xs
xsm
sm
md
lg

"สิงห์" อัดเจ้าสัว 3-1 ทำแต้มเท่า"หงส์", "ปืน" ถล่ม 3-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สิงห์บลูส์" เชลซี โชว์ฟอร์มเฉียบเปิดบ้านไล่ต้อน ฟูแลม 3-1 พร้อมทำคะแนนขึ้นมาเท่า ลิเวอร์พูล ที่ 74 คะแนน แต่ประตูได้เสียเป็นรองกว่ารั้งอยู่ที่ 3 ต่อไป ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ไม่น้อยหน้าบุกถลุง ปอร์ทสมัธ 3-0 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี 3-1 ฟูแลม

ผู้เล่นเจ้าถิ่นร่วมกันดีใจหลังทำประตูได้
เชลซี หมดสิทธิ์ใช้งาน เดโก และ ริคาร์โด คาวัลโญ สองดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสเนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ยังมี แฟรงค์ แลมพาร์ด คอยคุมเกมแดนกลางเหมือนเดิม ส่วนคู่กองหน้าเป็นการจับคู่กันของ นิโกลาส์ อเนลกา และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ขณะที่ ฟูแลม มีข่าวดีเมื่อ บ็อบบี ซาโมรา ผ่านความฟิตลงสนามมาล่าตาข่ายคู่กับ เอริก เนฟแลนด์ แต่ไม่สามารถใช้งาน ไซมอน เดวิส ที่ปิดเทอมยาวหลังเข้าผ่าตัดจากปัญหาเจ็บเท้า
อเนลกา ส่องประตูแรก
เกมครึ่งแรกผ่านมาเพียง 2 นาที เชลซี มาทำประตูออกนำอย่างรวดเร็ว เริ่มจากจังหวะการทำชิ่งกันขึ้นมาระหว่าง อเนลกา และ มาลูดา ก่อนที่บอลไปถึง ดร็อกบา ที่หน้าเขตโทษ จ่ายย้อนกลับมาอีกครั้งให้ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสหลุดเข้าไปในเขตโทษยิงผ่านมือ ชวาร์เซอร์ เข้าไป สกอร์ขยับ 1-0

แต่อีก 2 นาทีต่อมา ฟูแลม มาทำประตูตีเสมอได้อย่างทันควัน เริ่มจาก เมอร์ฟีย์ เก็บบอลได้ตรงแดนตัวเอง ก่อนวางบอลข้ามแผงกองหลังเจ้าถิ่นให้ เนฟแลนด์ วิ่งฉีกมาเอาบอล จากนั้นกระชากหนี อเล็กซ์ ที่วิ่งไล่ตามจนหลุดเข้าไปถึงเขตโทษและตัดสินใจอัดด้วยขวาเต็มแรง เช็ก ตะปปไม่ทัน บอลเสียบเสาเข้าไปให้ทีมเยือนตีเสมอ 1-1

หลังเสียประตู เจ้าถิ่นพยายามบุกเข้าใส่อีกครั้ง มาถึงนาที 7 แลมพาร์ด รับบอลได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจชิปบอลหวังให้ข้ามหัวนายด่านทีมเยือน แต่ยังไม่ดีพอบอลเลยข้ามคานออกไป แต่อีก 3 นาทีต่อมา "สิงห์บลูส์" มาทำประตูออกนำอีกจนได้ เริ่มจากลูกทุ่ม อเนลกา เก็บบอลได้ ก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ ดร็อกบา หลุดเข้าเขตโทษ จากนั้น ดาวยิงไอเวอรี โคสต์ ตวัดกลับเข้ากลาง บอลผ่านกองหลังเลยมาถึง มาลูดา ซัดด้วยซ้ายย้อนเข้าเสาแรก สกอร์ขยับ 2-1

อีกเพียงอึดใจเดียว ฟูแลม เกือบทวงประตูคืนอย่างรวดเร็วอีกครั้งเช่นกัน จากจังหวะที่ คอนเชสกี ทำเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนหยอดบอลมาหน้าเขตโทษ เดมปซีย์ พักบอลย้อนหลังกลับมาให้ เนฟแลนด์ วิ่งมาวอลเลย์เต็มข้อ บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวแบบมีลุ้น

หลังจากนั้นทั้งสองทีมเริ่มระวังตัวกันมากขึ้นจนปิดโอกาสของแต่ละฝ่ายในการลุ้นทำประตูอย่างชัดเจน แต่เกมมาสนุกอีกครั้งในช่วงท้ายครึ่งแรก เริ่มจาก แลมพาร์ด เก็บบอลได้บริเวณหน้าเขตโทษทีมเยือน ก่อนถ่ายบอลต่อให้ อเนลกา ทางริมเส้นด้านซ้าย ดาวยิงเลือดน้ำหอมหลอกล่อกองหลังเพื่อหาช่อง ก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษง้างเท้ายิงในเขตโทษ แต่ถูกกองหลังอาคันตุกะบล็อกออกหลังไปได้เพียงเตะมุม
ดร็อกบา กระชากหนีคู่แข่ง
เกมมาถึงนาที 44 "สิงห์บลูส์" บุกมาอีกครั้ง อเนลกา ได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนโยกหลอกกองหลังคู่แข่งจนหลุดขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ จากนั้นจ่ายบอลต่อให้ เอสเซียง ลองอัดด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลไม่ตรงกรอบอีกเหมือนเดิมและหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูกันอีกทำให้จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่นนำอยู่ 2-1

เกมครึ่งหลัง ฟูแลม เป็นฝ่ายที่มีโอกาสลุ้นทำประตูก่อนหลังเกมผ่านมาเพียง 4 นาที จากจังหวะที่ ซาโมรา ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดบอลเรียดเข้ากลาง ดิโอมองซี กามารา ที่เพิ่งลงสนามมาเกือบตามมาชาร์จบอลหน้าประตูทัน แต่ยังดีที่กองหลังเจ้าถิ่นเตะเคลียร์ทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด

แต่อีก 4 นาทีต่อมา เชลซี กลับเป็นฝ่ายขยับหนีห่าง 3-1 จากจังหวะโต้กลับเร็ว อเนลกา รับบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนกระชากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษทีมเยือน จากนั้นจ่ายตัดแผงหลังให้ ดร็อกบา วิ่งฉีกหนีตัวประกบมารับบอล หลุดเข้าไปโยกหลอก ชวาร์เชอร์ หนึ่งจังหวะก่อนแปบอลสวนตัวเข้าไปอย่างสบายๆ

เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงเป็นเจ้าถิ่นที่ยังครองบอลเหนือกว่าและเป็นฝ่ายบุกอย่างต่อเนื่อง คราวนี้ทีมมาได้ลูกฟรีคิกตรงหน้าเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหาร อัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งตรงเข้ากรอบประตู แต่ ชวาร์เซอร์ ยืนดักอยู่ปัดทิ้งออกไปได้ทัน อีก 5 นาทีต่อมา อเนลกา ตัดบอลได้จากกองหลังทีมเยือน ก่อนเลี้ยงบอลขึ้นมาถึงเส้นหลัง จากนั้นปาดเรียดเข้ากลาง ดร็อกบา ตามมาแหย่เท้า แต่บอลเพียงเข้าข้างตาข่าย

หลังจากนั้น เชลซี ประคองเกมและเน้นเกมรับกันมากขึ้นจนปิดโอกาสทวงประตูคืนของทีมเยือนทำให้สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดซัลโวประตูได้อีก จบ 90 นาที เจ้าถิ่นจึงเอาชนะไปอย่างสวยงาม 3-1 เก็บสามคะแนนเต็ม พร้อมรั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตารางต่อไป แต่มีคะแนนเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ 74 แต้ม และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม

ผลการแข่งขันคู่อื่น "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทำผลงานยอดเยี่ยมเช่นกันหลังบุกไปถล่ม "ปอมปีย์" ปอร์ทสมัธ 3-0 จากการเหมา 2 ประตูของ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ และ คาร์ลอส เบลา บวกเพิ่มอีกลูก ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านเข่น แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 3-1

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, อเล็กซ์, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ฟลอรองต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
ฟูแลม : มาร์ก ชวาร์เซอร์, เบรเด ฮังเกลันด์, แอรอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี, จอห์น แพนท์ซิล, ดิกสัน เอตูฮู, แดนนี เมอร์ฟีย์, คลินท์ เดมปซีย์, โซลตัน เกรา, บ็อบบี ซาโมรา, เอริก เฟนแลนด์

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
มิดเดิลสโบรช์ แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2
[0-1 : ไรอัน กิกส์ น.25], [0-2 : ปาร์ก จี ซอง น.51]
เชลซี ชนะ ฟูแลม 3-1
[1-0 : นิโกลาส์ อเนลกา น.2], [1-1 : เอริก เนฟแลนด์ น.4], [2-1 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.10], [3-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.53]
แมนฯ ซิตี ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-1
[1-0 : เฟลิเป ไซเซโด น.27] ,[2-0 : โรบินโญ น.34], [3-0 : เอลาโน ลูกจุดโทษ น.45], [3-1 : คีธ แอนดรูวส์ น.66]
ปอร์ทสมัธ แพ้ อาร์เซนอล 0-3
[0-1 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ น.13], [0-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ลูกจุดโทษ น.41], [0-3 : คาร์ลอส เบลา น.56]
สโต๊ค แพ้ เวสต์แฮม 0-1
[0-1 : ดิเอโก ตริสตัน น.33]
สเปอร์ส ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0
[1-0 : เจอร์แมน เจนาส น.43]
วีแกน เสมอ โบลตัน 0-0
กำลังโหลดความคิดเห็น