างไม่ยากเย็น 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 4-0 วีแกน
อาร์เซนอล ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้งตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ต้องส่ง วีโต มานโนเน ดาวรุ่งลงเฝ้าเสาต่อ เช่นเดียวกับผู้เล่นเกมรุกที่ยังขาด อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี, ธีโอ วัลคอตต์ และ เดนิลสัน ขณะที่ วีแกน ของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผู้เล่นตัวหลักค่อนข้างพร้อม โดยมี เจสัน คูมาส และ ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย คอยปั้นเกมให้ ฮูโก โรดัลเยกา
เริ่มครึ่แรก เจ้าบ้านทำเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจนมาถึงนาที 9 ฟาน เพอร์ซีย์ ได้วอลเลย์จากนอกเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้นดาวยิงชาวดัตช์มีโอกาสลุ้นอีกครั้งในนาที 17 จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลา แต่ปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาออกไปนิดเดียว
อาร์เซนอล บุกกดดันต่อเนื่อง นาที 21 ฟาเบรกาส แทงบอลทะลุช่องให้ เอดูเอาโด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจะเปิดไปทางเสาไกล เอบูเอ ได้โหม่งไปชนเสา แต่มีการใช้มือช่วยด้วยทำให้ถูกใบเหลืองจากกรรมการไป แต่อีก 3 นาทีต่อมาทีมก็มาทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุมและเป็น เวอร์มาเลน โหม่งเข้าประตูไป
เกมมาถึงนาที 33 ฟาน เพอร์ซีย์ ได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ เอบูเอ หลุดเข้าไปมุมแคบจิ้มบอลผ่านตัว เคิร์กแลนด์ แต่บอลไม่ตรงกรอบผ่านหน้าประตูออกไป อีก 2 นาทีต่อมา วีแกน เกือบตีเสมอได้สำเร็จจากลูกเตะมุม บอลลอยมาเข้าหัว ดิยาเม โหนตัวโหม่ง แต่ถูก มานโนเน ปัดออกมาได้หวุดหวิด
เอดูอาร์โด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้ายอีกครั้งในนาที 42 ก่อนจะปาดมาให้ ฟาน เพอร์ซีย์ วิ่งมาแปด้วยซ้าย เคิร์กแลนด์ รับกระฉอกเล็กน้อยแต่ตามมาตะครุบได้ทันในจังหวะสอง เกมเข้าสู่ช่วงทดเจ็บกองหน้าชาวดัตช์พลาดซัลโวประตูอีกครั้งเมื่อได้หลุดเดี่ยว แต่ลูกยิงตวัดกลับหลังหลุดเสาออกไป จากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 3 นาที "เดอะกันเนอร์ส" ขยับหนีเป็น 2-0 จาก เวอร์มาเลน คนเดิมที่เล่นชิงกับ เอบูเอ จนหลุดขึ้นมาปั่นด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทษ บอลโค้งหนีมือ เคิร์กแลนด์ เข้าไปอย่างสวยงาม ทางฝั่ง วีแกน มีจังหวะทำประตูอีกครั้งเมื่อมาถึงนาที 51 แต่ลูกยิงของ โธมัส ถูก มานโนเน ตะครุบสบาย
ทีมเยือนบุกขึ้นมากดดันอีกครั้งในนาที 57 เมื่อ โรดัลเยกา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ซัดไปตรงตัวนายด่านปืนโต นาทีถัดมา อาร์เซนอล ทะยานห่าง 3-0 จากจังหวะที่ กลีชี เติมเกมบุกขึ้นมา ก่อนจะเปิดบอลไปทางเสาสองให้ เอดูอาร์โด ซัดจังหวะแรกบอลไปชนเสา แต่ยังตามมาซ้ำดาบสองเข้าประตูไป
อาร์เซนอล เดินเครื่องต่อ ซง โชว์ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลขึ้นมาจากกลางสนามจนได้ยิงตรงเส้นเขตโทษ แต่บอลไปชนโคนเสาออกหลังไป จากนั้นอีก 2 นาที กลีชี วางบอลยาวจากแดนตัวเองมาให้ เอดูอาร์โด จับบอลลง ก่อนจะซัดด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ เคิร์กแลนด์
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย วีแกน เกือบตีไข่แตกได้ถึง 2 จังหวะจากลูกฟรีคิกของ โรดัลเยกา แต่ไม่ผ่านมือ มานโนเน หลังจากนั้น ชาร์เนอร์ ได้ซ้ำลูกยิงของ โกเมซ เข้าประตูไป แต่ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน จนกระทั่งนาทีสุดท้าย ฟาเบรกาส มายิงประตูฝังจากการเข้าชาร์จลูกเปิดของ เบนด์ทเนอร์ ทำให้จบ 90 นาที อาร์เซนอล ถล่มไป 4-0
ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่น เบิร์ลีย์ ยังโชว์ฟอร์มแกร่งในบ้านไล่ทุบ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 ขณะที่ แอสตัน วิลลา เปิดสนามวิลลา ปาร์ก เอาชนะ ปอร์ทสมัธ ไปอย่างสบายเท้า 2-0 ส่วน แกรี โอคอนเนอร์ เป็นฮีโรซัดประตูชัยให้ เบอร์มิงแฮม บุกไปเฉือน ฮัลล์ ซิตี 1-0
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วีโต มานโนเน, โธมัส เวอร์มาเลน, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลีชี, บาการี ซานญา, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อาบู ดิยาบี, เอ็มมานูเอล เอบูเอ, โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์, เอดูอาร์โด
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, ไตตัส บรัมเบิล, เมย์เนอร์ ฟิเกรัว, มาริโอ เมลคิออต, โมฮัมเหม็ด ดิยาเม, เฮนดรีย์ โธมัส, เจสัน คูมาส, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย, ฮูโก โรดัลเยกา, ยอร์ดี โกเมซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบิร์นลีย์ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1
[1-0 : แกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ลูกจุดโทษ น.13], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.39], [2-1 : เดวิด นูเจนท์ น.67], [3-1 : เดวิด นูเจนท์ น.86]
อาร์เซนอล ชนะ วีแกน 4-0
[1-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.25], [2-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.49], [3-0 : เอดูอาร์โด น.59], [4-0 : เชส ฟาเบรกาส น.90]
แอสตัน วิลลา ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
[1-0 : เจมส์ มิลเนอร์ ลูกจุดโทษ น.34], [2-0 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ น.43]
โบลตัน เสมอ สโต๊ค 1-1
[0-1 : เดฟ คิตสัน น.53], [1-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ ลูกจุดโทษ น.89]
ฮัลล์ แพ้ เบอร์มิงแฮม 0-1
[0-1 : แกรี โอคอนเนอร์ น.75]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
[0-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.20], [1-1 : อเลสซานโดร ดิอามันติ ลูกจุดโทษ น.29], [1-2 : เดิร์ก เคาท์ น.41], [2-2 : คาร์ลตัน โคล น.45], [2-3 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.75]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 4-0 วีแกน
อาร์เซนอล ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้งตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ต้องส่ง วีโต มานโนเน ดาวรุ่งลงเฝ้าเสาต่อ เช่นเดียวกับผู้เล่นเกมรุกที่ยังขาด อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี, ธีโอ วัลคอตต์ และ เดนิลสัน ขณะที่ วีแกน ของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผู้เล่นตัวหลักค่อนข้างพร้อม โดยมี เจสัน คูมาส และ ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย คอยปั้นเกมให้ ฮูโก โรดัลเยกา
เริ่มครึ่แรก เจ้าบ้านทำเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจนมาถึงนาที 9 ฟาน เพอร์ซีย์ ได้วอลเลย์จากนอกเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้นดาวยิงชาวดัตช์มีโอกาสลุ้นอีกครั้งในนาที 17 จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลา แต่ปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาออกไปนิดเดียว
อาร์เซนอล บุกกดดันต่อเนื่อง นาที 21 ฟาเบรกาส แทงบอลทะลุช่องให้ เอดูเอาโด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจะเปิดไปทางเสาไกล เอบูเอ ได้โหม่งไปชนเสา แต่มีการใช้มือช่วยด้วยทำให้ถูกใบเหลืองจากกรรมการไป แต่อีก 3 นาทีต่อมาทีมก็มาทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุมและเป็น เวอร์มาเลน โหม่งเข้าประตูไป
เกมมาถึงนาที 33 ฟาน เพอร์ซีย์ ได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ เอบูเอ หลุดเข้าไปมุมแคบจิ้มบอลผ่านตัว เคิร์กแลนด์ แต่บอลไม่ตรงกรอบผ่านหน้าประตูออกไป อีก 2 นาทีต่อมา วีแกน เกือบตีเสมอได้สำเร็จจากลูกเตะมุม บอลลอยมาเข้าหัว ดิยาเม โหนตัวโหม่ง แต่ถูก มานโนเน ปัดออกมาได้หวุดหวิด
เอดูอาร์โด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้ายอีกครั้งในนาที 42 ก่อนจะปาดมาให้ ฟาน เพอร์ซีย์ วิ่งมาแปด้วยซ้าย เคิร์กแลนด์ รับกระฉอกเล็กน้อยแต่ตามมาตะครุบได้ทันในจังหวะสอง เกมเข้าสู่ช่วงทดเจ็บกองหน้าชาวดัตช์พลาดซัลโวประตูอีกครั้งเมื่อได้หลุดเดี่ยว แต่ลูกยิงตวัดกลับหลังหลุดเสาออกไป จากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 3 นาที "เดอะกันเนอร์ส" ขยับหนีเป็น 2-0 จาก เวอร์มาเลน คนเดิมที่เล่นชิงกับ เอบูเอ จนหลุดขึ้นมาปั่นด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทษ บอลโค้งหนีมือ เคิร์กแลนด์ เข้าไปอย่างสวยงาม ทางฝั่ง วีแกน มีจังหวะทำประตูอีกครั้งเมื่อมาถึงนาที 51 แต่ลูกยิงของ โธมัส ถูก มานโนเน ตะครุบสบาย
ทีมเยือนบุกขึ้นมากดดันอีกครั้งในนาที 57 เมื่อ โรดัลเยกา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ซัดไปตรงตัวนายด่านปืนโต นาทีถัดมา อาร์เซนอล ทะยานห่าง 3-0 จากจังหวะที่ กลีชี เติมเกมบุกขึ้นมา ก่อนจะเปิดบอลไปทางเสาสองให้ เอดูอาร์โด ซัดจังหวะแรกบอลไปชนเสา แต่ยังตามมาซ้ำดาบสองเข้าประตูไป
อาร์เซนอล เดินเครื่องต่อ ซง โชว์ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลขึ้นมาจากกลางสนามจนได้ยิงตรงเส้นเขตโทษ แต่บอลไปชนโคนเสาออกหลังไป จากนั้นอีก 2 นาที กลีชี วางบอลยาวจากแดนตัวเองมาให้ เอดูอาร์โด จับบอลลง ก่อนจะซัดด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ เคิร์กแลนด์
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย วีแกน เกือบตีไข่แตกได้ถึง 2 จังหวะจากลูกฟรีคิกของ โรดัลเยกา แต่ไม่ผ่านมือ มานโนเน หลังจากนั้น ชาร์เนอร์ ได้ซ้ำลูกยิงของ โกเมซ เข้าประตูไป แต่ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน จนกระทั่งนาทีสุดท้าย ฟาเบรกาส มายิงประตูฝังจากการเข้าชาร์จลูกเปิดของ เบนด์ทเนอร์ ทำให้จบ 90 นาที อาร์เซนอล ถล่มไป 4-0
ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่น เบิร์ลีย์ ยังโชว์ฟอร์มแกร่งในบ้านไล่ทุบ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 ขณะที่ แอสตัน วิลลา เปิดสนามวิลลา ปาร์ก เอาชนะ ปอร์ทสมัธ ไปอย่างสบายเท้า 2-0 ส่วน แกรี โอคอนเนอร์ เป็นฮีโรซัดประตูชัยให้ เบอร์มิงแฮม บุกไปเฉือน ฮัลล์ ซิตี 1-0
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วีโต มานโนเน, โธมัส เวอร์มาเลน, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลีชี, บาการี ซานญา, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อาบู ดิยาบี, เอ็มมานูเอล เอบูเอ, โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์, เอดูอาร์โด
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, ไตตัส บรัมเบิล, เมย์เนอร์ ฟิเกรัว, มาริโอ เมลคิออต, โมฮัมเหม็ด ดิยาเม, เฮนดรีย์ โธมัส, เจสัน คูมาส, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย, ฮูโก โรดัลเยกา, ยอร์ดี โกเมซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบิร์นลีย์ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1
[1-0 : แกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ลูกจุดโทษ น.13], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.39], [2-1 : เดวิด นูเจนท์ น.67], [3-1 : เดวิด นูเจนท์ น.86]
อาร์เซนอล ชนะ วีแกน 4-0
[1-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.25], [2-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.49], [3-0 : เอดูอาร์โด น.59], [4-0 : เชส ฟาเบรกาส น.90]
แอสตัน วิลลา ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
[1-0 : เจมส์ มิลเนอร์ ลูกจุดโทษ น.34], [2-0 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ น.43]
โบลตัน เสมอ สโต๊ค 1-1
[0-1 : เดฟ คิตสัน น.53], [1-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ ลูกจุดโทษ น.89]
ฮัลล์ แพ้ เบอร์มิงแฮม 0-1
[0-1 : แกรี โอคอนเนอร์ น.75]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
[0-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.20], [1-1 : อเลสซานโดร ดิอามันติ ลูกจุดโทษ น.29], [1-2 : เดิร์ก เคาท์ น.41], [2-2 : คาร์ลตัน โคล น.45], [2-3 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.75]