ดิดิเยร์ ดร็อกบา ซัด 2 ประตูสำคัญรวมถึงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ ฮัลล์ ซิตี ไปแบบหืดขึ้นคอ 2-1 ในเกมประเดิมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ฮัลล์ ซิตี
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ หมดสิทธิ์ใช้งาน ยูริ เซียร์คอฟ ดาวเตะตัวใหม่ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมถึง โจ โคล และ เปาโล แฟร์ไรรา อย่างไรก็ตามตัวสำคัญอย่าง จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยังอยู่อย่างครบครัน ขณะที่ ฮัลล์ ซิตี ของ ฟิล บราวน์ จัดการส่ง สตีเฟน ฮันท์ และ เซยี โอโลฟินยาน ที่ซื้อมาใหม่ลงสนามทันทีมาผนึกกำลังกับ จอร์จ บัวเต็ง และ คาเลบ โฟลัน ในการทำเกมรุก
เริ่มเขี่ยบอล เกมผ่านมาเพียง 2 นาที เชลซี มีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เอสเซียง หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดบอลกลับเข้ากลาง บอลเลยมาถึง ดร็อกบา ซึ่งไร้ตัวประกบจัดการวอลเลย์ทันที แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากตั้งรับอยู่นาน ฮัลล์ มีลุ้นครั้งแรกในนาที 9 เมื่อ บัวเต็ง ไล่บี้แย่งบอลจากกองหลังเจ้าบ้านมาได้ ก่อนจิ้มบอลด้วยหัวเกือก แต่บอลหลุดเสาออกไปเช่นกัน
หลังจากเกมตื้อไปพักใหญ่ "สิงห์บลูส์" มาได้เสียวอีกครั้งในนาที 15 จากจังหวะเตะมุม โดย มาลูดา เปิดบอลจากมุมธงมาเข้าหัว เทอร์รี ลอยตัวโหม่ง บอลเหินคานข้ามนิดเดียวไปตกบนหลังประตู เจ้าถิ่นยังบุกต่อเนื่อง มาถึงนาที 25 แลมพาร์ด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนวางบอลมาทางเสาสอง เอสเซียง โหม่งโล่งๆ แต่บอลเฉียดเสาออกไป
แต่กลายเป็นทีมเยือนที่เป็นฝ่ายออกนำก่อนอย่างพลิกความคาดหมายในนาที 28 โดยเริ่มจากจังหวะลูกตั้งเตะ กองหลังเชลซีเคลียร์กันไม่ขาด บอลมาตกใส่ บัวเต็ง พักอกพาบอลหลุดเข้าไปซัดจังหวะแรก บอลพุ่งไปกระดอน เอสเซียง กลับมาเข้าทาง ฮันท์ ตามมาแปซ้ำง่ายๆให้ "พี่เสือ" นำ 1-0
หลังถูกลูบคม ลูกทีมของอันเชล็อตติโหมบุกใส่อย่างหนัก มาถึงนาที 34 ดร็อกบา ซึ่งฉีกตัวเองมาอยู่ทางริมเส้นเก็บบอลได้ ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในมาซัดตรงหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว มายฮิลล์ รับเข้าซอง แต่อีก 2 นาทีต่อมา โอโลฟินยานา ไปพลาดทำฟาวล์ใส่ โอบี มิเกล จนเสียฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ดร็อกบา รับหน้าที่ปั่นเต็มแรงหนีมือนายทวารคู่แข่งส่งบอลตุงตาข่ายทำให้ เชลซี ตามตีเสมอ 1-1
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่นยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง เอสเซียง และ ดร็อกบา มีโอกาสบวกประตูเพิ่มให้ทีม แต่ก็ซัดไม่ผ่านมือ มายฮิลล์ จนสุดท้ายจบ 45 นาทีแรกไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มจึงเสมอกันอยู่ 1-1
เริ่มเกมครึ่งลงสนามมาไม่ถึงนาที เชลซี ทักทายก่อน เมื่อ ดร็อกบา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจ่ายต่อให้ อเนลกา ซัดโล่งๆหน้าประตู แต่ดันยิงไปตรงตัว มายฮิลล์ ทางฝั่งทีมเยือนลงสนามมาก็อาศัยชิงจังหวะรอสวนกลับ แต่ก็ไม่สามารถกดดันแผงหลังของเจ้าถิ่นได้มากนัก
มาถึงนาที 56 "สิงห์บลูส์" มีโอกาสพลิกนำถึง 2 จังหวะ เริ่มจากลูกเตะมุม แลมพาร์ด โยนบอลเข้ากลาง บอลเลยมาถึง อเนลกา ได้ซัดจ่อๆหน้าปากประตู แต่ไปติดนายด่านคู่แข่งอีก หลังจากนั้นทีมเก็บบอลได้อีกและหนุนกลับขึ้นมาจนบอลมาถึง ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดมุมแคบ แต่ถูกเซฟไว้เหมือนเดิม
อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยยังครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่หาโอกาสเข้าทำประตูแบบจะแจ้งไม่ได้ จนมาถึงนาที 74 ดร็อกบา หลอกล่อกองหลังอยู่ตรงริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะไหลย้อนกลับมาให้ เอสเซียง อัดด้วยขวาตรงเส้นโทษ บอลพุ่งฮุคลง แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว นาทีต่อมา โบซิงวา แหวกกองหลังเข้ามาซัดมุมแคบ แต่ถูก มายฮิลล์ ปัดออกหลังไปอีก
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซี เปลี่ยน ซาโลมง กาลู ลงมาแทน อเนลกา โดยหลังลงสนามมาเพียงครู่เดียว ดาวยิงชาวไอเวอรี โคสท์ เกือบโหม่งประตูขึ้นนำให้ทีมจากลูกเปิดของ เดโก ตัวสำรองอีกคน แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 แฟนบอลก็ได้เฮกันทั้งสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ เดโก แทงบอลต่อให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในเขตโทษ เนื่องจากมุมแคบจึงพยายามเปิดบอลกลับเข้ากลาง แต่ดันกลายเป็นดีบอลลอยข้ามหัว มายฮิลล์ ย้อยลงเข้าซุกก้นตาข่ายทำให้ เชลซี พลิกนำ 2-1 หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูกันอีก จบเกมเจ้าถิ่นถึงเอาชนะไปแบบหืดขึ้นคอด้วยสกอร์ดังกล่าว
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, มิเชล เอสเซียง, ฟลอรองต์ มาลูดา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ฮัลล์ ซิตี : โบอัซ มายฮิลล์, แบร์กนาร์ เมนดี, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนโธนีย์ การ์ดเนอร์, แอนดี ดอว์สัน, ดีน มาร์นีย์, เซยี โอโลฟินยานา, สตีเวน มูโยโกโล, จอร์จ บัวเต็ง, สตีเฟน ฮันท์, คาเลบ โฟลัน
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี ชนะ ฮัลล์ ซิตี 2-1 [0-1 : สตีเฟน ฮันท์ น.28], [1-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.37], [2-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.90]
แอสตัน วิลล่า แพ้ วีแกน 0-2 [0-1 : ฮูโก โรดัลเลกา น.31], [0-2 : เจสัน คูมาส น.56]
แบล็กเบิร์น แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-2 [0-2 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.3], [0-2 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.90]
โบลตัน แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 [0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.5]
ปอร์ทสมัธ แพ้ ฟูแลม 0-1 [0-1 : บ็อบบี ซาโมรา น.13]
สโต๊ก ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 [1-0 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.19], [2-0 : สตีเฟน จอร์แดน ทำเข้าประตูตัวเอง น.33]
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ เวสต์แฮม 0-2 [0-1 : มาร์ก โนเบิล น.22], [0-2 : แมทธิว อัพสัน น.69]
เอฟเวอร์ตัน แพ้ อาร์เซนอล 1-6 [0-1 : เดนิลสัน น.27], [0-2 : โธมัส เวอร์มาเลน น.37], [0-3 : วิลเลียม กัลลาส น.41], [0-4 : เชส ฟาเบรกาส น.48], [0-5 : เชส ฟาเบรกาส น.70], [0-6 : เอดูอาร์โด น.89], [1-6 : หลุยส์ ซาฮา น.90]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ฮัลล์ ซิตี
เชลซี ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ หมดสิทธิ์ใช้งาน ยูริ เซียร์คอฟ ดาวเตะตัวใหม่ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมถึง โจ โคล และ เปาโล แฟร์ไรรา อย่างไรก็ตามตัวสำคัญอย่าง จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยังอยู่อย่างครบครัน ขณะที่ ฮัลล์ ซิตี ของ ฟิล บราวน์ จัดการส่ง สตีเฟน ฮันท์ และ เซยี โอโลฟินยาน ที่ซื้อมาใหม่ลงสนามทันทีมาผนึกกำลังกับ จอร์จ บัวเต็ง และ คาเลบ โฟลัน ในการทำเกมรุก
เริ่มเขี่ยบอล เกมผ่านมาเพียง 2 นาที เชลซี มีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เอสเซียง หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดบอลกลับเข้ากลาง บอลเลยมาถึง ดร็อกบา ซึ่งไร้ตัวประกบจัดการวอลเลย์ทันที แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากตั้งรับอยู่นาน ฮัลล์ มีลุ้นครั้งแรกในนาที 9 เมื่อ บัวเต็ง ไล่บี้แย่งบอลจากกองหลังเจ้าบ้านมาได้ ก่อนจิ้มบอลด้วยหัวเกือก แต่บอลหลุดเสาออกไปเช่นกัน
หลังจากเกมตื้อไปพักใหญ่ "สิงห์บลูส์" มาได้เสียวอีกครั้งในนาที 15 จากจังหวะเตะมุม โดย มาลูดา เปิดบอลจากมุมธงมาเข้าหัว เทอร์รี ลอยตัวโหม่ง บอลเหินคานข้ามนิดเดียวไปตกบนหลังประตู เจ้าถิ่นยังบุกต่อเนื่อง มาถึงนาที 25 แลมพาร์ด หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนวางบอลมาทางเสาสอง เอสเซียง โหม่งโล่งๆ แต่บอลเฉียดเสาออกไป
แต่กลายเป็นทีมเยือนที่เป็นฝ่ายออกนำก่อนอย่างพลิกความคาดหมายในนาที 28 โดยเริ่มจากจังหวะลูกตั้งเตะ กองหลังเชลซีเคลียร์กันไม่ขาด บอลมาตกใส่ บัวเต็ง พักอกพาบอลหลุดเข้าไปซัดจังหวะแรก บอลพุ่งไปกระดอน เอสเซียง กลับมาเข้าทาง ฮันท์ ตามมาแปซ้ำง่ายๆให้ "พี่เสือ" นำ 1-0
หลังถูกลูบคม ลูกทีมของอันเชล็อตติโหมบุกใส่อย่างหนัก มาถึงนาที 34 ดร็อกบา ซึ่งฉีกตัวเองมาอยู่ทางริมเส้นเก็บบอลได้ ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในมาซัดตรงหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว มายฮิลล์ รับเข้าซอง แต่อีก 2 นาทีต่อมา โอโลฟินยานา ไปพลาดทำฟาวล์ใส่ โอบี มิเกล จนเสียฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ดร็อกบา รับหน้าที่ปั่นเต็มแรงหนีมือนายทวารคู่แข่งส่งบอลตุงตาข่ายทำให้ เชลซี ตามตีเสมอ 1-1
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่นยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง เอสเซียง และ ดร็อกบา มีโอกาสบวกประตูเพิ่มให้ทีม แต่ก็ซัดไม่ผ่านมือ มายฮิลล์ จนสุดท้ายจบ 45 นาทีแรกไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มจึงเสมอกันอยู่ 1-1
เริ่มเกมครึ่งลงสนามมาไม่ถึงนาที เชลซี ทักทายก่อน เมื่อ ดร็อกบา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจ่ายต่อให้ อเนลกา ซัดโล่งๆหน้าประตู แต่ดันยิงไปตรงตัว มายฮิลล์ ทางฝั่งทีมเยือนลงสนามมาก็อาศัยชิงจังหวะรอสวนกลับ แต่ก็ไม่สามารถกดดันแผงหลังของเจ้าถิ่นได้มากนัก
มาถึงนาที 56 "สิงห์บลูส์" มีโอกาสพลิกนำถึง 2 จังหวะ เริ่มจากลูกเตะมุม แลมพาร์ด โยนบอลเข้ากลาง บอลเลยมาถึง อเนลกา ได้ซัดจ่อๆหน้าปากประตู แต่ไปติดนายด่านคู่แข่งอีก หลังจากนั้นทีมเก็บบอลได้อีกและหนุนกลับขึ้นมาจนบอลมาถึง ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดมุมแคบ แต่ถูกเซฟไว้เหมือนเดิม
อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยยังครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่หาโอกาสเข้าทำประตูแบบจะแจ้งไม่ได้ จนมาถึงนาที 74 ดร็อกบา หลอกล่อกองหลังอยู่ตรงริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะไหลย้อนกลับมาให้ เอสเซียง อัดด้วยขวาตรงเส้นโทษ บอลพุ่งฮุคลง แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว นาทีต่อมา โบซิงวา แหวกกองหลังเข้ามาซัดมุมแคบ แต่ถูก มายฮิลล์ ปัดออกหลังไปอีก
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซี เปลี่ยน ซาโลมง กาลู ลงมาแทน อเนลกา โดยหลังลงสนามมาเพียงครู่เดียว ดาวยิงชาวไอเวอรี โคสท์ เกือบโหม่งประตูขึ้นนำให้ทีมจากลูกเปิดของ เดโก ตัวสำรองอีกคน แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 แฟนบอลก็ได้เฮกันทั้งสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ เดโก แทงบอลต่อให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในเขตโทษ เนื่องจากมุมแคบจึงพยายามเปิดบอลกลับเข้ากลาง แต่ดันกลายเป็นดีบอลลอยข้ามหัว มายฮิลล์ ย้อยลงเข้าซุกก้นตาข่ายทำให้ เชลซี พลิกนำ 2-1 หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูกันอีก จบเกมเจ้าถิ่นถึงเอาชนะไปแบบหืดขึ้นคอด้วยสกอร์ดังกล่าว
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, มิเชล เอสเซียง, ฟลอรองต์ มาลูดา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ฮัลล์ ซิตี : โบอัซ มายฮิลล์, แบร์กนาร์ เมนดี, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนโธนีย์ การ์ดเนอร์, แอนดี ดอว์สัน, ดีน มาร์นีย์, เซยี โอโลฟินยานา, สตีเวน มูโยโกโล, จอร์จ บัวเต็ง, สตีเฟน ฮันท์, คาเลบ โฟลัน
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี ชนะ ฮัลล์ ซิตี 2-1 [0-1 : สตีเฟน ฮันท์ น.28], [1-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.37], [2-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.90]
แอสตัน วิลล่า แพ้ วีแกน 0-2 [0-1 : ฮูโก โรดัลเลกา น.31], [0-2 : เจสัน คูมาส น.56]
แบล็กเบิร์น แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-2 [0-2 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.3], [0-2 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.90]
โบลตัน แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 [0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.5]
ปอร์ทสมัธ แพ้ ฟูแลม 0-1 [0-1 : บ็อบบี ซาโมรา น.13]
สโต๊ก ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 [1-0 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.19], [2-0 : สตีเฟน จอร์แดน ทำเข้าประตูตัวเอง น.33]
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ เวสต์แฮม 0-2 [0-1 : มาร์ก โนเบิล น.22], [0-2 : แมทธิว อัพสัน น.69]
เอฟเวอร์ตัน แพ้ อาร์เซนอล 1-6 [0-1 : เดนิลสัน น.27], [0-2 : โธมัส เวอร์มาเลน น.37], [0-3 : วิลเลียม กัลลาส น.41], [0-4 : เชส ฟาเบรกาส น.48], [0-5 : เชส ฟาเบรกาส น.70], [0-6 : เอดูอาร์โด น.89], [1-6 : หลุยส์ ซาฮา น.90]